xs
xsm
sm
md
lg

CRC เปิดนิวโมเดลรุกครึ่งปีหลัง ไตรมาสแรกโกยกำไรพุ่ง 189%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - เซ็นทรัล รีเทล ท็อปฟอร์มต่อเนื่อง หลัง Q1 กวาดรายได้ 56,274 ล้านบาท กำไรเพิ่ม 189% มั่นใจปี 2565 โตติดปีก พร้อมเร่งเครื่องขยายธุรกิจเต็มรูปแบบ พร้อมเปิดโมเดลใหม่ๆ ต่อเนื่องรุกตลาดค้าปลีก ทุ่มงบ 2 หมื่นล้านบาทลุย

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC กล่าวว่า ผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เซ็นทรัล รีเทล ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการค้าปลีกอีกครั้ง ด้วยยอดขายเติบโตทะลุเป้าแบบก้าวกระโดดที่ 16% สร้างกำไรทุบสถิติต่อเนื่อง และทำรายได้รวมอยู่ที่ 56,274 ล้านบาท (+15% YoY) EBITDA 6,622 ล้านบาท (+23% YoY) และกำไรสุทธิ 1,324 ล้านบาท (+189% YoY) ด้านการเติบโตของยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 1 เติบโตอยู่ที่ 11% เป็นบวกต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี
 
ขณะที่ยอดขายออมนิแชนเนลโดยรวมก็เติบโตขึ้นเช่นกันอยู่ที่ 44% จนทำให้ในปัจจุบันเซ็นทรัล รีเทล มีลูกค้าที่เป็น Omni customer เพิ่มขึ้นอีกหลายล้านคน นอกจากนี้เรายังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยเพิ่มสปีด และลดความซับซ้อนในการทำงาน ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและซัปพลายเชน เพื่อให้บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจได้อย่างแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่แน่นอน ทั้งภาวะโควิดที่กำลังเข้าสู่ช่วงขาลง (Covid end stage) ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ แต่ก็ยังมีปัญหาเงินเฟ้อทั่วโลกที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งจะส่งผลกระทบในทางลบและยังต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด


สำหรับแผนงานปี 2565 เซ็นทรัล รีเทล เตรียมบุกตลาดด้วยงบลงทุนกว่า 20,000 ล้านบาท ในการพัฒนาปรับปรุงธุรกิจหลัก ตลอดจนเร่งเครื่องขยายธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ และลงทุนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มเติม ต่อยอดแพลตฟอร์มออมนิแชนเนลให้สามารถตอบโจทย์ และมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้าทุกคน โดยในทุกๆ ไตรมาสตลอดทั้งปีนี้ เซ็นทรัล รีเทล ได้วางแผนเปิดตัวธุรกิจ สินค้า และบริการใหม่ๆ ให้กับวงการค้าปลีกทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และอิตาลี ดังต่อไปนี้
ประเทศไทย - ได้แก่

• เดินหน้าขยายสาขาใหม่กว่า 300 สาขาตลอดทั้งปี ประกอบด้วยร้านค้าหลักในแต่ละธุรกิจ ได้แก่ ศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ไทวัสดุ และท็อปส์ รวมถึงร้านค้าเฉพาะทาง (Specialty store) อื่นๆ พร้อมเดินหน้าขยายสาขารูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง เช่น ท็อปส์ สแตนด์อะโลน รวมถึง New Format อื่นๆ ที่เน้นเจาะตลาดใหม่ๆ และเร่งเครื่องขยายการเติบโตของกลุ่มธุรกิจใหม่ Health & Wellness อย่างเต็มกำลัง

• เปิดตัวแพลตฟอร์มและบริการใหม่ทั้งในกลุ่มฟูดและนอนฟูด อาทิ ไทวัสดุ โมบายล์แอปพลิเคชัน ที่จะเปิดตัวในเดือนพฤษภาคมปีนี้ รวมถึงการเปิดตัวบริการ Tops Prime ที่เป็นรูปแบบ Subscription ส่งฟรีไม่จำกัดครั้ง

• ยกระดับศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เช่น การเพิ่มร้านค้าและแบรนด์ใหม่, การปรับโฉมให้มีความโลคัลยิ่งขึ้น และการต่อยอดศูนย์การค้าในทำเลศักยภาพ ให้เป็นรูปแบบมิกซ์ยูส ในการสร้างคอนโดฯ ควบคู่กับศูนย์การค้าเพื่อดึงทราฟฟิก

ประเทศเวียดนาม - ตอกย้ำความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจฟูด ศูนย์การค้า และแพลตฟอร์มออมนิแชนเนล หลังยอดขายผ่านแพลตฟอร์มในไตรมาสแรกเติบโตแบบดับเบิลอยู่ที่ 88% เมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมเร่งเครื่องขยายสาขาออฟไลน์ใหม่ๆ ตลอดทั้งปี ประกอบด้วย ศูนย์การค้า GO! และไฮเปอร์มาร์เกต GO! 1 สาขา, ซูเปอร์มาร์เกต mini go! และท็อปส์ 12 สาขา และร้านค้านอนฟูดอื่นๆ รวมอีก 70 สาขา ตอบรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศเวียดนามที่คาดการณ์ว่า GDP ปี 2565 จะโตแตะ 6%

ประเทศอิตาลี - ในไตรมาสแรกที่ผ่านมามีลูกค้าเข้าใช้บริการเว็บไซต์ Rinascente มากกว่า 3 ล้านคน เติบโตกว่าปีก่อนถึง 64% เดินหน้ารีโนเวตห้างสรรพสินค้ารีนาเชนเตสาขาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง หลังจากไตรมาสที่ 1/2565 มีทราฟฟิกเพิ่มขึ้นถึง 58% พร้อมเชื่อมั่นว่ายอดขายของอิตาลีทั้งปีจะเติบโตเป็นเลข 2 หลัก

“ปี 2565 ถือเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ด้วยแผนธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ที่ชัดเจน และทำได้จริง รวมถึงกลยุทธ์ในการลงทุนและการเข้าซื้อกิจการที่ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามั่นใจอย่างยิ่งว่า เซ็นทรัล รีเทลจะสามารถปิดปี 2565 นี้ด้วยยอดขายเติบโต 15-20% ตามเป้าที่วางไว้ ตอกย้ำการเป็นผู้นำในโลกค้าปลีกแห่งอนาคต และขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งด้าน Omni-Centric Retailer แห่งเอเชีย” นายญนน์กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น