“พาณิชย์” ลงนามความร่วมมือ “บิทคับ” ปั้นผู้ประกอบการยุคดิจิทัล

“พาณิชย์” ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับ “บิทคับ” ปั้นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ น้อง Gen Z ก้าวไปเป็นผู้ประกอบการยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เตรียมเพิ่มพูนความรู้เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี เทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ และนำไปปรับใช้ในการทำธุรกิจ

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ว่า การลงนามในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อบูรณาการความร่วมมือในการเสริมสร้างศักยภาพ และสนับสนุนผู้ประกอบการนิติบุคคล ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และ Gen Z เพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

โดยความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และบริษัท บิทคับ จะร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี เทคโนโลยีบล็อกเชน ให้แก่ผู้ประกอบการ และน้องๆ Gen Z ที่อยู่ภายใต้โครงการปั้น Gen Z เป็น CEO และจะสร้างหลักสูตรพิเศษให้เจ้าหน้าที่ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์โลกที่กำลังหมุนไปด้วยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลต่อไป

“จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ น้อง Gen Z ที่กระทรวงพาณิชย์อบรมไปปีที่แล้วกว่า 28,000 ราย และบุคลากรในองค์กร เกิดการเรียนรู้และเกิดความเข้าใจในบริบทของสินทรัพย์ดิจิทัล คริปโตเคอร์เรนซี และเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อให้เกิดการตื่นตัว โดยเฉพาะการตื่นตัวกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางด้านธุรกิจ และเทคโนโลยีที่ส่งผลโดยตรงต่อการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน” นายสินิตย์กล่าว

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่องค์ความรู้ต่างๆ ในการพัฒนาผู้ประกอบการ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นิติบุคคล และบุคคลทั่วไป รวมถึงน้อง Gen Z โดยการร่วมมือกันในครั้งนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาคนรุ่นใหม่ เนื่องจากในอีก 5-10 ปีข้างหน้าโลกจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาเราพึ่งพาเศรษฐกิจเก่ากันมาโดยตลอด แต่ในอนาคตเราทุกคนต้องปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจใหม่หรือเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งบิทคับพร้อมที่จะแนะนำและให้ความช่วยเหลือเพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัล