xs
xsm
sm
md
lg

‘วินเนอร์-วินชนะ พฤกษานานนท์’ Unlock ธุรกิจด้วยแนวคิดความเข้าใจ กับผลลัพธ์ของการทำงานที่สบาย และดีกว่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานการณ์ปัจจุบันหลายๆ คนเริ่มปรับตัว ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ยืดหยุ่นได้มากขึ้น ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน รวมไปจนถึงวิธีในการจัดการการทำงาน เราต้องบริหารและจัดการการทำงานให้เป็นระบบมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดรูปแบบแนวคิดในการทำงานที่กำลังเป็นจุดเปลี่ยนของทั้งองค์กร ผู้บริหาร รวมไปถึงพนักงาน วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับแนวคิดการทำงานผ่านนักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีแนวคิดในการผสมผสานการใช้ชีวิต การทำงาน ตลอดจนการสะท้อนแนวคิดนี้ไปสู่พนักงานและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความสบาย เพื่อผลลัพธ์ของงานที่ดีกว่ากับคุณวินเนอร์ วินชนะ พฤกษานานนท์


ความสบายในการทำธุรกิจของคุณวินเนอร์ คือ?

จริงๆ แล้วหากจะบอกว่าสบายนั้น คงไม่ใช่ซะทีเดียวครับ ในมุมมองผมความสบายในที่นี้มันคือองค์รวมของการทำงานมากกว่า ที่เราเน้นความสบายใจ และความเข้าใจของการทำงานให้กับพนักงานของเรา เพื่อให้เขารู้สึกมีความสุข ไม่ฝืนที่จะทำมัน เมื่อเรารู้ว่าพนักงานของเราต้องการอะไร เราจะพยายามปรับให้รูปแบบของงานมัน Flexible และตอบโจทย์ในความเป็นปัจเจกครับ ด้วยความที่การบริหารจัดการองค์กรของเราไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก ผมจึงเน้นการบริหารกับพนักงาน หรือหุ้นส่วนเหมือนแบบครอบครัว เน้นความเข้าใจ และความสบายใจในการทำงาน เมื่อเขาสบายใจที่จะทำ มีความสุข มันก็จะสะท้อนกลับมาที่ผลลัพธ์ของงานที่ดี และทำให้ธุรกิจของเราที่เน้นภาคการบริการนั้นส่งความสุขต่อไปหาลูกค้าของเราครับ


สิ่งที่คุณวินเริ่มต้นทำจะมาจากความชอบและ Lifestyle เป็นหลัก?

ใช่ครับ ความชอบสำคัญมากๆ เพราะถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ความรู้มาก แต่ความสนใจ และความหลงใหลจะสร้างแรงให้เราศึกษาเพื่อเข้าใจได้มากขึ้น จากสิ่งที่ผมเรียนมานั้นจะเห็นว่าจะไม่ได้ทำงานตรงสายซะทีเดียว แต่เราจะได้เรื่องของระบบความคิดมาต่อยอด เพราะฉะนั้นการต่อยอดแนวความคิดให้เป็นรูปร่าง หรือธุรกิจนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้แรงเยอะพอสมควร ในการศึกษาหาความรู้ วิเคราะห์ ประเมินตลาดต่างๆ ซึ่งตรงนี้เองความชอบ และ Lifestyle ของเราจะทำหน้าที่ต่อว่า เราจะพาความคิดนี้ไปได้ถึงจุดไหน หากเราเริ่มต้นจากสิ่งที่เราไม่ชอบ หรือฝืนในตัวตนของเรา สำหรับผมผมคงทำมันไม่ได้ไกลมาก และไม่มีความสุขในระหว่างที่ทำมันครับ ซึ่งแน่นอนว่ามันยังมีรายละเอียดช่วยต่อยอดความชอบอีกที่เป็นจุดในการตัดสินใจทำธุรกิจแต่ละตัว เช่น ความพร้อมที่เราได้เปรียบในด้านใดด้านหนึ่งที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่หรือบุคลากรที่เหมาะกับงาน หรือจะเป็นโอกาสหรือช่วงเวลาที่ได้มาทำ ไม่ว่าจะมีปัจจัยได้เปรียบข้อไหนที่เรามีอยู่ใกล้ตัวก็จะสามารถลดความเสี่ยง ลดต้นทุน และทั้งยังเพิ่มโอกาสการก้าวกระโดดได้ไปในตัว

