PTTGC ชี้ปีนี้มีกำลังการผลิตโตขึ้น 2% มาจากการซื้อกิจการ Allnex ปลื้ม Allnex มี EBITDA เพิ่มขึ้นอีก 50% ใน 4 ปีข้างหน้า เล็งปิดดีล M&A ธุรกิจ High Value ในปี 66
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) (PTTGC) เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้วราว 2% แม้ว่าจะมีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานโอเลฟินส์ ทำให้กำลังการผลิตลดลงเล็กน้อย แต่รับรู้กิจการ Allnex Holding GmbH (Allnex) ที่บริษัทได้ซื้อกิจการมาเมื่อปี 2564 ทำให้มีกำลังการผลิตรวมปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งโรงงานของคูราเร่เดินเครื่องจักรผลิตพลาสติกวิศวกรรมชั้นสูงในปีนี้
ส่วนธุรกิจโรงกลั่นแม้ว่ามาร์จิ้นการกลั่นสูงขึ้น แต่ไม่ใช่ธุรกิจหลักของบริษัท เนื่องจากผลิตภัณฑ์จากโรงกลั่นกว่า 50% นำไปทำปิโตรเคมีต่อ ขณะที่ตลาดปิโตรเคมีไม่ดีเมื่อเทียบปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นตามราคาน้ำมัน
ในปีนี้บริษัทได้เร่งทำ Snergy กับ Allnex ทำให้มั่นใจว่า Allnex จะมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้นอีก 50% ใน 4 ปีข้างหน้า โดยที่บริษัทไม่ต้องใส่เงินเพิ่ม จากเดิมที่ประเมินว่า Allnex มี EBITDA ประมาณ 400 ล้านยูโร/ปี แต่เมื่อบริษัทได้เข้าไปร่วมบริหาร พบว่า Allnex มีแผนลงทุนเพิ่มเติมในจีนและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่งผลให้ Allnex จะมี EBITDA เพิ่มขึ้นเป็น 600 ล้านยูโรในปี 2569 ดีกว่าที่บริษัทคาดการณ์ไว้
นายคงกระพันกล่าวถึงกรณีที่แหล่งเอราวัณผลิตก๊าซฯราว 300 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน น้อยกว่าสัญญาแบ่งปันผลผลิต (PSC) ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วันว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากปริมาณก๊าซฯ ในอ่าวไทยที่ลดลง เนื่องจากบริษัทได้มีการลงทุนโครงการ ORP ที่ใช้แนฟทาเป็นวัตถุดิบ รวมทั้งโครงการ Olefins 2 Modification (OMP) เพิ่มความยืดหยุ่นของวัตถุดิบ (Feedstock) โดยจะได้โพรพิลีนเพิ่มจำนวน 63,000 ตัน คาดว่าจะผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 1/2566
นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทไม่มีการลงทุนเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่ต้องใช้เงินจำนวนมากเหมือนปีก่อน แต่ปี 2566 บริษัทคาดว่าจะเห็นการปิดดีล M&A เพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงงานผลิตภัณฑ์ High Value รวมทั้งมีการลงทุน Venture Capital ในธุรกิจสตาร์ทอัพที่เป็นธุรกิจ New S-Curve สอดรับกับเมกะเทรนด์
อย่างไรก็ดี บริษัทเตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป โดยจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 22 -23 มิถุนายน 2565 ให้แก่ผู้สูงวัย (บุคคลธรรมดาที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป หรือจะมีอายุครบ 60 ปี ในปี พ.ศ. 2565 และช่วงที่สองคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 27-29 มิถุนายน 2565 ให้แก่ประชาชนทั่วไปซึ่งรวมถึงผู้สูงวัยด้วย โดยจะมีการกำหนดอัตราผลตอบแทนและรายละเอียดการจองซื้อให้ทราบในภายหลัง
Allnex ถือเป็นผู้นำระดับโลกในธุรกิจผลิตภัณฑ์ Coating Resins allnex ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มสารเคลือบและสารเติมแต่งสำหรับใช้กับวัสดุทุกประเภท เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก เป็นต้น รวมถึงเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชันการพัฒนาแอปพลิเคชันการเคลือบต่างๆ โดยมีโรงงานการผลิตที่ทันสมัย 33 แห่งใน 18 ประเทศ ศูนย์การวิจัยและเทคโนโลยีอีก 23 แห่ง โดย Allnex มีรายได้ประมาณ 2,000 ล้านยูโร หรือ 74,167.2 ล้านบาท