SPRC แจงกำไรไตรมาส 1/65 พุ่งแตะ 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,284 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4/64 และช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีค่าการกลั่นเพิ่มและกำไรจากสต๊อกน้ำมัน แม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์น้ำมันรั่วก็ตาม
นายโรเบิร์ต โจเซฟ โดบริค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) เปิดเผยผลดำเนินงานและผลประกอบการทางด้านการเงินไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (5,284 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (1,855 ล้านบาท) และเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 66 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (2,006 ล้านบาท) โดยมีปัจจัยหลักคือค่าการกลั่นตลาดที่เพิ่มขึ้นและกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่ 12.15 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก โดยถูกหักกลบกับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายและประมาณการหนี้สินที่เกี่ยวข้องกับเหตุน้ำมันรั่วจำนวน 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 1/2565 บริษัทฯ ยังคงรักษามาตรฐานด้านความเชื่อถือได้ของโรงกลั่นไว้ในระดับดีเลิศ
สำหรับค่าการกลั่นตลาดในไตรมาสที่ 1/2565 อยู่ที่ 8.46 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงกว่าไตรมาสที่ 4/2564 ที่ 5.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล อันเนื่องมาจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปต่อน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าต้นทุนราคาน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นรวมถึงค่าขนส่งส่วนเพิ่มจากการใช้เรือลำเล็กในการขนถ่ายน้ำมันดิบในช่วงที่ทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลของบริษัทฯ หยุดการดำเนินงาน โดยในช่วงเวลาที่ค่าการกลั่นอยู่ในระดับสูงนั้น บริษัทฯ มุ่งเน้นที่จะผลิตน้ำมันดีเซลในปริมาณที่สูง รวมถึงปรับสัดส่วนการผลิตน้ำมันเบนซินและน้ำมันอากาศยานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อความต้องการใช้ในประเทศและการสร้างผลกำไรสูงสุด
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้ามองหาโอกาสการลงทุนในอนาคตที่หลากหลาย เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นผ่านโครงการปิดซ่อมบำรุงใหญ่ในปี 2568 และเตรียมพร้อมการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ” นายโรเบิร์ตกล่าว