สหภาพฯ ขสมก.-รถร่วมเอกชนบุก "คมนาคม" ยื่น "ศักดิ์สยาม" เร่งดำเนินการจัดหารถใหม่ตามแผนฟื้นฟู พร้อมค้าน ขบ.ประเคนสัมปทานเดินรถให้นายทุนใหญ่กินรวบ
วันที่ 20 เม.ย. 2565 สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) นำโดย นายบุญมา ป๋งมา รักษาการประธานสหภาพ ขสมก. และตัวแทนสมาคมพัฒนารถร่วมบริการเอกชน พร้อมสมาชิก ได้เดินทางมายังกระทรวงคมนาคมเพื่อยื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือขอให้เร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ครม.)
โดยสหภาพฯ ขสมก.ได้เข้าร่วมประชุมกับ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายวิรัช พิมพะนิตย์ กล่าวว่า สหภาพฯ ขสมก.ได้มาขอพบเพื่อยื่นหนังสือขอให้กระทรวงฯ พิจารณาเร่งรัดให้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 ที่ได้เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. สำหรับการดำเนินการตามกลยุทธ์และแนวทางต่างๆ พร้อมมีการกำหนดจัดหารถโดยสารใหม่ จำนวน 3,000 คัน และ ขสมก.ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเส้นทาง 28 เส้นทางที่หายไป
โดยมีข้อเสนอสรุปดังนี้
1. เร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้แผนฟื้นฟู (ฉบับปรับปรุง) ที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีโดยเร็ว
2. ประชาชนและพนักงาน ขสมก.อาจได้รับผลกระทบ จากการปรับอัตราค่าโดยสารจากเดิม 8 บาท โดยขบ.ได้ให้สัมปทานรายใหม่เข้าดำเนินการตามใบอนุญาต โดยเก็บค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 15-25 บาท
3. การประกาศข้อกำหนดของกรมการขนส่งทางบกที่ให้เปิดประมูลเส้นทางนั้นไม่มีความเป็นธรรมต่อผู้ประกอบการรายเดิม เนื่องจากมีทรัพย์สินที่ต้องบริหารจัดการ จึงขอให้กรมการขนส่งทางบกชะลอการบังคับใช้ และเปิดโอกาสให้นำรถเก่าที่มีอยู่นำมาปรับปรุงเครื่องยนต์ หรือเปลี่ยนเป็น EV
4. ให้ สร.ขสมก.เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และแก้ปัญหาความเดือดร้อนของพนักงาน ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมรับทราบข้อเสนอของ สร.ขสมก. และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเร่งดำเนินการในส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบ โดยจะทำเป็นข้อสรุปประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา เพื่อนำเสนอในประชุมที่คณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก. ในการหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป
นายบุญมากล่าวว่า มติ ครม. เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 62 เห็นชอบในหลักการของแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.ที่กำหนดให้ ขสมก.จัดหารถโดยสาร 3,000 คัน ได้แก่ จัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน ซึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อแล้ว แต่ยังเหลือ การจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (EV) 35 คัน หารถไฮบริด 1,453 คัน และ 400 คัน รถ NGV 300 คัน และการปรับปรุงรถเก่า 323 คัน
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม และ ขบ.ควรเร่งพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งจะติดตามความคืบหน้าอีกครั้ง ภายใน 15 วัน ซึ่ง สร.ขสมก.จะประชุมใหญ่ต้นเดือน พ.ค.นี้ หากทางกระทรวงคมนาคมยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ที่เป็นรูปธรรมจะเตรียมยกระดับการเคลื่อนไหวต่อไป