xs
xsm
sm
md
lg

กรมเจ้าท่าสั่งงดใช้ทุ่นผูกเรือกลางทะเลของ "สตาร์ ปิโตรเลียม"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจ้าท่ามีมติสั่งงดใช้งานทุ่นผูกเรือกลางทะเลของ "สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง" และเห็นชอบออกใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเลให้ PTTOR และพีทีที แอลเอ็นจี และต่ออายุใบอนุญาตให้อีก 13 ราย

วันที่ 3 พฤษภาคม 2565 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย ร่วมประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและพิจารณาอนุญาตการต่ออายุและการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล และการพิจารณาอนุญาตให้ผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลซึ่งถือกรรมสิทธิ์เรือไทยเช่า และใช้เรืออื่นที่มิใช่เรือไทยในการขนส่งทางทะเล ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุมวิสูตรสาครดิษฐ์ อาคาร 162 ปี กรมเจ้าท่า ผ่านระบบ Zoom Meeting โดยมีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม (หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง) เป็นประธานคณะอนุกรรมการ ตามคำสั่งกระทรวงคมนาคม ที่ 302/2565 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและพิจารณาอนุญาตการต่ออายุ และการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล และการพิจารณาอนุญาตให้ผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลซึ่งถือกรรมสิทธิ์เรือไทยเช่าและใช้เรืออื่นที่มิใช่เรือไทยในการขนส่งทางทะเล

ทั้งนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองและพิจารณาอนุญาตการต่ออายุและการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขท้ายใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล และการพิจารณาอนุญาตให้ผู้ประกอบการขนส่งทางทะเลซึ่งถือกรรมสิทธิ์เรือไทย เช่าและใช้เรืออื่นที่มิใช่เรือไทยในการขนส่งทางทะเล ที่ประชุมฯ ได้ร่วมกันพิจารณาขอให้ออกคำสั่งงดใช้งานทุ่นผูกเรือกลางทะเลแบบ SINGLE POINT MOORING และอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนถ่ายจากทุ่นผูกเรือกลางทะเล ตามใบอนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเลของ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC

นอกจากนี้ ได้พิจารณาการขออนุญาตประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเล ตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (PTTOR) จังหวัดกรุงเทพมหานคร และบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด จังหวัดระยอง รวมถึงร่วมพิจารณาการขอต่อใบอนุญาตให้ประกอบกิจการท่าเรือเดินทะเลตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 จำนวน 13 ราย เพื่อควบคุมและกำกับดูแลกิจการท่าเรือเดินทะเลขนาดใหญ่ เป็นไปด้วยความเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาพาณิชยนาวีของประเทศต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น