“ผู้หญิง” อาจอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ เพราะแท้ที่จริงแล้วแข็งแกร่งกว่าที่ใครๆ คิด ซึ่งวันนี้มีผู้หญิงมากมายได้พิสูจน์ตัวเองให้โลกตระหนักว่า หากมองให้ชัดเจน พลังมหัศจรรย์ของผู้หญิงคือแรงผลักดันสำคัญสร้างการเปลี่ยนแปลงกอบกู้วิกฤต ทั้งในครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม โดยเฉพาะเมื่อถูกเรียกขานว่า “แม่” พลังสำรองที่เก็บไว้จะสามารถเปลี่ยนผู้หญิงธรรมดาๆ ให้มีเรี่ยวแรงมหาศาลในการทำสิ่งต่างๆ ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่
สะท้อนชัดผ่านเรื่องราวของ “เกศรินทร์ กลิ่นฟุ้ง” หรือ หนิง แม่เลี้ยงเดี่ยววัย 34 ปี ที่ใช้พลังหญิงและพลังความรู้สร้างการเปลี่ยนแปลง ก้าวข้ามทุกอุปสรรค ขยายตลาดขนมบ้านๆ ให้กระจายไปทั่วทั้งจังหวัด และเป็นของหวานขึ้นโต๊ะอาหารในการประชุมระดับโลกอย่าง เอเปก 2022 ที่สำคัญ เธอไม่ใช่เพียงทำให้ชีวิตตัวเองและครอบครัวดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่น สร้างแรงกระเพื่อมขยายไปในวงกว้าง ร่วมส่งเสริมพลังทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชน
อะไร? คือพลังในตัวเธอ ที่ลุกขึ้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง กลายเป็นเสาหลักของครอบครัว และช่วยสร้างอาชีพให้คนไทยในท้องถิ่นอีกมากมาย
เมื่อชีวิตครอบครัวเดินมาถึงทางตัน ไม่สามารถไปต่อด้วยกันได้ ดับภาพฝันที่อยากสร้างครอบครัวตั้งรกรากอยู่ในกรุงเทพฯ “หนิง” ตัดสินใจอย่างไม่ลังเล ทั้งที่ไม่มีการวางแผนใดๆ ไม่มีงานรองรับ หันหลังให้กับความวุ่นวายในเมืองใหญ่ หอบหิ้วลูกชายน้อง “ภูดอย” กลับบ้านเกิดที่จังหวัดลำปาง หวังตั้งต้นใหม่ แม้ต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ชีวิตติดลบและมีหนี้สินกว่า 2 แสนบาท โดยมีเป้าหมายสำคัญต้องการให้ลูกน้อยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี เพื่อเติบโตบนเส้นทางที่ดี
“หนิงหอบหนี้สินก้อนโตกลับมาด้วย ทำให้ต้องหารายได้เสริม ด้วยความชอบกิน และแรงบันดาลใจที่อยากทำขนมอร่อยๆ มีคุณภาพให้ลูกชายกิน เลยมองเรื่องทำขนมขาย เป็นจุดเริ่มต้นครั้งใหม่ในชีวิต เริ่มศึกษาและทดลองทำขนมกินกันในครอบครัว แจกจ่ายให้คนรู้จักลองชิม กว่าวันหนึ่งที่สูตรจะลงตัว เราทิ้งขนมไปเยอะมาก จนสูตรขนมถูกพัฒนาแล้วทุกคนบอกว่าอร่อย ก็มีความมั่นใจในระดับหนึ่งเอาไปฝากขาย เริ่มจากฝากขายตามร้าน หมู่บ้านใกล้เคียง ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีใครคาดคิดว่าขนมขี้เป่อ ขนมธรรมดาที่ใครก็ขายกัน จะกลายเป็นขนมกุ๊กไก่ไส้สับปะรด ของฝากอัตลักษณ์ชุมชนจังหวัดลำปาง เพราะแม้แต่พ่อของหนิงยังบอกว่า ไม่เห็นแตกต่างจากคนอื่น จะขายได้สักเท่าไหร่และไปได้สักแค่ไหน”
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของหนิง มาจากความคิดว่าต้องศึกษาหาความรู้เพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จึงเข้าอบรมในโครงการวิสาหกิจและคุณธรรมชุมชนรักษ์น้ำของเอสซีจี ที่เข้ามาให้ความรู้เรื่องการผลิตสินค้า การพัฒนาสินค้าของชุมชน และวิธีการขายสินค้า พร้อมลงมือนำความรู้มาต่อยอดพัฒนาสร้างเอกลักษณ์สินค้า ซึ่งหากพูดถึงลำปาง ก็ต้องนึกถึงไก่ โดยเริ่มต้นลองผิดลองถูกไปเรื่อยๆ จากไก่หนึ่งตัวก็พัฒนามาเป็นขนมกุ๊กไก่ไส้สับปะรด นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญต่อการเลือกบรรจุภัณฑ์ ให้เตะตาน่าหยิบจับไปเป็นของฝาก ลองเปลี่ยนจากถุงพลาสติก มาเป็นกระปุก จนสุดท้ายกลายเป็นกระปุกคุกกี้ที่มีฝาดึง นอกจากสวยงามแล้วก็ยังสามารถช่วยยืดอายุของขนมได้อีกด้วย
และเมื่อวิกฤตโควิด-19 มาเยือน เป็นอีกครั้งที่หนิงต้อปลุกพลังในตัวให้ตอบรับการเปลี่ยนแปลง ไปเรียนรู้การทำตลาดบนโลกออนไลน์ เพราะขนมที่เอาไปฝากขายตามร้านกาแฟยอดขายตกลงเยอะมาก บางทีแทบจะขายไม่ได้เลย ต้องปรับตัวกันใช้เครื่องมือในสื่อโซเชียลให้เป็นประโยชน์ ช่วยเปิดตลาดให้กว้างขึ้น ขยายการขายไปได้ไกลขึ้น สามารถฟื้นออเดอร์ที่เคยตกลงมากลายเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น กระจายของฝากจากชุมชนให้เป็นขนมที่รู้จักกันทั่วประเทศ เรียกได้ว่าเป็นออเดอร์เปลี่ยนชีวิต และในวันนี้ขนมธรรมดา “กุ๊กไก่ไส้สับปะรด” จะก้าวไปเป็นส่วนหนึ่งในขนมของว่างขึ้นโต๊ะอาหารในงานประชุมระดับชาติเอเปก 2022 ที่มีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
พลังหญิงและพลังความรู้ของแม่หนิง ไม่ได้หยุดแค่สร้างชีวิตที่ดีขึ้นของตัวเอง แต่ยังส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ โดยนำสินค้าของแต่ละชุมชนมารวมกัน จัดเป็นกระเช้าของขวัญผลิตภัณฑ์ชุมชนจังหวัดลำปาง เป็นการขยายตลาด เป็นการกระจายรายได้ให้แต่ละชุมชนขยายวงกว้างออกไป
“เราเดินทางมาถึงทุกวันนี้ได้ เพราะไม่ถอย ทุกครั้งที่ได้รับโจทย์ หรือทุกครั้งที่เจอปัญหา เราไม่เคยถอยหรือว่าหันหลัง หรือหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เพราะเราเชื่อว่าทำมันให้สำเร็จได้ ไม่ต้องมีจุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ แค่จุดเริ่มต้นเล็กๆ รอบๆ ตัวเรานี่แหละ ไม่ว่าจะเจอปัญหา หรือเหนื่อยแค่ไหน เราจะอดทนสู้กับปัญหา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น เพราะว่าเรารู้ว่าทำเพื่ออะไร เราทำในสิ่งที่รักและทำเพื่อคนที่เรารัก น้องภูดอยบอกว่า แม่เจ๋งมาก เราไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้จากเงินขายขนม”