ผู้จัดการรายวัน 360 - กระแสไอดอลสาว BNK48 ยังจับหัวใจแฟนๆ อยู่หมัด iAM บริษัทต้นสังกัดจัดเต็มอัดงบลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท ลุยกิจกรรมรัวๆ ยาวไปตลอดปี พร้อมเดินเกมคู่ขนานบนโลกออนไลน์ สู่ BNK เวิร์ส มั่นใจปีนี้โกยรายได้ 400 ล้านบาท และปีหน้าเชื่อว่าจะดีขึ้นอีก 50%
นายณัฐพล บวรวัฒนะ ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท อินดิเพนเด้นท์ อาร์ทิสท์ เมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ iAM ต้นสังกัดศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 และศิลปินไอดอลหญิงวง CGM48 เปิดเผยว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาบริษัทมีการปรับตัวรับสถานการณ์โควิด จากที่ BNK48 เคยทำรายได้สูงสุด 600-700 ล้านบาทเมื่อ 5-6 ปีก่อน กับการเป็นพรีเซ็นเตอร์อีก 7-8 ชิ้น จากนั้นค่อยๆลดลง จนปีก่อนทำได้ 190 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากโควิด-19 ที่ไม่สามารถทำกิจกรรมออนกราวนด์ได้ จึงหันมาจัดทางออนไลน์เพื่อชดเชยรายได้ที่หายไป
ล่าสุดจากสถานการณ์ที่คลี่คลายลง แผนการดำเนินงานตั้งแต่กลางปี 65-66 บริษัทพร้อมใช้งบลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาทในการจัดอีเวนต์ออนกราวนด์ตลอดปี เช่น คอนเสิร์ต อีเวนต์เป่ายิ้งฉุบ และกิจกรรมทางออนไลน์เพิ่มเข้ามา นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อโลกดิจิทัล เจาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่ม มีการทำเหรียญโทเค่น, NFT ปูพรมสู่โลก BNKVerse อีกด้วย นอกจากนี้ยังมุ่งพัฒนาคอนเทนต์ต่างๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ และซีรีส์ เป็นต้น มั่นใจว่าปีนี้บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท และในปีหน้าเชื่อว่าจะทำได้อีก 50% แบ่งรายได้มาจาก 1. เมอร์ชันไดซ์ 25% 2. อีเวนต์ 25% และ 3. ดิจิทัลออนไลน์ 50% จากปัจจุบันเมอร์ชันไดซ์และอีเวนต์ทำรายได้ในสัดส่วน 35% เท่าๆกัน
นายณัฐพลกล่าวด้วยว่า ในแง่ของการเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ปีนี้ยังคงมีต่อเนื่อง รวมแล้ว 3-4 ตัว ซึ่งมีทั้งแบรนด์เดิม และแบรนด์ใหม่ที่กำลังดีลกันอยู่ ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มสินค้าด้านการสื่อสาร และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่เน้นจับกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนธันวาคมนี้ กิจกรรมที่เกิดขึ้นครั้งแรกและกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับดีจึงจัดอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ กิจกรรม Trading Market, CGM48 Fanmeet จัดขึ้นครั้งแรกเพื่อให้แฟนๆ ใกล้ชิดเมมเบอร์ ณ จังหวัดเชียงใหม่, Indy Concert เป็นกิจกรรมที่เมมเบอร์แสดงศักยภาพแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง สไตล์ของแต่ละเมมเบอร์เพื่อเติบโตในเส้นทางสายดนตรี, Matsuri สร้างความสนุกความแปลกใหม่สไตล์งานวัดญี่ปุ่นครั้งแรกในเมืองไทย คาดว่าแฟนๆ ชื่นชอบ และกิจรรม Sportday ที่ตอบรับดีล้นหลาม เตรียมกลับมาในปีนี้เช่นกัน ตบท้ายด้วยกิจกรรม Request hours ตามคำเรียกร้องของแฟนๆ รวมถึงคอนเสิร์ตส่งท้ายปี 65 จากเมมเบอร์รุ่นที่ 1 เพื่อส่งต่อความสุขและอบอุ่น
“จากการประเมินผลการติดตามแฟนๆ ที่ในสังคมออนไลน์ โดยเฉลี่ยเติบโต 1-2% ทุกเดือน โดยการติดตามเพิ่มมาจากเมมเบอร์ที่มีจำนวนมากขึ้น เมมเบอร์รุ่น 3 วง BNK48 ส่วนยอดการดูยูทูบ 800 กว่าล้านวิว ทำให้บริษัทเห็นทิศทางการเติบโตการติดตามของแฟนๆ สนับสนุนเมมเบอร์และความเคลื่อนไหวบริษัทผ่านโลกออนไลน์มากขึ้นสำหรับภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมบันทิงไทย บริษัทจึงปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ และนำเทคโนโลยีสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น เช่น คริปโตฯ เพื่อออกเหรียญ BNK TOKEN รวมถึง NFT อุตสาหกรรมบันเทิงไทยเตรียมสู่ Digital Transformation มากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า” ประธานฝ่ายปฏิบัติการกล่าวทิ้งท้าย
