ผู้จัดการรายวัน 360 - อีคอมเมิร์ซบูมสุดๆ นับถอยหลังอีก 3 ปีทะลุ 750,000 ล้านบาท โต 2 เท่าจากปี 64 ถือเป็นช่วงขาขึ้น แนะแบรนด์เร่งเข้าตลาดให้ไวก่อนเสียโอกาสทอง “เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ” จัดเต็มด้านการลงทุนและพัฒนาโซลูชันและซอฟต์แวร์ ปักธงเบอร์ 1 ด้าน E-ดิสทริบิวเตอร์ บิสิเนสใน SEA ด้วยยอดขายไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาทในปี 2567
นายนัฐพล บุญภินนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ จำกัด ผู้ให้บริการด้าน E-ดิสทริบิวเตอร์ บิสิเนสแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2565 นี้คาดว่าตลาดอีคอมเมิร์ชในไทยจะมีมูลค่าราว 450,000 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 20% ทุกปีตั้งแต่ปี 2564-2568 โดยในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่าเป็น 750,000 ล้านบาท หรือกว่า 2 เท่าตลอด 5 ปีก่อนหน้า
ขณะเดียวกันยังพบว่าในปีที่ผ่านมามูลค่าอีคอมเมิร์ซคิดเป็น 8% ของมูลค่ารีเทลทั้งหมด และภายในปี 2568 จะเพิ่ม 16% ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับเป็นเวลาสำคัญของแบรนด์ที่ควรเข้ามาในตลาดนี้ เข้าตอนนี้ยังทัน แต่หลังจากนี้อาจจะช้าเกินไป
ในส่วนของเอ็น-สแควร์ อีคอมเมิร์ซ ที่เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร หลังจากที่ได้ระดมทุนรอบ Series A กว่า 450 ล้านบาท ในปี 2563 สู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในเซาท์อีสต์เอเชีย ล่าสุดพร้อมลงทุนอย่างต่อเนื่องใน 5 กลยุทธ์สำคัญ คือ
1. เพิ่มบริการใหม่ๆ 2. บุกตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น เช่น ลาว เมียนมา กัมพูชา จากเดิมมีมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ 3. ขยายบริการสู่ช่องทางโซเชียลอื่นๆ เช่น ติ๊กต็อก 4. พัฒนาเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่วัดผลยอดขายได้ เป็นต้น และ 5. ร่วมลงทุนในแบรนด์ที่มีศักยภาพที่ดีในประเทศ จากปัจจุบันร่วมทุนกับ 4 แบรนด์ไทยแล้ว อย่าง HomeHuk และ XtivePro จนประสบความสำเร็จบนโลกออนไลน์
“ภารกิจสำคัญของเราคือการขับเคลื่อนเอ็น-สแควร์สู่ผู้นำการให้บริการอีคอมเมิร์ซโซลูชันที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำด้าน Digital Brand Factory เพื่อสร้างการเติบโตให้มูลค่าตลาดของสินค้า (GDP) จากช่องทางออนไลน์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผ่านความเชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ ซอฟต์แวร์และบริการแบบครบวงจรของเรา” นายนัฐพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทดูแลลูกค้าอยู่กว่า 100 แบรนด์ จากนี้เชื่อว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัย โดยเฉพาะแบรนด์ไทย จากในปี 2564 ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายรวม 3,500 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยห้าปีสูงถึง 61 % (CAGR) รวมถึงมียอดขายสินค้าทั้งหมดถึง 6.6 ล้านชิ้น ตั้งเป้าว่าในปี 2565 นี้จะมียอดขายเพิ่มเป็น 5,500 ล้านบาท ในปี 2566 ขยับเป็น 8,500 ล้านบาท และในปี 2567 หรือ 3 ปีจากนี้จะมียอดขายมากกว่า 10,000 ล้านบาท มาจากไทย 60% และต่างประเทศ 40% พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร
“โลกอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเราจึงมุ่งคิดค้นนวัตกรรมเพื่อสอดรับเทรนด์และสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจของแบรนด์ผ่านการบริการอีคอมเมิร์ซโซลูชันของเรา” นายนัฐพลกล่าว