การรู้จักตลาดนั้นๆ เพื่อสร้างความยั่งยืนของธุรกิจ ต้องเห็นโอกาสว่าธุรกิจนั้นๆ สามารถยืนระยะได้ไกลขนาดไหน และสามารถเชื่อมไปธุรกิจอื่นที่ขยับสเกลได้ไหมก็จะเป็นปัจจัยที่ต่อยอดจากจุดเริ่มต้น และความชอบของเราครับ


ธุรกิจในแต่ละตัวนั้นมีความแตกต่างกันมาก อะไรคือ Key success ในการบริหารจัดการธุรกิจนั้นๆ?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ธุรกิจแต่ละตัวนั้นสามารถเชื่อมโยงกันได้ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง เมื่อเราเจอความเชื่อมโยงนั้นแล้ว เราจะถอยมาทำในสิ่งที่เราถนัดและต่อยอดมันในมุมของเราครับ ซึ่งในส่วนของการบริหารจัดการในพาร์ตอื่นๆ ผมก็จะมีหุ้นส่วนและพนักงานที่ช่วยกันทำหน้าที่ที่ต่างกันออกไปตามแต่ความถนัด และความชอบ ซึ่งเราจะพยายามหาคนที่มาร่วมธุรกิจในจุดที่เราขาดเพื่อให้เขาได้ทำงานได้อย่างไม่ฝืน เราจะไม่พยายามนำความชอบของเราไปครอบใคร เราจะเริ่มต้นจากความเข้าใจในตัวธุรกิจสิ่งที่เราจะทำและส่งต่อให้กับลูกค้า และทุกคนที่เข้ามาทำนั้นจะอยู่ตรงไหน เพื่อสร้างความสบายใจในการทำงานตั้งแต่ต้น ซึ่งทำให้ธุรกิจมันสามารถเดินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความที่ธุรกิจเรายังเล็ก ผมจึงเน้นเรื่องของพนักงานในองค์กรเป็นหลักให้เหมือนครอบครัว ทุกคนมีความสุขที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ เป็นปัจจัยหลักในการบริหารจัดการครับ เพราะมันจะทำให้เห็น potential ของแต่ละบุคคล วางให้พอดีแล้วงานจะเดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ความสำคัญของ Lifestyle และการทำธุรกิจสำหรับคุณวิน มีความสอดคล้องกันในมุมไหนบ้าง?

ผมชอบความเรียบง่าย ชีวิตเมืองมันยาก วุ่นวาย และทำให้เราสิ้นเปลืองทรัพยากร ไม่ชอบอยู่ในเมือง ไม่ชอบนั่งในออฟฟิศ ไม่ชอบห้องแอร์ ทุกวันนี้งานเราก็ยังต้องนั่งทำกับ laptop เยอะอยู่ก็จริง ไม่ว่าจะออกแบบเรือ ทำงาน graphic เขียน content ประชุมก็บ่อย แต่ด้วยเนื้องานที่หลากหลายก็ยังทำให้เรายังมีโอกาสได้ออกเรือบ้าง ไปอยู่เกาะบ้าง ได้อยู่ใกล้ธรรมชาติ ตอนนี้ย้ายออกมาจากกรุงเทพฯ เต็มตัว มาอยู่ใกล้ทะเล ใกล้ธรรมชาติ เลิกงานก็ลุกจากโต๊ะออกไปว่ายน้ำได้ ไปวิ่งริมทะเลได้ รู้สึกตัวเบากว่าเดิมมากเลยครับ ซึ่งเมื่อเราเลือกที่จะทำงานในมุมนี้มันทำให้ผลลัพธ์มันออกมาได้ดีกว่าเดิม เหมือนเราสบายใจ และมีความสุขเพิ่มขึ้น ที่มันเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน และการใช้ชีวิต การคิดต่อยอดไอเดียต่างๆ มันก็เพิ่มเติมมากขึ้นครับ อันนี้อาจจะเป็นมุมส่วนตัวของเราแต่ผมรู้สึกว่าการที่ไม่ฝืนทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็น มันให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าในการใช้ชีวิต


ในการบริหารจัดการธุรกิจในมุมของผู้คน คุณวินมีหลักการในการคิด หรือบริหารอย่างไรให้คนที่ทำงานรู้สึกสบายใจ และมีความสุขในการทำงาน?

