ขสมก.หวั่นเอกชนเมิน จ้างวิ่งรถ EV 224 คัน ชี้สัญญา 2 ปีสั้นไป เผยรอตั้งผู้สังเกตการณ์ เคาะ TOR งบ 953 ล้านยอมรับราคาน้ำมันเพิ่มลิตรละ 1 บาท ส่งผลต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเพิ่ม 1.4 แสนบาท/วัน ล่าสุดแบกขาดทุนคันละ 2,000 บาท
นายกิตติการนต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการประกวดราคาจ้างเหมาบริการเดินรถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 224 คัน วงเงินประมาณ 953 ล้านบาท ว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตั้งผู้สังเกตการณ์ตามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ซึ่งประสานกับกรมบัญชีกลางส่งรายชื่อเพื่อจัดทำร่าง TOR ซึ่งขณะนี้ ขสมก.ร่าง TOR ไว้แล้ว เมื่อได้รายชื่อผู้สังเกตการณ์จะเปิดประชาพิจารณ์หากไม่มีข้อท้วงติงจะเปิดประมูล E-Bidding ต่อไป ตั้งเป้าได้รับรถภายใน 120-180 วัน
ทั้งนี้ ข้อจำกัดของโครงการนี้คือระยะเวลาการจ้าง 2 ปี (24 เดือน) ค่อนข้างสั้น อาจไม่จูงใจ นอกจากนี้เอกชนจะต้องจัดหารถพร้อมคนขับ ซึ่งปัจจุบันมีคนขับ 6,300 คน ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ รวมถึงติดตั้ง ระบบเทคโนโลยี เช่น CCTV, GPS, E-Ticket และรับผิดชอบการซ่อมบำรุงและการันตีจำนวนรถที่มีใช้งานตามสัญญาตลอดเวลา ซึ่งหากมีข้อท้วงติง ก็ต้องนำกลับมาทบทวน จึงไม่แน่ใจว่าจะได้รับรถทันในปีนี้หรือไม่
โดยมีเป้าหมายจะจัดหารถเมล์ EV ดังกล่าวมาวิ่งให้บริการในเส้นทาง เขต เดินรถที่ 4 และ 8 ซึ่งเป็นเส้นทางที่การจราจรติดขัดและมีปัญหามลภาวะทางอากาศ
ปัจจุบัน ขสมก.มีรถจำนวน 2,885 คันวิ่งให้บริการอยู่ราว 95% (รถร้อนครีมแดง จำนวน 1,520 คัน รถปรับอากาศ จำนวน 1,365 คัน) ซึ่งถือว่ามีจำนวนรถต่ำกว่าจำนวนขั้นต่ำตามใบอนุญาตที่ต้องมี 3,400 คันจึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเพิ่มและทดแทนรถเก่า
ปัจจุบัน ขสมก.มีจำนวนผู้โดยสาร ประมาณ 600,000-700,000 คน/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดประมาณ 15% ดังนั้นการมีจำนวนรถเพิ่มขึ้นก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและสามารถปรับเพิ่มความถี่ในช่วงเวลาเร่งด่วนในเส้นทางที่มีการจราจรติดขัดได้
@น้ำมันพุ่ง ส่งผลต้นทุนค่าเชื้อเพลิงเพิ่มลิตรละ 1.4 แสนบาท/วัน
อย่างไรก็ตาม ขสมก.มีต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิงประมาณ 1,200 ล้านบาทต่อปี โดยใช้น้ำมันเฉลี่ย 142,000 ลิตรต่อปี หาก ราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น 1 บาทต่อลิตร ต้นทุนต่อวันจะเพิ่มประมาณ 1.4 แสนบาท น้ำมันเพิ่ม 3 บาทต่อลิตร เท่ากับต้นทุนเชื้อเพลิงเพิ่มเกือบ 4.2 แสนบาทต่อวัน โดยรถโดยสารมีผลขาดทุนเฉลี่ย 2,000 กว่าบาท/คัน แต่ทั้งนี้ ขสมก.จะยังคงให้บริการประชาชนอย่างเต็มความสามารถ
