Binance ซึ่งเป็นหนึ่งใน 18 ผู้ร่วมลงทุนโดยอนุมัติงบกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการซื้อกิจการ Twitter ของ Elon Musk ควบคู่ไปกับบริษัทต่างๆ เช่น Sequoia Capital Fund และ Fidelity Management and Research Company
จากการเปิดเผยของ cointelegraph ระบุถึง Binance บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตฯ และให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก ได้เข้าร่วมในการซื้อกิจการ Twitter ของ Elon Musk มูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม Musk ได้ยื่นคำชี้แจงทั่วไปฉบับแก้ไขของการเข้าซื้อกิจการ โดยประกาศว่า Twitter ได้รับเงินรวมประมาณ 7.2 พันล้านดอลลาร์ในภาระผูกพันทางการเงินใหม่ที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงการควบรวมกิจการ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขในจดหมายผูกพันส่วนของผู้ร่วมลงทุน
อย่างไรก็ดี ตามเอกสารของ Binance ระบุว่าเป็นหนึ่งใน 18 ผู้ร่วมลงทุนในการซื้อกิจการควบคู่ไปกับผู้เล่นในอุตสาหกรรม crypto รายใหญ่ เช่น Sequoia Capital Fund และ Fidelity Management and Research Company โดยหลังจากลงทุนไป 500 ล้านดอลลาร์ Binance เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่อันดับ 4 รองจาก thLawrence J. Ellison Revocable Trust ซึ่งลงทุนไป 1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ Sequoia Capital และ VyCapital ลงทุนจำนวนเงิน 800 ล้านดอลลาร์และ 700 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
A small contribution to the cause. https://t.co/xD9XZxOWfL— CZ 🔶 Binance (@cz_binance) May 5, 2022
ด้าน Changpeng Zhao (ฉางเผิงจ้าว) CEO ของ Binance โพสต์บน Twitter ภายหลังการยื่นฟ้องต่อสาธารณะ โดยอธิบายว่า "การลงทุนของบริษัทเป็นส่วนสนับสนุนเล็กๆ น้อยๆ ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้"
ขณะที่นักลงทุนในตราสารทุนจดทะเบียนแต่ละรายที่กล่าวถึงในเอกสารมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมทันทีก่อนปิดการซื้อกิจการ “นักลงทุนในตราสารทุนยังคงมีตัวเลือกที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันด้านทุนของนักลงทุนตราสารทุนด้วยหุ้นสามัญที่ถือโดยนักลงทุนในตราสารทุนดังกล่าว ซึ่งมีมูลค่า 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น” เอกสารระบุ
ด้าน Elon Musk มหาเศรษฐี CEO และผู้ก่อตั้ง Tesla ซึ่งได้ประกาศซื้อ Twitter อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 เมษายน โดยคาดว่าธุรกรรมมูลค่า 44 พันล้านดอลลาร์จะเสร็จสิ้นในปี 2565 ซึ่งขึ้นอยู่กับการอนุมัติของผู้ถือหุ้น Twitter และหน่วยงานกำกับดูแล ก่อนหน้านี้เขากล่าวว่าหนึ่งในความสำคัญสูงสุดของเขาสำหรับ Twitter คือการลบ “บอทสแปม และสแกม รวมไปถึงกองทัพบอท และผู้ใช้ที่เป็นอวตารซึ่งต่อไปจะปรับปรุงเกณฑ์ผู้ใช้งานเจ้าของบัญชีต้องมีการระบุตัวตน เพื่อขยายการใช้งานไปยังบล็อกเชน คริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัล"
นอกจากนี้ ความร่วมมือกันระหว่างกระดานเทรดเบอร์ 1 ของโลก และทวิตเตอร์สื่อโซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ของโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ Musk ได้ขอให้ทาง Binance ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาบางอย่างบนแพลตฟอร์มเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการถอน Dogecoin (DOGE) ที่ติดอยู่บน Binance โดยเฉพาะ ซึ่งทาง Elon Musk ได้ขอให้ ฉางเผิงจ้าว CEO ของ Binance อธิบายถึงปัญหาและเร่งหาทางแก้
