กอน.เคาะแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดลดฝุ่น PM 2.5 ตันละ 120 บาท วงเงินประมาณ 8,000 ล้านบาท หลังปิดหีบจากปริมาณอ้อยสดคุณภาพดี 66.9 ล้านตัน เตรียมเสนอ”ง "สุริยะ" ชง ครม.ขอจัดสรรงบผ่าน ธ.ก.ส. ยันไทยไม่ขาดแคลนน้ำตาลแน่นอน จับตาท่าทีชาวไร่-โรงงานส่งสัญญาณปรับต้นทุนการผลิตใหม่อิงสูตรราคา Cost Plus หลังปุ๋ย น้ำมัน แพงหนักดันราคาน้ำตาลหน้าโรงงานขยับตาม
นายเอกภัทร วังสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) ที่มีนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบแนวทางการช่วยเหลืออ้อยสด 120 บาทต่อตันตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ปีการผลิต 2564/65 หลังจากที่โรงงานน้ำตาลทราย 57 แห่งได้ปิดหีบอ้อยเรียบร้อยแล้วและสรุปปริมาณอ้อยสดคุณภาพดีที่ 66.9 ล้านตัน คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือประมาณ 8,000 ล้านบาท ซึ่งหลังจากนี้จะนำเสนอต่อนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
“โครงการดังกล่าวเป็นไปตามหลักการเช่นปีที่ผ่านๆมาตามนโยบายส่งเสริมการตัดอ้อยสดที่รัฐบาลสนับสนุนเพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ที่ ครม.จะอนุมัติเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายให้กับชาวไร่อ้อยเพิ่มเติมอีกตันละ 120 บาทสำหรับการตัดอ้อยสดที่เน้นคุณภาพดีเท่านั้น หากคุณภาพไม่ดีเช่นไม่ลิดใบ มีสิ่งสกปรกเจือปนไม่ถือว่าเป็นอ้อยสด” นายเอกภัทรกล่าว
สำหรับกรณีราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะน้ำตาลทรายดิบเฉลี่ย 19-20 เซ็นต์ต่อปอนด์ และล่าสุดอินเดียผู้ผลิตรายใหญ่สุดของโลกและส่งออกอันดับสองรองจากบราซิล เตรียมหยุดส่งออกน้ำตาล หลังจัดส่งไปยังคู่ค้าที่ทำสัญญาไว้ใกล้ครบแล้วที่ 10 ล้านตัน และหลังจากนี้จนถึงเดือนกันยายนจะผลิตน้ำตาลไว้บริโภคในประเทศเพียงอย่างเดียวเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาในช่วงฤดูผลิตน้ำตาล ดังนั้นคงต้องติดตามใกล้ชิดว่าจะมีผลกระทบต่อระดับราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด แต่สำหรับไทยปัญหาการขาดแคลนน้ำตาลทรายเพื่อการบริโภคภายในประเทศยืนยัน กอน.มีกลไกการบริหารจัดการไว้รองรับอยู่แล้วจะไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน
“กอน.ได้มีการจัดสรรปริมาณน้ำตาลทรายบริโภคภายในประเทศไว้รองรับในแต่ละปีอยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังกำหนดบับเบิลสต๊อกไว้ดูแลเพิ่มเติมอีกด้วย จึงไม่มีปัญหานี้ ประกอบกับฤดูหีบปี 2564/65 เราหีบอ้อยได้ 92.07 ล้านตันสูงกว่าปีก่อนซึ่งอยู่ระดับราว 66.67 ล้านตันทำให้ปริมาณน้ำตาลทรายปรับตัวสูงขึ้นด้วย” นายเอกภัทรกล่าว
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ราคาน้ำตาลทรายดิบและทรายขาวตลาดโลกยังคงทรงตัวระดับสูงหลังจากที่โลกเกิดวิกฤตราคาพลังงานและอาหาร โดยบราซิลเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกได้หันนำน้ำตาลทรายไปผลิตเอทานอลมากขึ้นหลังราคาน้ำมันโลกปรับตัวแรงจึงส่งผลมายังราคาน้ำตาลทรายตลาดโลกปรับตัวเพิ่ม แม้ว่าผลผลิตหลายประเทศจะสูงขึ้นก็ตาม แต่ราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานของไทยขณะนี้ราคาน้ำตาลทรายขาวธรรมดาอยู่ที่ 17.25 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์อยู่ที่ 18.25 บาทต่อ กก.
“ตัวแทนชาวไร่อ้อยเองได้มีการหยิบยกประเด็นแนวโน้มราคาตลาดโลกมาหารือใน กอน.แล้วที่จะต้องติดตามใกล้ชิด เนื่องจากต้นทุนการผลิตของชาวไร่อ้อยปรับขึ้นสูงมากโดยเฉพาะจากปุ๋ย น้ำมัน จำเป็นที่จะต้องทบทวนต้นทุนการผลิตที่ยึดตามสูตรราคา Cost Plus เพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ซึ่งยอมรับว่าต้นทุนที่สูงขึ้นท้ายที่สุดอาจจำเป็นต้องมีการทบทวนราคาหน้าโรงงานใหม่” นายนราธิปกล่าว
แหล่งข่าวจากโรงงานน้ำตาลทรายกล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้ชาวไร่อ้อยมีการเรียกร้องเรื่องต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจำเป็นต้องคำนวณต้นทุนการผลิตใหม่ทั้งจากชาวไร่อ้อยและโรงงาน หากพิจารณาเบื้องต้นจำเป็นต้องปรับราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานไปสู่จุดเดิมก่อนลอยตัวคือ 19-20 บาทต่อ กก. แต่ทั้งนี้คณะทำงานคำนวณต้นทุนจะต้องมาสรุปตัวเลขจากนั้นจึงจะนำเข้าหารือใน กอน. หากมีความเห็นชอบก็ต้องผ่านการลงนามจาก 3 รัฐมนตรีที่กำกับดูแล