“สนธิรัตน์” เลขาฯสร้างอนาคตไทย ติงรัฐต้องเสียสละในภาวะวิกฤต ไม่ควรคิดดึงเงินออกจากกระเป๋า ปชช. มุ่งแต่เก็บภาษีตามเป้า แนะควรต่ออายุการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รื้อโครงสร้างราคาน้ำมันในประเทศช่วงวิกฤต ห่วง รบ.อยู่ได้ แต่ ปชช.อยู่ไม่ได้
วันนี้ (30 เม.ย.) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคสร้างอนาคตไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในหัวข้อ “ปรามรัฐบาล ไม่ควรทำอะไร ที่ดึงเงินออกจากกระเป๋าประชาชน ในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้” โดยระบุว่า อย่างที่ทราบว่า พรุ่งนี้ (1 พ.ค.) ราคาน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มจะขึ้นเป็น 32 บาทต่อลิตร สิ่งที่ตามมาแน่ๆ คือ เราต้องควักเงินออกจากกระเป๋าสตางค์เพิ่มขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาข้าวของก็จะสูงขึ้น เพราะต้นทุนการผลิต การขนส่ง ที่ปรับตัวตามราคาน้ำมัน ซึ่งในเวลาที่ประชาชนลำบากอย่างนี้ รัฐต้องเสียสละ อย่าไปมุ่งอยู่กับเป้าของการเก็บภาษีให้ได้ตามเป้า การที่น้ำมันดีเซลราคาขึ้นก็เพราะต้นทุนน้ำมันจากราคาตลาดโลกที่คุมไม่ได้ บวกกับโครงสร้างภาษีและอื่นๆที่เป็นสูตรเฉพาะของเรา
“ขอเสนอว่า เรื่องภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล รัฐควรต่ออายุการลดออกไปอีกครับ รัฐต้องยอม ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ต้องมาช่วยอุ้มประชาชน” นายสนธิรัตน์ ระบุ
นายสนธิรัตน์ ในฐานะอดีต รมว.พลังงาน ระบุด้วยว่า โครงสร้างต้นทุนราคาน้ำมันคืออีกหนึ่งคำตอบและทางออกของเรื่องนี้ โดยวันนี้กองทุนน้ำมันติดลบ ประมาณ 24,000 กว่าล้านบาท บัญชีก๊าซ LPG ติดลบประมาณ 31,000 กว่าล้านบาท การช่วยเหลือจากกองทุนน้ำมัน ด้วยการไปหาเงินกู้มาใส่ในกองทุนฯ จึงเหมือนเป็นการพายเรือในอ่าง เพราะการไม่ลดการเก็บภาษี แต่สุดท้ายก็ไปกู้เงินมา เพื่อมาพยุงราคา จริงๆ แล้ว ก็คือ เงินไม่มีพอทั้งคู่ แต่ไม่ไปลดที่โครงสร้างภาษีน้ำมัน ที่เราสามารถกลับไปดูเรื่องต้นทุนน้ำมัน และบริการจัดการเฉพาะกิจ ตนเคยพูดเรื่องการอิงราคาหน้าโรงกลั่น ว่าให้เปลี่ยนจากการคิดราคาอ้างอิงแบบเก่าจากการอ้างอิงราคาโรงกลั่นจากสิงคโปร์ มาเป็น การคิดอิงต้นทุนจริง ซึ่งทำได้
“เอาจริงๆ วันนี้มีข่าวเรื่องค่าการกลั่นของโรงกลั่นในประเทศได้ราคาดี ถ้าลดลงมาหน่อยในช่วงที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ก็น่าจะได้ และการคุยกับภาคเอกชน บริษัทน้ำมัน โรงกลั่น ว่า ลดต้นทุนได้ทางไหนอย่างไร ค่าการตลาดลดได้ไหมชั่วคราว ก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง” นายสนธิรัตน์ ระบุ
ในช่วงท้าย นายสนธิรัตน์ ระบุว่า การบริหารงานในภาวะวิกฤต กับภาวะปกติทั่วไป ต่างกัน รัฐบาลต้องโฟกัสที่ความเดือดร้อนของประชาชน รัฐบาลจะมาบอกว่าเรื่องราคาน้ำมัน จะให้ประชาชนมาช่วยแบกคนละครึ่งแต่เพียงอย่างเดียวไม่ได้ ไม่เช่นนั้นรัฐบาลอยู่ได้ ประชาชนอยู่ไม่ได้