ผู้จัดการรายวัน 360 -โอ ช้อปปิ้ง ในเครือบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ฉลองความสำเร็จพร้อมก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Media Commerce เดินหน้าสร้างกลยุทธ์ธุรกิจครบทุกมิติสร้าง Business Ecosystem ให้เติบโต และแข็งแกร่ง รองรับตลาดคอมเมิร์ซที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จัดโปรโมชั่นแทนคำขอบคุณลูกค้าตลอดเดือนมิถุนายน 2565 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษครบรอบ 10 ปี
นายก่อลาภ สุวัชรังกูร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท โอ ช้อปปิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “โอ ช้อปปิ้ง เป็นแพลตฟอร์มมีเดียคอมเมิร์ซที่ผู้บริโภคให้ความเชื่อถือ ตลอดจนพึงพอใจในสินค้า และการบริการหลังการขายตลอดระยะเวลา 10 ปี ทำให้ โอ ช้อปปิ้ง เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยม ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจเข้ามาซื้อสินค้าเป็นอันดับต้นๆ ถึงแม้จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้น แต่ไม่ได้สร้างผลกระทบมากนัก กลับเป็นโอกาสในวิกฤติเนื่องจากการเกิดโรคอุบัติใหม่ทำให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ตลาดสุขภาพในประเทศไทยเติบโตเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพ ทำให้สินค้าประเภท Food Supplement เติบโต 33% ในปีที่ผ่านมา
อีกทั้งเนื่องจากผู้บริโภคมีการอยู่บ้านมากขึ้น ทำให้สินค้าประเภท Consumer Electronic เติบโต 71% และสินค้าประเภท Fashion & Underwear เติบโต 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ทำให้ โอ ช้อปปิ้ง เป็นหนึ่งในผู้นำด้าน Media Commerce ในประเทศไทย
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจในการขับเคลื่อน โอ ช้อปปิ้ง ให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน มีด้วยกัน 5 กลยุทธ์หลัก ดังนี้
1. Product : สินค้าที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีผ่าน Consumer insight และ Trend ในตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค คัดเลือกโดยผู้เชี่ยวชาญที่ทดสอบสินค้าทุกชิ้นก่อนนำออกจำหน่าย เพื่อให้ความมั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ตรงปก ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด
2. Channel: ช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครบวงจร ไม่ว่าจะทาง TV home shopping ทั้งดิจิตอลทีวี และช่องดาวเทียม, Website, E Commerce พร้อมขยายสู่ Social Commerce เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค Next Normal มุ่งสู่ Social Commerce มากขึ้นผ่านช่องทาง Facebook, YouTube, TikTok และ Line Official ของโอ ช้อปปิ้ง โดยให้ความสำคัญในการลดขั้นตอนต่างๆ ให้ง่ายที่สุดในการซื้อ จ่าย จบ แบบไม่ยุ่งยาก
3. Personal Shopper: พัฒนา Personal Shopper ในช่องทาง Tele Marketing และ Chat Marketing ให้แข็งแกร่งผ่านกลยุทธ์ Personalized Marketing โดยนำ Big Data มาวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้า และความต้องการของลูกค้า เพื่อคาดการณ์ว่า ลูกค้าคนนี้ต้องการซื้อสินค้าครั้งต่อไปเป็นสินค้าประเภทไหน และช่วงเวลาไหน เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
4. Media and Content: สร้างสรรค์วิธีการนำเสนอสินค้าให้แตกต่าง น่าสนใจ และเป็นที่จดจำ ผ่านสื่อในช่องทางต่างๆ ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
5. Customer Experience: สร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าในการซื้อสินค้า โดยเราให้ Personal Shopper เป็นผู้ดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการแนะนำสินค้า, การให้ข้อมูล รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้า การชำระเงิน, การส่งสินค้า ไปจนถึงบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า
นายก่อลาภกล่าวต่อว่า ในปี 2565 นี้ โอ ช้อปปิ้งมีเป้าหมายทางธุรกิจที่สำคัญ คือ การสร้าง Business Ecosystem เพื่อสอดรับการเป็นผู้นำด้าน Media Commercial ได้แก่ การคัดเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ และราคาคุ้มค่า, ช่องทางการโฆษณา และช่องทางสั่งซื้อสินค้าต้องครบวงจร ต้องเข้าไปอยู่ในทุกๆ สื่อที่ลูกค้าอยู่
ในปัจจุบันเราได้เริ่มสร้างความแตกต่างโดยสร้างคอนเทนต์ผ่าน Commercial break ใน Live Streaming ของช่อง ONE 31 และ GMM 25 โดยนำดาราที่อยู่ในละครเรื่องนั้นๆมาเป็นแขกรับเชิญพูดคุยสร้างคอนเท้นต์ให้แตกต่างเป็น Branded content live commerce ขึ้นมา ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ส่วนมากคนดูรู้สึกว่ามันแตกต่าง น่าสนใจ และไม่น่าเบื่อ ซึ่งในอนาคตจะขยายช่องทาง Social Commerce อื่นๆเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มากไปกว่านั้นเรายังมีการใช้ Data-driven เพื่อทำความเข้าใจ Insights ของผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ซึ่งตรงนี้ทำให้เราสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เนื่องในโอกาสครบรอบ 10 ปี โอ ช้อปปิ้ง ได้ทุ่มงบมอบส่วนลดกว่า 100 ล้านบาทส่งมอบโปรโมชันสุดพิเศษเพื่อแทนคำขอบคุณ และคืนกำไรให้ลูกค้า โดยตลอดเดือนมิถุนายนนี้ เมื่อซื้อสินค้าที่ร่วมรายการรับส่วนลดสูงสุด 70% พร้อมรับส่วนลดเพิ่มอีก 10% ทั้งยังสามารถแลกซื้อสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟตามที่กำหนดไว้ได้ในราคา 10 บาท รวมทั้งเซตสินค้าสุดคุ้มในราคา 1,000 บาท (จำนวนจำกัด)