ผู้จัดการรายวัน 360 - โอ๊ตไซด์ (OATSIDE) นมโอ๊ตแบรนด์น้องใหม่จากประเทศสิงคโปร์ เดินหน้าทำตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มุ่งเจาะตลาดร้านกาแฟ คาเฟ่ และผู้บริโภคสนใจดูแลสุขภาพ พร้อมวางจำหน่ายแล้ว 3 รสชาติ
OATSIDE ก่อตั้งโดย เบเนดิกต์ ลิม (Benedict Lim) ชาวสิงคโปร์ เขาเคยดำรงตำแหน่ง Chief Financial Officer ของ Kraft Heinz Indonesia โดยเริ่มต้นธุรกิจท่ามกลางการล็อกดาวน์ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด ซึ่งในช่วงนั้นเบเนดิกต์เริ่มต้นทดลองทำนมโอ๊ตเองที่บ้าน โดยใช้ส่วนผสมต่างๆ และกระบวนการสกัดหลายรูปแบบเพื่อให้ได้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน ถือเป็นนมโอ๊ตเจ้าแรกๆ ที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคแถบนี้ของโลก โดยเป็นผู้ผลิตที่มีขีดความสามารถในการผลิตได้เอง ดูแลควบคุมเองทั้งหมดตั้งแต่การจัดหาวัตถุดิบและกระบวนการผลิต
เบเนดิกต์ ลิม ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ OATSIDE กล่าวว่า "OATSIDE เป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพด้านอาหารที่ดำเนินธุรกิจแบบ "ครบวงจร" รายเดียวในเอเชีย เพราะเราอยากควบคุมคุณภาพให้ได้ทั้งหมด เราจึงดูแลกระบวนการผลิตทั้งหมดเอง ตั้งแต่การจัดหาส่วนผสมไปจนถึงการสกัดนมโอ๊ตและการแบ่งบรรจุ ซึ่งช่วยให้เราสามารถปรับแต่งกระบวนการผลิตนมโอ๊ตแสนอร่อยของเราได้และช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีการใช้เฉพาะส่วนผสมคุณภาพดีเยี่ยมจากแหล่งที่มาที่ให้ความสำคัญต่อการผลิตที่ใส่ใจและคำนึงถึงความยั่งยืน”
นม OATSIDE ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่แสนอร่อยทดแทนการดื่มนมวัว ดังนั้นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่แพ้แลคโตส และเนื่องจาก OATSIDE ทำมาจากข้าวโอ๊ต จึงมีเบตากลูแคน
นอกจากนั้น ด้วยพันธกิจของเราที่ให้ความสำคัญต่อความยั่งยืน นม OATSIDE จึงถูกคิดค้นและผลิตขึ้นโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อโลกใบนี้ด้วย เมื่อเปรียบเทียบกับนมวัว การผลิตนมโอ๊ตของ OATSIDE ใช้พื้นที่และน้ำน้อยลง 90% และปล่อยมลพิษน้อยลง 70% อีกทั้งส่วนผสมในนมของเราทั้งหมดได้ผ่านการรับรองจาก Rainforest-Alliance และใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษแข็งรีไซเคิลด้วย (จากแหล่งที่ได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council)
นม OATSIDE มี 3 รสชาติให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทาน
โอ๊ตไซด์ บาริสตาเบลนด์ (OATSIDE Barista Blend) เป็นรสชาติออริจินัล ยังให้ฟองโฟมเนื้อละเอียดสวยงามเมื่อนำไปทำลาเตอาร์ต
โอ๊ตไซด์ ช็อกโกแลต (OATSIDE Chocolate) ใช้ส่วนผสมที่เข้มข้น เหมาะสำหรับทั้งผู้ใหญ่และเด็ก นมโอ๊ตรสนี้ทำขึ้นจากส่วนผสมของเมล็ดโกโก้ หรือ Cacao พันธุ์ผสมระหว่างอินโดนีเซีย-แอฟริกาที่ได้รับการรับรองจาก Rainforest Alliance 100%
โอ๊ตไซด์ ช็อกโกแลต เฮเซลนัท (OATSIDE Chocolate Hazelnut) ใช้ส่วนผสมจาก 'จานดูย่า' (Gianduja คือส่วนผสมของถั่วเฮเซลนัทบดกับช็อกโกแลต) ซึ่งวัตถุดิบที่เลือกใช้ทั้งหมดได้รับการรับรองจาก Rainforest-Alliance และนำเข้าจากตุรเคีย
OATSIDE ทุกรสชาติผลิตจากโอ๊ตนำเข้าจากออสเตรเลียและน้ำแร่ธรรมชาติ โดยได้รับการรับรองเครื่องหมายฮาลาล
"เราอยากให้ทุกคนได้ลองชิมผลิตภัณฑ์นมโอ๊ต OATSIDE เพราะเราทำงานกันอย่างหนักเพื่อพัฒนานมจากพืชสำหรับผู้บริโภคในเอเชีย เราไม่ลดละทั้งเรื่องคุณภาพ รสชาติ หรือผิวสัมผัส โดยหวังว่าผลิตภัณฑ์ของเราจะเป็นผลิตภัณฑ์จากพืชที่เติบโตอย่างมั่นคง เราเชื่อว่าการเดินหน้าสู่การสร้างความยั่งยืนนั้น เป็นสิ่งที่เราทุกคนต้องทำร่วมกัน สำหรับในประเทศไทย เรามีพันธมิตรสำคัญที่ใช้นม OATSIDE เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มและขนมเพื่อส่งมอบคุณภาพความอร่อย และความยั่งยืนให้แก่ลูกค้าคนไทยแล้ว เช่น ร้าน The Coffee Club ร้าน True Coffee ร้านไอศกรีม MollyAlly ร้านขนม Chikalicious ร้านชา Chaen Tea” เบเนดิกต์กล่าว
ทั้งนี้ นม OATSIDE ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ โดยมี บรูนา ซิลวา บาริสตาสาวชาวบราซิลผู้โด่งดังด้านกาแฟในประเทศไทยเป็น Brand Ambassador และได้สาธิตการชงกาแฟรสเลิศด้วยนม OATSIDE นอกจากนั้น เธอยังคิดค้นสูตรเมล็ดกาแฟเบลนด์พิเศษจากเมล็ดกาแฟไทยภายใต้ชื่อ “OATSIDE Blend” เพื่อใช้ชงเฉพาะกับนม OATSIDE ให้ได้รสชาติอร่อยและกลิ่นที่หอมกรุ่นเป็นพิเศษอีกด้วย โดยจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ FB และ IG ของเธอ
นม OATSIDE มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำใกล้บ้านคุณแล้วในกล่องขนาด 1,000 ML ทั้ง 3 รสชาติ ได้แก่ บาริสตาเบลนด์ (ราคา 115 บาท) ช็อกโกแลต (ราคา 115 บาท) และช็อกโกแลต เฮเซลนัท (ราคา 130 บาท) อีกทั้งจะจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้ง Shopee และ Lazada เร็วๆ นี้ นอกจากนั้น ลูกค้ายังสามารถชิมผลิตภัณฑ์ที่ใช้นม OATSIDE เป็นส่วนผสมได้ที่ร้านพันธมิตรของเรา ไม่ว่าจะเป็น ร้าน The Coffee Club ร้าน True Coffee ร้านไอศกรีม MollyAlly ร้านขนม Chikalicious และ ร้านชา Chaen Tea
เกี่ยวกับ OATSIDE
พันธกิจของ OATSIDE คือ การผลิตนมโอ๊ตที่ดีต่อสุขภาพและช่วยสร้างความยั่งยืนสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยจะชอบนมจากพืชนัก
ปัจจุบัน OATSIDE ระดมทุนได้แล้ว 22 ล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยปิดรอบ Pre-Series A ในเดือนธันวาคม 2020 นำโดย Proterra Investment Partners Asia ซึ่งเป็นบริษัทด้านการลงทุนใน private equity (เข้าซื้อหุ้นหรือลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) ที่เน้นการลงทุนใน food value chain ส่วนนักลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ Commonwealth Ventures ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Commonwealth Capital กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของสิงคโปร์ Wee Teng Wen จาก The Lo & Behold Group ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจบริการชั้นนำของสิงคโปร์ที่อยู่เบื้องหลังแบรนด์ต่างๆ เช่น The Warehouse Hotel, Odette และ Loof รวมถึงกิจการของครอบครัวของ Cher Wang ผู้ร่วมก่อตั้งและประธาน VIA Technologies และ HTC Corporation