xs
xsm
sm
md
lg

โฆษณา 4 เดือนโต 3.41% หนังใหญ่ดันสื่อโรงหนังพลิกฟื้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด – ภาพรวมตลาดโฆษณา ช่วง 4 เดือนแรกปี2565 เริ่มสดใส ส่งสัญญานบวกเติบโตรวม 3.41% แค่เฉพาะเมษายนเดือนเดียวโตทะลุ 5.12% แล้ว จับตาสื่อโรงหนังคึกคัก เหตุหนังฟอร์มใหญ่จ่อคิวเข้าฉายเป็นแถว หลังจากที่บางเรื่องเข้าฉายแล้วดึงคนดูได้เพียบ แค่เมษายนเดือนเดียวพุ่งถึง 30%

เมื่อช่วงต้นปี2565 ที่ผ่านมา สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ได้ทำนายทิศทางอุตสาหกรรมโฆษณารวมปีนี้ว่า มีโอกาสกลับมาโตได้ตั้งแต่ 2.1-5% ล่าสุดผ่านมา 4 เดือน บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย จำกัด ได้รวมรวมข้อมูลพบว่า มูลค่าโฆษณาในช่วง 4 เดือนแรก ของปี2565 นี้ เติบโตไปแล้ว 3.41% คิดเป็นมูลค่า 38,103 ล้านบาท และเฉพาะเดือนเมษายนเดือนเดียว โตถึง 5.12% หรือกวาดไปถึง 10,022 ล้านบาท โดยรับอานิสงส์จากหลายปัจจัย ทั้งสื่อทีวีที่โตจากรายการข่าว สื่อในโรงภาพยนตร์โตจากรายชื่อหนังใหญ่เบียดกันเข้าฉาย กลุ่มสินค้าหน้าร้อนจัดหนักแคมเปญรับซัมเมอร์ 




สถานการณ์อุตสาหกรรมโฆษณาแสนล้าน จะกลับมาโต 5% หรือมีมูลค่าราว 113,000 -115,000 ล้านบาท ดูจะมีความเป็นจริงมากขึ้นหลังจากที่ทาง MAAT หรือ สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย ได้ออกมาประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมสื่อโฆษณารวมในปี2565 ไว้ว่า มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นหรือมีแนวโน้มเติบโตได้ตั้งแต่ 2.1 - 5% จากปีก่อนอุตสาหกรรมสื่อโฆษณามีมูลค่า 107,786 ล้านบาท โต 1.1% ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน และสงครามระหว่างยูเครนและรัสเชียว่าจะไม่ยืดเยื้อหรือจบภายในครึ่งปีแรก

ทั้งนี้จากข้อมูลย้อนหลัง 5 ปีที่ผ่านมา (2560-2564) จะพบว่า อุตสาหกรรมโฆษณารวมเคยมีมูลค่าสูงสุดถึง 123,675 ล้านบาท หรือเรียงตามลำดับปี ดังนี้
1. ปี2560 มีมูลค่า 112,370 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 2.85%
2. ปี2561 มีมูลค่า 120,886 ล้านบาท โต 7.58%
3. ปี2562 มีมูลค่า 123,678 ล้านบาท โต 2.31%
4. ปี2563 มีมูลค่า 107,752 ล้านบาท ลดลง 12.87%
5. ปี2564 มีมูลค่า 108,777 ล้านบาท โต 0.95%


ส่วนภาพรวมในปี2565นี้ ล่าสุดทางนีลเส็นได้เปิดเผยมูลค่าเม็ดเงินโฆษณา 4 เดือนแรก (ม.ค. - เม.ย.) ออกมาแล้วว่า มีมูลค่าเม็ดเงินสูงขึ้น 3.41% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 38,103 ล้านบาท โดยสื่อทีวียังคงเป็นสื่อที่มีสัดส่วนของการใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดอยู่ที่ 54% คิดเป็นมูลค่า 20,686 ล้านบาท รองลงมา คือ สื่อออนไลน์ 9,003 ล้านบาท 3.สื่อเอาท์ดอร์/ทรานซิท 3,981 ล้านบาท 4.สื่อในโรงภาพยนตร์ และ5. สื่อวิทยุและสิ่งพิมพ์ ที่มีมูลค่าใกล้เคียงกัน ราว 900-1,000 ล้านบาท


