xs
xsm
sm
md
lg

พฤษภาฯนี้สับปะรดลำปาง เริ่มทะลัก!ทั้งจังหวัด 46,000 ตัน แต่เชื่อไม่ล้นตลาดซ้ำรอยปี 60

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ลำปาง – อบต.เปิดห้องประชุมระดมหน่วยงานทั้งรัฐ-เอกชน หารือเกษตรกร วางแผนรับมือสับปะรดลำปางทะลัก คาดปีนี้ทั้งจังหวัดมีผลผลิตไม่น้อยกว่า 46,000 ตัน แต่เชื่อไม่ล้นตลาดเหมือนปี 60 แน่


ว่าที่ร้อยตรีอรุณศักดิ์ ปัญญายืน นายก อบต.บ้านเสด็จ พร้อมคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตร อาทิ เกษตรจังหวัด , เกษตรและสหกรณ์จังหวัดลำปาง ,สภาเกษตรกรจังหวัดลำปาง , สหกรณ์จังหวัด , พาณิชย์จังหวัด และ ภาคเอกชน รวมถึงบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด หารือถึงสถานการณ์ผลผลิตสับปะรดกับเกษตรกรผู้ปลูกปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งพื้ตที่ ต.บ้านเสด็จ 17 หมู่บ้าน เป็นแหล่งปลูกสับปะรดใหญ่ที่สุดของลำปาง ในฤดูกาลปี 2565 คือในเดือน พ.ค.-ก.ค. จะมีผลผลิตที่ออกสู่ตลาดประมาณ 24,718 ตัน จากทั้งจังหวัดที่จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดประมาณ 46,000 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 20-30% แต่ยังน้อยกว่าช่วงปี 2560 ที่สับปะรดลำปางเกิดปัญหาล้นตลาดมากที่สุดคือเกือบ 60,000 ตัน

เกษตรกรบางส่วนเชื่อว่าปีนี้จะยังสามารถจำหน่ายได้ เพราะได้หันมาหยอดแปลงให้ผลผลิตออกนอกฤดูกาลไปบางส่วนแล้ว ทำให้ในเดือน พ.ค.-ก.ค.ที่เป็นห้วงผลผลิตสับปะรดจะออกมากที่สุดทั่วประเทศ ก็จะเหลือไม่มาก ขณะนี้เกษตรกรรายใหญ่และเป็นล้งรับซื้อสับปะรดในพื้นที่ก็ยืนยันว่า ปีนี้ผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 20-30% นั้นไม่น่าจะมีปัญหา

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรหลายคนก็ให้ข้อมูลว่า ปีนี้ฝนตกแม้จะมีผลผลิตต่อหัวไม่เพิ่มมากนัก แต่ปริมาณน้ำหนักต่อหัวเพิ่มขึ้น ซึ่งหากผลผลิตออกพร้อมกัน การรับซื้อของโรงงานอาจจะมีปัญหาเพราะต้องซื้อในพื้นที่โรงงานก่อน ส่วนเกษตรกรนอกพื้นที่หากนำไปขายก็อาจจะต้องรอคิวนานจนทำให้สับปะรดเสียหายได้ ซึ่งการวางแผนเตรียมแก้ปัญหาไว้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ทางด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ข้อมูลว่าจากการติดตามสถานการณ์ย้อนหลัง 10 ปี ปีนี้ยังถือว่าไม่วิกฤตเท่ากับปี2560 ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากถึง 60,000 ตัน แต่ปีนี้น่าจะมีประมาณ 46,000 ตัน คาดว่าหากมีการวางแผนดีก็จะไม่มีปัญหา แต่ต้องเตรียมแผนรองรับไว้ล่วงหน้า เพราะการส่งไปต่างประเทศที่ยังมีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกกลางที่มีสงคราม

แต่หากทุกอย่างเป็นไปตามกลไกลตลาดเกษตรกรสามารถจำหน่ายสับปะรดได้โดยไม่ต้องพึ่งกลไกภาครัฐ แผนที่วางไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพียงแค่ยังไม่ต้องนำออกมาใช้เท่านั้น ซึ่งจะดีกว่าหากเกิดปัญหาแล้วไม่มีแผนรองรับหรือแก้ไขได้ทันท่วงที ผลเสียก็จะตกกับเกษตรกร






กำลังโหลดความคิดเห็น