ผมทำงานแบบดูแลกันเป็นครอบครัวเพราะเราให้ความสำคัญทุกคน งานหนักก็เหนื่อยด้วยกัน เวลาพักก็พักให้สุดด้วยกัน เช่น ทีมงาน Sunne Voyage ที่เป็นคนในพื้นที่ก็จะเจอกันตลอดปรึกษากันได้ทุกเรื่อง คุยสารทุกข์สุกดิบ การพัฒนาชุมชนควรไปทางไหนเป็นอย่างไร จะทำอะไรกันต่อ จะคุยกัน ดูแลกันตลอด กับทีมงานที่เกาะมันนอกช่วงที่เราลงไปปรับพื้นที่ รวมถึงสร้างองค์ความรู้ในการดูแล อนุรักษ์พื้นที่ทางทะเล เพื่อสร้างทัศนียภาพที่สวยงามให้กับเกาะ ผมก็จะลงไปเก็บขยะ ลุยกับคนงานทุกวัน ทำกับเขา สนุกกับเขา เหนื่อยด้วยกัน ให้ทุกๆ คนเห็นว่าสิ่งที่เราทำนั้นคืออะไร เรามีความสุขกับมัน ค่อยๆ สร้างความเข้าใจจนทุกวันนี้ทีมงานทุกคนก็สัมผัสได้ถึงตรงนี้ และมีความสุขในการทำงาน เพราะสิ่งที่เราทำมันดีกับทั้งธุรกิจ ธรรมชาติ และตัวของทุกๆ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่ด้วยกัน


บริหารจัดการเวลาการทำงาน การใช้ชีวิตอย่างไร?

การทำงานและการใช้ชีวิตของผมมันผสมผสานกันทั้งหมด คือ เราสามารถทำงาน และใช้ชีวิตและทำในสิ่งที่เราชอบไปได้พร้อมๆ กัน แต่ในมุมของการจัดการจริงๆ คือ การแพลนในแต่ละวันโดยแบ่งสัดส่วนให้มีความยืดหยุ่นของงาน คือไม่ fix ตายตัวจนทำให้กดดันตัวเองมากเกินไป ซึ่งในตัวการงานแต่ละงานนั้น เราจะพยายามจัดการให้เป็นระบบและเป็นแพตเทิร์นที่ทำให้เราทำงานได้คล่องตัว เช่น รีสอร์ต ผมจะแพลนแล้วว่าในช่วงเช้าผมจะทำการเดินรอบเกาะ ดูความเรียบร้อย ซึ่งในการสำรวจรอบๆ นั้นเอง มันจะมีสิ่งที่ต้องทำในงานนั้นอยู่อีกเป็นลำดับ มันทำให้เรารู้ว่าจะทำอะไร

ทำให้งานมันเสร็จไว และได้ผลลัพธ์ที่ดีเหมือนเดิมในทุกๆ วัน ซึ่งในระหว่างนั้น ผมก็จะมีเวลาหลวมๆ ในการคิด หรือทำอะไรที่ผมชอบแทรกเข้าไปด้วย เช่น ตอนนี้ผมกำลังทำบ่อแยกขยะอินทรีย์ธรรมชาติเอง ผมก็จะไปดู และทำมันในระหว่างนี้ด้วยครับ จะเรียกว่ามันเป็นงาน หรืองานอดิเรกของผม คือเรารู้สึกได้ใช้ชีวิตทำในสิ่งที่ชอบไปพร้อมๆ กันกับการทำงานครับ


การใช้ชีวิต และการทำงานในแบบที่เราเป็นนั้นสอดคล้องกันอย่างไร?

สำหรับผมมันคือความสำคัญหลักๆ ในการเลือกสิ่งที่ผมทำเลย คือ ผมให้ความสำคัญต่อความสุข และสบายใจในการใช้ชีวิต และการทำงาน เพราะการที่เราทำอะไรแล้วฝืนทำ หรือทำมันอย่างไม่มีความสุข มันจะทำออกมาได้ไม่ดีจริงๆ ยิ่งหากเราชอบ หรือต้องทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยแล้วเวลาในการใช้ชีวิตของเรามันจะน้อยลง เช่น เราแบ่งเวลาทำงาน แบ่งเวลาใช้ชีวิตส่วนตัวทำในสิ่งที่ชอบ หากเราสามารถเลือกสิ่งสิ่งนั้นมาเป็นงานที่เราสามารถทำได้ มันจะรู้สึกเหมือนกับเราไม่ได้ขาดการใช้ชีวิตไป แต่จริงๆ แล้วความสบายในการทำงาน และใช้ชีวิตมันไม่ได้สบายไปในทุกๆ เรื่องหรือทุกๆ มุม เราเจอปัญหาในการทำธุรกิจไม่ต่างกับผู้ประกอบการอื่นๆ แต่หากเราเริ่มต้นในสิ่งที่เราชอบ และเป็นตัวเรา ผมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดอย่างน้อยที่สุดมันจะไม่บั่นทอนให้เราท้อ หรือเลิกทำมัน เพราะสิ่งที่เราทำนั้นมันคือความสุขของเราตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มทำมันครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น