ทางนีลเส็น ยังให้ข้อมูลของภาพรวมการใช้เม็ดเงินโฆษณาในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2565 ด้วยว่า อุตสาหกรรมที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุด 10 อันดับแรก คือ 1.อาหารและเครื่องดื่ม ใช้ไป 6,354 ล้านบาท ลดลง 4% 2.Personal Care & Cosmetic มูลค่า 4,952 ล้านบาท ลดลง 6% 3.กลุ่มค้าปลีก มูลค่า 3,794 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% 4.กลุ่มยานยนต์ มูลค่า 1,974 ล้านบาท ลดลง 18%

5.กลุ่ม Media & Marketing มูลค่า 1,966 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% 6.ยาและเวชภัณฑ์ 1,873 ล้านบาท ลดลง 6% 7.ไฟแนนซ์เชียล 1,222 ล้านบาท ลดลง 6% 8.ภาครัฐ 1,198 ล้านบาท โต 45% 9.Household Products 1,171 ล้านบาท ลดลง 15% และ10.โทรคมนาคม 1,077 ล้านบาท ลดลง 12%

อย่างไรก็ตาม หากเจาะลึกลงไปเฉพาะเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมาแล้ว จะพบว่ามูลค่าเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น 5.12% เทียบจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 10,022 ล้านบาท ในจำนวนนี้จากทั้งหมด 7 สื่อมีเพียงสื่อเดียวที่มีมูลค่าลดลง คือ สื่อสิ่งพิมพ์ มีมูลค่าเพียง 237 ล้านบาท ลดลง 1.66% โดยสื่อทีวียังครองส่วนแบ่งสูงสุด หรือมีมูลค่า 5,686 ล้านบาท โต 0.74% อันดับสอง คือ สื่อออนไลน์ 2,253 ล้านบาท โต 9.21% 3.สื่อเอาท์ดอร์/ทรานซิท 1,049 ล้านบาท โต 13.77% 4.สื่อในโรงภาพยนตร์ 502 ล้านบาท โต 30.73% 5.สื่อวิทยุ 286 ล้านบาท โต 1.42% และอันดับสุดท้าย คือ สื่ออินสโตร์ 86 ล้านบาท โต 21.13%


จะเห็นได้ว่าตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมการใช้สื่อดีขึ้น แม้สถานการณ์กำลังซื้ออาจจะแย่ลง เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคก็สูงขึ้นเช่นกัน อันเกิดจากปัญหาใหญ่ของโลก คือ สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดูจะไม่จบลงง่ายๆ
แต่ในแง่ของเจ้าของสินค้าและแบรนด์ต่างๆ ยังคงมองหาโอกาสในการทำตลาด วางแผนการใช้สื่อโฆษณาให้ทันท่วงที ไม่ทิ้งโอกาสที่จะทำกำไรหรือขายสินค้าได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ช่วงที่ผ่านมา สื่อทีวีกลับมาได้รับความนิยมสูงมาก ส่วนหนึ่งจากข่าวการเสียชีวิตในคดีแตงโม และอีกส่วนหนึ่ง คือ การเข้าสู่ช่วงไฮซีซีซั่น ที่กลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์โปรดักส์รวมถึงกลุ่มเครื่องดื่ม เริ่มกลับมาทำแคมเปญส่งเสริมการขายต้อนรับหน้าร้อนกันอย่างคึกคัก มีการออกสินค้าใหม่ หลังจากที่อั้นกันมาสักระยะ รวมถึงกลุ่มยานยนต์ที่กลับมาจัดงานมอเตอร์โชว์ พร้อมแคมเปญส่งเสริมการตลาดที่มีการใช้งบโฆษณากันอย่างคึกคัก


