“สินิตย์” เป็นประธานลงนาม MOU ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมมือกันส่งเสริมผู้ประกอบการไทย ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ เผยเตรียมช่วยชี้เป้าแนวโน้มเทคโนโลยี ก่อนนำไปพัฒนาเป็นผลงานใหม่ และใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ ว่า การลงนามใน MOU ครั้งนี้เป็นการจับมือกันระหว่างกรมทรัพย์สินทางปัญญากับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันสร้างความได้เปรียบทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ และนักวิจัย นักประดิษฐ์ไทย โดยใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ
สำหรับแนวทางความร่วมมือ กรมทรัพย์สินทางปัญญาจะสนับสนุนนักวิจัย นักประดิษฐ์ นิสิต และผู้ประกอบการไทยในเครือข่ายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ โดยจะช่วยในการจัดทำรายงานวิเคราะห์แนวโน้มเทคโนโลยีจากฐานข้อมูลสิทธิบัตรทั่วโลก ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยรู้แนวโน้มเทคโนโลยีโลก ทิศทางการพัฒนาสินค้า และสามารถนำมาใช้ในการวิจัย พัฒนา และประดิษฐ์คิดค้นผลงานทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ต่อไป
นอกจากนี้ จะช่วยสนับสนุนผลงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่มีการประดิษฐ์คิดค้นแล้วในเชิงพาณิชย์ โดยมีผลงานทรัพย์สินทางปัญญาที่โดดเด่น เช่น นวัตกรรมเคลือบพื้นผิวทุกชนิดที่มีความต้านทานการกัดกร่อน การพัฒนาคุณภาพน้ำบาดาลให้ดื่มได้ เท้าเทียมช่วยเหลือคนพิการในการเคลื่อนไหว และนาโนแคลเซียมคาร์บอเนตในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางช่วยปกป้องผิว เป็นต้น
นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศที่มีศักยภาพ ทั้งด้านทรัพยากรบุคคล และมีผลงานวิจัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด อีกทั้งมีเครือข่ายผู้ประกอบการที่เข้มแข็งกว่า 300 บริษัท ด้วยความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้มีการคิดค้นทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ แต่ยังจะช่วยต่อยอดทรัพย์สินทางปัญญาที่มีอยู่แล้ว ให้เกิดประโยชน์ในทางเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้น