xs
xsm
sm
md
lg

“สินิตย์” มอบ SACIT พัฒนา “ผ้าทอยโสธร” เพิ่มรายได้ให้ชุมชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สินิตย์” หนุนพัฒนา “ผ้าทอยโสธร” เพิ่มรายได้ให้ชุมชน มอบ SACIT เข้าไปสนับสนุน ทั้งการสร้างองค์ความรู้ สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างสรรค์งานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนจากกลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านหัวเมือง จังหวัดยโสธร และได้มอบหมายให้สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เข้าไปช่วยพัฒนาชุมชนหัตถกรรมใน 3 ด้าน คือ การรักษาองค์ความรู้ อัตลักษณ์ และภูมิปัญญา ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน การสร้างงาน สร้างอาชีพ รายได้ให้ชุมชนอย่างยั่งยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี และการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมที่มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์การสร้างความยั่นยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN)

สำหรับกลุ่มสตรีทอผ้าไหมบ้านหัวเมือง จังหวัดยโสธร ถือเป็นหนึ่งในต้นแบบชุมชนหัตถกรรมด้านสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการผลิตที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติในชุมชน ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนสีย้อมเส้นไหมจากสีเคมีที่ให้สีเข้มและฉูดฉาด มาเป็นการใช้วัตถุดิบย้อมสีธรรมชาติจากพืชที่หาได้ในท้องถิ่นให้โทนสีพาสเทล ไม่ฉูดฉาด สบายตา เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น ได้แก่ สีน้ำตาลโอวัลตินจากเปลือกต้นกระโดน, สีเขียวอ่อนจากเปลือกต้นมะม่วงหรือต้นเพกา, สีน้ำตาลจากแก่นและเปลือกต้นคูน, สีน้ำเงินจากคราม และสีแดงจากครั่ง เป็นต้น โดยสร้างสรรค์จนเป็นงานผ้าทอที่มีคุณภาพ สวยงาม ประณีต และสร้างมูลค่าเพิ่ม และรายได้ให้แก่ชาวบ้านและชุมชน เกิดความสามัคคี เกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ปัจจุบัน UN มีเป้าหมายในการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ Sustainable Development Goals (SDGs) เพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงวิธีคิดการพัฒนาในระดับรากฐาน ต้องการให้ทุกประเทศพิจารณาเรื่องการพัฒนาอย่างสมดุล คือ ต้องการให้ชีวิตคนมีความมั่นคง โดยเฉพาะคนเล็กคนน้อยและคนเปราะบาง ให้สังคมมีความมั่งคั่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่อาจจะรวมถึงวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ในสังคม ทรัพยากร มรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ และให้โลกมีความยั่งยืนเรื่องสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร เกิดสันติภาพและมีรัฐบาลที่มีธรรมาภิบาล เคารพสิทธิมนุษยชน และทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย ซึ่งไทยได้ถือเป็นวาระสำคัญที่จะขับเคลื่อน และกระทรวงพาณิชย์เองก็ถือเป็นแนวทางที่จะนำมาใช้ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก

นายพรพล เอกอรรถพร รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย กล่าวว่า นอกจากชุมชนบ้านหัวเมืองแล้ว SACIT ได้ดำเนินการส่งเสริมหัตถกรรมเพื่อความยั่งยืนในทุกมิติไปทั่วทุกภูมิภาค เช่น ชุมชนหัตถกรรมหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ โดยครูอนัญญา เค้าโนนกอก ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2554, ชุมชนหัตถกรรมผ้าบาติก จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยครูอารีย์ ขุนทน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2563 และชุมชนหัตถกรรมผ้าย้อมคราม จังหวัดสกลนคร โดยครูพิระ ประเสริฐก้านตง ครูช่างศิลปหัตถกรรมปี 2557 เป็นต้น โดยจะได้เร่งดำเนินการขยายศิลปหัตถกรรมเพื่อความยั่งยืนนี้ไปยังชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น