ผู้จัดการรายวัน 360 – “สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต” เปิดเกมรุก รับเปิดประเทศ ดึงนักท่องเที่ยวจะเข้ามาช้อปปิ้ง วางแผนตลาดครบเครื่อง พร้อมเผยแบรนด์หรูจะทยอยเปิดร้านครึ่งปีหลังนี้อีกเพียบ
นายไมเคิล ถัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ ไซม่อน จัด ผู้บริหารโครงการสยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดด้านโควิด-19 ลงหลายประการ และได้มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยได้สะดวกขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจในภาพรวมของประเทศ
โดยเฉพาะในส่วนของเอาท์เล็ตพบว่า สถานการณ์โดยรวมดีขึ้นตามลำดับ พิจารณาจากปัจจัยหลักคือ ปริมาณลูกค้ามาเดินหรือทราฟฟิกเพิ่มขึ้นทั้งคนไทยและนักท่องที่ยวต่างชาติเฉลี่ย 8,000-10,000 คนต่อวัน ค่าใช้จ่ายซื้อสินค้าเฉลี่ย 1,200 บาทต่อคน และการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ช่วงเดือนพฤษภาคม มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาช้อปปิ้งที่ศูนย์ฯเพิ่ม 80% จากเดือนก่อนหน้า
อีกทั้งลูกค้าที่แวะมาช้อปปิ้งช่วงขากลับก่อนที่จะเดินทางไปที่สนามบิน ซึ่งเป็นจำนวนกว่า 20% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมดของศูนย์ฯ และคาดว่าจากนี้ไปหลังจากที่ภาครัฐได้ประกาศนโยบายเปิดประเทศเต็มรูปแบบ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางมาช้อปปิ้งที่ศูนย์ฯ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 40% จากจำนวนลูกค้าทั้งหมด โดยมีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติของททท.
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีหลัง 2565 สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ยังคงเกาะติดสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของโลกและเศรษฐกิจของประเทศไทย ภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน และเฝ้าระวังความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด รวมถงาราน้ำมนด้วย และถึงปัจจัยเสี่ยงรอบด้านที่ควบคุมไม่ได้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการใช้ชีวิตของผู้คน
“ไตรมาสที่ามของปีนี้ เราต้องระวังให้ดี เพราะถ้าหากไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ไม่ดีเกิดขี้นและผ่านไปได้ จะทำให้ไตรมาสที่สี่นี้ดีแน่่นอน เพราะไตรมาสที่สามถือเป็นช่วงโลว์ซีซั่นส์ของการท่องเที่ยวด้วย” นายไมเคิล กล่าว
ทั้งนี้แผนการตลาดและการบริการที่ดำเนินการคือ การกลับมาให้บริการ Shuttle Bus โดย สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ได้ร่วมให้บริการกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง Trip.com หนึ่งในผู้นำการจองการท่องเที่ยวออนไลน์ของโลก โดยลูกค้าสามารถจองผ่านระบบจากทาง Trip.com และจะมีการประสานงานจอดรับที่จุดนัดพบและมาส่งที่ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ รวมไปถึงการบริการรับจาก สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ กลับไปยังใจกลางเมืองกรุงเทพฯ อีกด้วย พร้อมทั้งยังได้ร่วมกับบัตรเครดิต VISA มอบโปรโมชั่นสำหรับ International Card Holder รับทันที Starbucks e-Coupon มูลค่า 100 บาท เมื่อช้อปตามเงื่อนไข
