อำนาจเจริญ - “สุทัศน์ เงินหมื่น” นำกรรมาธิการยุติธรรมฯ พบชาวบ้านเดือดร้อนจากโรงงานน้ำตาลมิตรผล ชาวบ้านระบุเจอทั้งฝุ่น เสียงเครื่องจักร ทั้งปล่อยน้ำเสียสู่ชุมชน ที่สำคัญเวทีประชาคมมีการจูงใจจัดเลี้ยงโต๊ะจีน ทั้งแจกน้ำตาลทราย ด้านกมธ.ยุติธรรมเตรียมนำปัญหาเสนอนายกรัฐมนตรีแก้
วันนี้ (3 เม.ย.) ที่ศาลาประชาคม หมู่ 2 ต.น้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ นายสุทัศน์ เงินหมื่น ประธานคณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร นำคณะเดินทางมาพบประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการตั้งโรงงานน้ำตาลมิตรอำนาจเจริญ ในเครือน้ำตาลมิตรผล ซึ่งมีประชาชนในพื้นที่ ต.น้ำปลีก อ.เมืองอำนาจเจริญ และ ต.เซียงเพ็ง อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร ที่ได้รับผลกระทบจากการตั้งโรงงานน้ำตาลมิตรผล มารอรับคณะกรรมาธิการจำนวนมาก
ทั้งนี้ สาเหตุที่คณะกรรมาธิการลงพื้นที่ครั้งนี้เนื่องจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียนไปยังสภาผู้แทนราษฎร ว่าโรงงานน้ำตาลแห่งนี้ได้ปล่อยฝุ่นละอองกลุ่มควัน ทั้งเกิดเสียงดังมาจากโรงงานน้ำตาล โรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล และปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลอง ส่งผลให้เกิดมลพิษต่อประชาชนที่อยู่ภายในบริเวณดังกล่าวมาเกือบ 10 ปี แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
น.ส.จิราพร แก้วดี อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 190 ม.8 ต.น้ำปลีก หนึ่งในฐานะแกนนำผู้เดือดร้อน ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมคณะกรรมาธิการว่า แม้ว่าการก่อสร้างโรงน้ำตาลได้ส่งผลดีต่อเกษตรกร ทำให้เกิดการจ้างงาน และประหยัดต้นทุนการขนส่งในการนำผลผลิตไปจำหน่าย แต่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม เช่นเกิดมลภาวะเป็นพิษจากกลุ่มฝุ่นละอองจากโรงงาน กลิ่น เสียงดัง และโรงงานยังปล่อยน้ำเสียสู่แม่น้ำลำคลอง ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน
ด้านนายโจโส สมบูรณ์ กำนันตำบลน้ำปลีก กล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานน้ำตาล ทางจังหวัดได้จัดให้มีประชาคม แต่วันทำประชาคมดังกล่าวทางโรงงานแทนที่จะให้ประชาชนที่อาศัยภายในบริเวณใกล้โรงงานที่ได้รับผลกระทบมาลงมติเท่านั้น แต่กลับขนประชาชนจากภายนอกมาลงมติจำนวนมาก ทั้งยังมีการจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนและแจกน้ำตาลทรายให้แก่ผู้ที่มาประชาคม ตนเห็นว่าการดังกล่าวเเป็นการจูงใจหรือให้สินบน
ด้านนายรังสิมันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการยุติธรรมสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า คณะกรรมาธิการได้รับฟังจากประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะนี้ยังตัดสินไม่ได้จะต้องได้รับฟังจากทางโรงงานก่อน ซึ่งการก่อตั้งโรงงานก็มีประชาชนที่คัดค้านและสนับสนุน ผู้ที่สนับสนุนก็อ้างว่ามีการสร้างงานสร้างอาชีพในท้องถิ่น ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นไม่ต้องจากบ้านไปหางานทำต่างถิ่น
ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบ ก็อ้างว่าผู้สนับสนุนนั้นมีที่พักอาศัยอยู่ห่างรัศมีโรงงาน ส่วนผู้อยู่ใกล้กับโรงงานน้ำตาลจะต้องได้รับผลกระทบจากมลภาวะเป็นพิษ ฝุ่นละออง เสียงจากเครื่องจักรทำงาน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าวันลงประชามติมีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนและแจกน้ำตาลทรายแก่ผู้มาร่วมลงประชามติ อาจจะเป็นการจูงใจหรือให้สินบน ปัญหาดังกล่าวตนจะได้นำเรื่องนี้เสนอต่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมลตรี และคณะรัฐมนตรี เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป