กรุงเทพมหานคร-วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2565 – แลนเซสส์ (LANXESS) บริษัทผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษและ Advent International (“Advent”) ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการลงทุนเอกชนรายใหญ่ที่สุดและมีประสบการณ์มากที่สุดในโลกที่มีประวัติการลงทุนในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์มาอย่างยาวนาน ประกาศร่วมกันตั้งบริษัทร่วมทุนด้านวัสดุโพลีเมอร์วิศวกรรมประสิทธิภาพสูง (High-Performance Engineering Polymers) โดยทั้งสองบริษัทได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อซื้อธุรกิจ DSM Engineering Materials (DEM) จากกลุ่ม Royal DSM ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมทุนใหม่ ราคาซื้ออยู่ที่ประมาณ 3.7 พันล้านยูโรและจะได้รับการสนับสนุนทางการเงินในการซื้อกิจการครั้งนี้จากการร่วมทุนผ่านหุ้นกับ Advent และหนี้ภายนอก ธุรกิจนี้มียอดขายประมาณ 1.5 พันล้านยูโรโดยมี EBITDA margin อยู่ที่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ DEM เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำระดับโลกในด้านวัสดุชนิดพิเศษที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งตอบสนองความต้องการของตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า และสินค้าอุปโภคบริโภค
นอกจากนี้ แลนเซสส์จะโอนหน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (High Performance Materials :HPM) ให้กับกิจการร่วมค้านี้ HPM เป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ชั้นนำด้านโพลีเมอร์ประสิทธิภาพสูง ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหลัก หน่วยธุรกิจนี้มียอดขายทั้งปีประมาณ 1.5 พันล้านยูโร โดยมี EBITDA จากการดำเนินงานตามปกติประมาณ 210 ล้านยูโร Advent จะถือครองหุ้นอย่างน้อย 60 เปอร์เซ็นต์ในการร่วมทุน โดยแลนเซสส์จะได้รับการชำระเงินเบื้องต้นอย่างน้อย 1.1 พันล้านยูโรและถือหุ้นสูงถึง 40 เปอร์เซ็นต์ในการร่วมทุนนี้ ภายหลังการโอนไปยังกิจการร่วมค้า หน่วยธุรกิจ HPM จะไม่อยู่ร่วมในกลุ่มแลนเซสส์อีกต่อไป แต่จะแสดงร่วมอยู่ในงบการเงินรวมในส่วนของผู้ถือหุ้น
การเคลื่อนไหวครั้งจะนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับกลุ่มธุรกิจของแลนเซสส์ซึ่งจะประกอบด้วยกลุ่มเคมีภัณฑ์พิเศษสามกลุ่มที่เหลือเมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้นลง แลนเซสส์จะนำเงินที่ได้รับจากการทำธุรกรรมนี้เพื่อมาใช้ลดหนี้และเสริมความแข็งแกร่งให้กับงบดุล นอกจากนี้กลุ่มบริษัทมีแผนการจะซื้อคืนหุ้นในปริมาณสูงถึง 300 ล้านยูโร
แลนเซสส์อาจจะขายหุ้นในกิจการร่วมค้านี้ให้กับ Advent ด้วยการประเมินมูลค่าในราคาเดียวอย่างเร็วสุดหลังจากการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนนี้ผ่านไปแล้วสามปี จะทำให้ EBITDA สูงขึ้นกว่าปัจจุบันนี้ เนื่องจาก Advent และแลนเซสส์คาดว่าการผนึกกำลังที้จะช่วยเสริมแรงกันให้ธุรกิจเข้มแข็งยิ่งขึ้นอันเป็นผลจากการรวมกันของทั้งสองธุรกิจ
การทำธุรกรรมยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากทางการ คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566
การรวมตัวกันทั่วโลกของสองหน่วยธุรกิจนี้มีการบูรณาการย้อนกลับไปจนถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ
หน่วยธุรกิจวัสดุทางวิศวกรรมของ DSM ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์วัสดุโพลีเอไมด์ (PA6, PA66) รวมถึงวัสดุพิเศษต่างๆ (PA46, PA410 และโพลีเอสเตอร์พิเศษตลอดจน PPS) โดยมีพนักงานประมาณ 2,100 คนทำงานในแผนกนี้ในโรงงานผลิต 8 แห่งและศูนย์วิจัย 7 แห่งในตลาดที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั่วโลก หน่วยธุรกิจนี้ยังมีสถานะที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษในภูมิภาคเอเชีย นอกเหนือไปจากในภูมิภาคยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว
หน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (HPM) ของแลนเซสส์เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำด้านวัสดุวิศวกรรมโพลีเมอร์ PA6 และ PBT และคอมโพสิตไฟเบอร์เทอร์โมพลาสติก มีพนักงาน 1,900 คนในโรงงานผลิต 10 แห่งและศูนย์วิจัย 7 แห่งทั่วโลกทำงานให้กับ HPM เครือข่ายการผลิตทั่วโลกมีลักษณะการรวมตัวย้อนกลับไปจนถึงอุตสาหกรรมต้นน้ำ (Backward Integration) ในระดับสูง โดยมีหน่วยงานหลักที่เป็นกระดูกสันหลังคือโรงงานที่เมือง Antwerp / Belgium ที่นั่น HPM ไม่เพียงผลิตโพลีเมอร์ PA6 เท่านั้น แต่ยังผลิตสารตั้งต้นที่เกี่ยวข้อง เช่น คาโปรแลคตัมและเส้นใยแก้ว
กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม
ทั้ง DEM และ HPM เป็นผู้บุกเบิกด้านความยั่งยืนกับสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอทางเลือกชีวภาพและวัสดุรีไซเคิลในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของตน ตัวอย่างเช่น เมื่อเร็วๆ นี้แลนเซสส์ได้เปิดตัววัสดุพอลิเมอร์ประสิทธิภาพสูงตัวใหม่ซึ่งทำจากวัตถุดิบที่ยั่งยืน 92 เปอร์เซ็นต์ ในการผลิตโพลีเมอร์ นี้แลนเซสส์ใช้ไซโคลเฮกเซน "สีเขียว" (Green Cyclohexane) จากแหล่งที่ยั่งยืน เช่น น้ำมันเรพซีด (Rapeseed Oil) หรือชีวมวลอื่นๆ เป็นวัตถุดิบ เสริมด้วยวัสดุใยแก้วที่มีส่วนผสมตามน้ำหนัก 60 เปอร์เซ็นต์มาจากวัสดุรีไซเคิลจากเศษแก้วอุตสาหกรรม
มุ่งสู่ตลาดแห่งอนาคต
อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายสำหรับการร่วมทุนใหม่นี้ มีการใช้โพลีเมอร์สำหรับองค์ประกอบน้ำหนักเบาในชิ้นส่วนโครงสร้าง แต่ยังรวมถึงองค์ประกอบสำหรับการตกแต่งภายในและมักจะใช้ทดแทนชิ้นส่วนเดิมที่เป็นโลหะอีกด้วย ด้วยแนวทางนี้จึงสามารถลดน้ำหนักและลดการปล่อย CO2 ได้ พื้นที่การเติบโตที่สำคัญคือการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า (Electromobility) โอยอุตสาหกรรมนี้ใช้โพลีเมอร์ เช่น ในการทำแบตเตอรี่และระบบชาร์จ ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์กำลัง
นอกจากนี้ วัสดุดังกล่าวยังใช้ในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อีกด้วย เช่น ในส่วนประกอบสำหรับสมาร์ทโฟน อุปกรณ์ไอที และเครื่องใช้ในครัวเรือน