นอกจากนี้ ยังได้กลับมาเปิดให้บริการ Currency Exchange เพิ่มความสะดวกรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และส่งเสริมสนับสนุนร้านค้าเรื่อง E-Vat Refund for Tourist ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวได้คืนภาษีมูลค่าเพิ่มสูงสุดถึง 6% และช่วยให้รู้สึกว่าได้ช้อปสินค้าในราคาที่คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความพึงพอใจให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวขาช้อปมากขึ้น ตลอดจนยังได้จัดเตรียมบริการลีมูซีนไว้คอยบริการส่งนักท่องเที่ยวไปยังจุดหมายต่างๆ ซึ่งเป็นบริการเสมือนลีมูซีนในสนามบิน สามารถใช้บริการได้ไกลถึงพัทยา หรือหัวหิน
ขณะเดียวกันในครึ่งปี 2565 นี้ หลังจากสถานการณ์โควิด-19 เริ่มฟื้นตัวดีขึ้น เหล่าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมายจากทั่วโลกร่วมเป็นพันธมิตรเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ โดยได้ให้ความไว้วางใจ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ เป็นสถานที่นำเสนอสินค้าและบริการให้ผู้คนได้ตื่นเต้นอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรู ไลฟ์สไตล์แบรนด์ สินค้าแฟชั่น ซึ่งมีร้านดังที่ทยอยเปิดตั้งแต่ช่วงไตรมาสแรก และไตรมาสที่ 2 ได้แก่ Michael Kors แบรนด์แฟชั่นดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน ซึ่งเป็น Outlet Concept ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และ Bath & Body Works แบรนด์ดังอันดับหนึ่งของอเมริกาในด้านผลิตภัณฑ์ดูแลผิวกายและกลิ่นหอมอย่างครบสูตร ที่เปิด Outlet Concept ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย รวมถึง Swiss Watch มีเฉพาะที่ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ แห่งเดียวเท่านั้น รวบรวมหลากหลายแบรนด์นาฬิกาชั้นนำระดับโลก อาทิ Longines, Maurice Lacroix, Oris เป็นต้น, Mossimo แบรนด์ใหม่แนวแฟชั่นสายสตรีทจากแคลิฟอร์เนีย
รวมถึง Wish & Co. คาเฟ่ ที่มีสินค้าลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์หลากหลาย เช่น Disney จำหน่ายภายในร้านด้วย เป็นต้น รวมทั้งร้านจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านและผลิตภัณฑ์ไลฟ์สไตล์ Komfy แบรนด์ที่นอนและหมอนคุณภาพเกรดพรีเมี่ยม, Origani แบรนด์บริการความงามและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจากธรรมชาติจากออสเตรเลีย, Shoebar มัลติแบรนด์สโตร์ที่รวมแบรนด์รองเท้าอิมพอร์ตจากแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Ipanema, Zaxy, Jelly Bunny, Footwork, United Nude ที่จะเปิดเร็วๆ นี้, Rebecca Minkoff ร้านแฟชั่นแบรนด์ดีไซเนอร์จากสหรัฐอเมริกา และ The Cosmetic Company Store ซึ่งเป็น Outlet Store ในเครือบริษัทเอลก้า (ประเทศไทย) ที่รวบรวมแบรนด์เครื่องสำอาง อาทิ Estee Lauder, Clinique, Origins, MAC, Bobbi Brown เป็นต้น ส่วนในไตรมาส 3 เตรียมพบกับแบรนด์ลักชัวรีใหม่ล่าสุด VERSACE ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูจากอิตาลี ที่เพิ่งลงนามสัญญาจะมาเปิดเอาท์เล็ตแห่งแรกในประเทศไทย ที่ สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ ที่เดียวเท่านั้น
ทั้งนี้อัตราการเปิดร้านค้าในวันเปิดบริการวันแรก18 มิถุนายน 2563 มีประมาณ 65% และเป็น 90% เมื่อสิ้นปี 2563 ส่วนปีที่แล้วประมาณ 95% อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้ไม่ถึง 90% เนื่องจากว่าผู้บริหารศูนย์อาหารรายเดิมได้ขอถอนตัวออกไปแล้ว ซึ่งพื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการว่าจะร่วมทุนกับผู้ที่สนใจเข้ามาบริหารจัดการหรือไม่ นอกจากนั้นยังพื้นที่เหลือประมาณ 4% ซึ่งเตรียมเอาไว้สำหรับร้านระดับลักซ์ชัวรี่ ประมาณ 2 แบรนด์ ซึ่งขณะนี้มีการเจรจากับหลายแบรนด์ เพราะคงต้องใช้เวลา