นอกจากนี้สื่อในโรงภาพยนตร์ เป็นอีกสื่อหนึ่งที่กลับมาเติบโตได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งเกิดจากหลายๆปัจจัย เช่น จำนวนโรงภาพยนตร์ในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น คนอั้นอยากดูหนังเสพบรรยากาศในโรงหนังกันมากขึ้น รวมถึงหนังใหญ่ทยอยเข้าโรงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปึ2564 ที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น สไปเดอร์แมน โน แว โฮม, เดอะ แบท แมน, พี่นาค 3, มอร์เบียส และที่กำลังเข้าฉายอยู่ อย่าง จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย ที่ถือเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในรอบ 3ปีหลังจากเกิดโควิด-19 ที่เกิดปรากฏการณ์การจองตั๋วดูหนังผ่านเว็บ/แอปพลิเคชั่นล่มในวันแรก และถือเป็นเรื่องแรกของปีนี้ที่ทำรายได้สูงสุดและแตะ 100 ล้านบาทได้เร็วที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะวันแรกกวาดไป 41 ล้านบาท

ดังนั้นการใช้สื่อในโรงภาพยนตร์ปีนี้จึงมีแนวโน้มที่สดใสอย่างมาก เพราะมีรายชื่อหนังใหญ่ทั้งไทยและเทศต่อแถวรอเบียดคิวเข้าฉายเป็นจำนวนมาก เช่น The Lost City ผจญภัยนครสาบสูญ, บุพเพสันนิวาส 2, Top Gun: Maverick ท็อปกัน มาเวอริค, Jurassic World : Dominion จูราสสิค เวิลด์ : ทวงคืนอาณาจักร, Minions: The Rise of Gru มินเนี่ยน 2, Thor: Love and Thunder ด้วยรักและอัสนี, Spider-Man: Across the Spider-Verse – Part One, Black Panther: Wakanda Forever, Aquaman and the Lost Kingdom และที่รอมานานเกือบ 10ปี กับ Avatar 2 ที่จะเข้าฉายในช่วงปลายปีนี้

นีสเส็นยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ตลอด 4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทหรือองค์กรที่ใช้งบโฆษณาสูงสุด 10 อันดับแรก คือ 1.เนสท์เล่ 1,063 ล้านบาท 2.ยูนิลีเวอร์ 1,036 ล้านบาท 3.PROCTER & GAMBLE (THAILAND) 821 ล้านบาท 4.MASS marketing 654 ล้านบาท 5.โมโน ช้อปปิ้ง 540 ล้านบาท 6.โคคา-โคล่า 505 ล้านบาท 7.อีซูซุ 493 ล้านบาท 8.โตโยต้า 445 ล้านบาท 9.ลาซาด้า 433 ล้านบาท และ10.โอ ช้อปปิ้ง 424 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบด้วยว่า ในส่วนของ 1.เนสท์เล่ : แคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนเมษายน 2565 ที่ผ่านมา คือ เอส-26 โกลด์ โปรเกส มี สฟิงโกไมอีลินพลัส ทางสื่อทีวีมูลค่า 30 ล้านบาท รองลงมาคือ เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู มีซองนี้ ทุกช่วงเวลาก็หอม ทางสื่อทีวีมูลค่า 24 ล้านบาท

2. ยูนิลีเวอร์ : แคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือ ให้ผมสวย มั่นใจ เคลียร์ ทางสื่อทีวีมูลค่า 35 ล้านบาท รองลงมาคือ วาสลีน เซรั่มกันแดด 5 มิติ ผิวใสไกลจุด ทางสื่อทีวีมูลค่า 24 ล้านบาท

3.PROCTER & GAMBLE (THAILAND) : แคมเปญที่ใช้เม็ดเงินโฆษณาสูงสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา คือ พริงเกิลส์ แค่เปิด ปังสุด หยุดไม่อยู่ ทางสื่อทีวีมูลค่า 23 ล้านบาท รองลงมาคือ ออรัลบี พิสูจน์แล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวฟัน ทางสื่อทีวีมูลค่า 22 ล้านบาท.


กำลังโหลดความคิดเห็น