xs
xsm
sm
md
lg

ชาวไร่อ้อยยิ้มรับราคาน้ำตาลโลกพุ่งทะลุ 20 เซ็นต์แต่รับสภาพปุ๋ยแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ชาวไร่อ้อยจับตาราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกขยับสูงทะลุ 20 เซ็นต์ต่อปอนด์หวังดันราคาอ้อยขั้นต้นปี 2565/66 อยู่ในเกณฑ์สูง ขณะที่ "อนท." เร่งขายน้ำตาลล่วงหน้าปี 65/66 แล้ว 40% แต่ทำใจต้นทุนแพงยับโดยเฉพาะปุ๋ยขึ้นโหดทำให้กำไรไม่ได้เพิ่มมาก ด้านผลผลิตอ้อยไทยล่าสุดแตะระดับกว่า 91.7 ล้านตันแล้ว มีลุ้นแตะ 92 ล้านตันอ้อยเมื่อโรงงานน้ำตาลปิดหีบครบ 57 แห่ง

นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย
เปิดเผยว่า ชาวไร่อ้อยได้ติดตามราคาน้ำตาลทรายดิบใกล้ชิด โดยพบว่าล่าสุดราคาส่งมอบเดือนตุลาคม 2565 ขึ้นไปแตะระดับ 20.31 เซ็นต์ต่อปอนด์จากช่วงต้นปีราคาเฉลี่ยอยู่ที่กว่า 18 เซ็นต์ต่อปอนด์ เนื่องจากโรงงานน้ำตาลบราซิลซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลใหญ่สุดของโลกหันนำน้ำตาลไปผลิตเอทานอลแทนเพราะได้กำไรที่สูงกว่าเนื่องจากระดับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวิกฤตการสู้รบรัสเซีย-ยูเครน ทั้งนี้ ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกเฉลี่ยทรงตัวระดับสูงต่อจะส่งผลดีต่อระดับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูการผลิตปี 2565/66 อยู่ในเกณฑ์สูงตามไปด้วย

"ปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกสูงขึ้นมาจากการผลิตน้ำตาลทรายของบราซิลลดลงไปพอสมควรเพราะหันไปผลิตเอทานอลแทนทำให้น้ำตาลในตลาดลดลง แต่ในแง่ปริมาณผลผลิตน้ำตาลของบราซิลปีนี้ก็ยังคงสูงกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 7% หรือมีการคาดการณ์อยู่ที่ 34.5 ล้านตัน" นายนราธิปกล่าว

ทั้งนี้ จากระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกที่ทรงตัวระดับสูงทำให้ขณะนี้บริษัทอ้อยและน้ำตาลทรายไทย จำกัด (อนท.) ที่บริหารการส่งออกน้ำตาลทรายดิบ 8 แสนตันได้ส่งออกน้ำตาลฤดูการผลิตปี 2564/65 ที่กำลังใกล้ปิดหีบได้เกือบ 100% แล้ว โดยได้ระดับราคาที่ดีที่จะส่งผลให้ราคาอ้อยขั้นสุดท้ายสูงกว่าขั้นต้นแน่นอน ขณะที่มีการส่งออกน้ำตาลทรายดิบล่วงหน้าฤดูการผลิตปี 2565/66 ไปแล้วประมาณ 40% ในราคาเฉลี่ยกว่า 18 เซ็นต์ต่อปอนด์ ทำให้ปริมาณน้ำตาลที่เหลือจะทำราคาได้ในระดับสูงขึ้นอีกจึงนับเป็นการการันตีราคาอ้อยขั้นต้นฤดูหีบปี 2565/66 ว่าจะอยู่ในเกณฑ์สูงระดับ 1,000 บาทต่อตันขึ้นไป

สำหรับการหีบอ้อยฤดูผลิตปี 2564/65 ที่เปิดหีบตั้งแต่วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีโรงงานปิดหีบไปแล้ว 53 แห่งเหลือโรงงานที่ยังคงเปิดเพื่อรับอ้อยที่เหลืออีกราว 4 แห่งส่วนใหญ่ในพื้นที่ภาคอีสานเนื่องจากมีการหยุดการผลิตเพราะมีฝนเข้ามาคาดว่าจะปิดหีบได้ทั้งหมดไม่เกินสิ้นเดือน เม.ย.นี้ โดยขณะนี้ปริมาณอ้อยเข้าหีบแล้วกว่า 91.7 ล้านตัน คาดการณ์ว่าอ้อยอาจจะอยู่ในระดับ 91.9-92 ล้านตัน

“ปีนี้แม้ปริมาณอ้อยจะเยอะยอมรับว่าผลผลิตต่อตันอ้อยไม่ดีนักหากเทียบกับปีก่อนเนื่องจากมีฝนตกช่วงเก็บเกี่ยวทำให้ชาวไร่ต้องเร่งรีบทำให้ไม่มีการสางใบอ้อย สิ่งเจือปนเลยเยอะตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม ในฤดูหีบปี 2565/66 ฝนที่มาเร็วก็จะส่งผลดีต่อตออ้อยจึงมองว่าผลผลิตจะกลับมาสู่ระดับ 100 ล้านตันได้อีกครั้ง” นายนราธิปกล่าว

นายนราธิปกล่าวว่า สิ่งที่กังวลในฤดูหีบปี 2565/66 ที่กำลังเข้าสู่ฤดูกาลเพาะปลูกใหม่คือภาวะต้นทุนต่างๆ จะแพงขึ้นมากโดยเฉพาะราคาปุ๋ย สารเคมี ที่ปรับขึ้นสูงกว่าเดิมเท่าตัว และหากราคาปุ๋ยยังไม่มีแนวโน้มลดต่ำลงแต่อย่างใดตราบใดที่สงครามการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังไม่จบ ขณะเดียวกันยังต้องติดตามภาวะราคาน้ำมัน ค่าแรงต่างๆ ว่าช่วงปลายปี 2565 ที่จะเข้าสู่ฤดูเปิดหีบจะสูงขึ้นมากน้อยเพียงใด เหล่านี้ล้วนเป็นต้นทุนการผลิตที่จะสูงขึ้น ดังนั้นแม้แนวโน้มราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกมีอัตราที่สูงขึ้นแต่หากเทียบกับต้นทุนที่สูงจึงทำให้เกษตรกรไม่ได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากแต่อย่างใด
กำลังโหลดความคิดเห็น