การตลาด - “ฮาคูโฮโด” เผยผลสำรวจล่าสุด โควิดที่ยังระบาดหนัก ผนวกกับภาวะเศรษฐกิจที่ยังแย่กำลังซื้อหด ทุบอารมณ์คนไทยความสุขลดลงเพราะต้องพยายามเอาตัวรอดจากเศรษฐกิจ เน้นหารายได้จากหลายช่องทาง แต่ไม่ลืมครอบครัว เสนอแนะแบรนด์สินค้าควรให้ความสำคัญต่อครอบครัว ความปลอดภัย และมั่งคั่งต่อผู้บริโภค
สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) ร่วมมือกับบริษัทในเครือฯ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) Hakuhodo First (Thailand) เผยผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 ซึ่งมีเนื้อหาที่น่าสนใจอย่างมาก
ทั้งนี้ หลักๆ ของงานวิจัยพบว่าการแพร่ระบาดของโควิดทำให้ค่าความสุขของคนไทยนั้นลดลง คนไทยให้ความสำคัญต่อสินค้าที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวและสุขภาพ พร้อมใส่ใจความมั่งคั่งและความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่แบรนด์ต่างๆ ในการเร่งทำการตลาดเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว เช่น ชวนคลายเครียดด้วยกิจกรรมใหม่ๆ เน้นเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัวแต่ยังปลอดภัยหลบโควิด หรือเสนอโปรโมชันช่วงซัมเมอร์ที่แปลกใหม่ ที่สามารถส่งความรักความห่วงใยถึงกันได้มากขึ้น
ผลสำรวจประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 เผยให้เห็นถึงภาพรวมของค่าความสุขของคนไทยที่ลดน้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงระบาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคืองซึ่งสร้างความกังวลใจให้แก่คนไทยเป็นอย่างมาก ส่งผลให้คนไทยหันมาใส่ใจในเรื่องของความปลอดภัย ความมั่งคั่ง และการจับจ่ายใช้สอยอย่างระมัดระวัง
นางสาวชุติมา วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า “จริงๆ แล้วคนไทยนั้นชอบชอป แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ต่างๆ ตอนนี้ทำให้สินค้าหลายๆ อย่างมีราคาสูงขึ้น ทั้งสินค้าอุปโภคและบริโภค ทำให้คนไทยระมัดระวังเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น และซื้อของที่ไม่จำเป็นลดลง”
แนวโน้มความต้องการในการใช้จ่าย จากผลสำรวจการคาดการณ์พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในประเทศไทยประจำเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 พบว่า รายการสินค้าที่ผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญมากที่สุดในช่วงนี้ ได้แก่ อาหาร ของใช้ในชีวิตประจำวัน และโทรศัพท์มือถือ ตามลำดับ สาเหตุเกิดจากการเตรียมตัวให้พร้อมต้อนรับช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อสังสรรค์กับครอบครัว เน้นซื้อของที่จำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน และยังคงให้ความสำคัญต่อการซื้อของต่างๆ เพื่อคนในครอบครัว
“แม้จะมีข้อจํากัดจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แต่คนไทยยังคงให้ความสำคัญต่อครอบครัวและเครือญาติ อย่างการรวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองในวันปีใหม่ไทย และการไหว้บรรพบุรุษ แต่จะถูกปรับเปลี่ยนวิธีมาเป็นการเฉลิมฉลองด้วยวิธีที่ปลอดภัยอย่างการฉลองที่บ้าน แทนการออกไปนอกสถานที่ ทำให้ผลสำรวจออกมาสอดคล้องกับพฤติกรรมการซื้ออาหารกักตุนไว้ที่บ้านช่วงสงกรานต์” นางสาวดวงแก้ว ไชยสุริวิรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) กล่าวเสริม
อย่างไรก็ตาม สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กลับพบอีกประเด็นหนึ่งที่แบรนด์ควรให้ความสำคัญ ได้แก่ ประเด็นด้านสงคราม การเมือง เศรษฐกิจ การลงทุน และอาชญากรรม ที่ส่งผลให้สินค้าอุปโภคและบริโภคมีราคาสูงขึ้น ทำให้คนไทยมองหาความมั่งคั่งมากกว่างานที่มั่นคง เพื่อให้มีรายได้ที่มากขึ้นชดเชยกับค่าใช้จ่าย และต้องวางแผนการจับจ่ายให้รัดกุมมากขึ้น ลดการเดินทางและการท่องเที่ยว แต่ยังคงใส่ใจครอบครัวด้วยการซื้อของให้ญาติผู้ใหญ่ในวันสำคัญเพื่อสื่อความห่วงใยแม้ตัวห่างไกลกัน
เพื่อให้แบรนด์สามารถทำการตลาดได้สอดคล้องกับสถานการณ์ช่วงซัมเมอร์นี้ นางสาวพรนภัส สุลัยมณี นักวางแผนกลยุทธ์ ฮาคูโฮโด เฟิร์ส (ประเทศไทย) ได้ให้คำแนะนำว่า
1. แบรนด์ควรชวนคลายเครียดด้วยกิจกรรมใหม่ๆ เน้นเสริมความสัมพันธ์กับครอบครัวแต่ยังปลอดภัยหลบโควิด เพราะเทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาของครอบครัว ที่แบรนด์สามารถเข้าไปเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ เปลี่ยนบรรยากาศการเฉลิมฉลองกับครอบครัว สนับสนุนการอุปโภคและบริโภคสินค้าภายในบ้านที่ดีต่อสุขภาพและจิตใจเป็นหลัก เพื่อชดเชยข้อจำกัดด้านการเดินทางท่องเที่ยว หรือกลับบ้านไปหาครอบครัวในช่วงโควิดโอมิครอนนี้
2. เสนอโปรโมชันช่วงซัมเมอร์ที่แปลกใหม่ พร้อมสนับสนุนการส่งความรักความห่วงใยถึงกัน เพื่อต้อนรับช่วงเวลาที่สำคัญของครอบครัว อย่างการส่งมอบความรักความห่วงใยให้กับครอบครัวหรือคนที่เรารักแม้อยู่ห่างไกลกัน
“สถานการณ์เช่นนี้ถือเป็นความท้าทายของทุกๆ ฝ่ายในการที่จะต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ แม้ว่าโควิด- 19 จะทำให้เราไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนไกล แต่เรายังสามารถแสดงความห่วงใยให้คนที่เรารักและกระชับความสัมพันธ์กับสมาชิกในครอบครัวหรือคนสำคัญในชีวิตของเราได้ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) เราเล็งเห็นถึงช่องว่างนี้ และหวังว่าแบรนด์ต่างๆ จะนำข้อเสนอแนะนี้ไปปรับใช้กับแผนการตลาดของตน เพื่อให้สามารถรับมือกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดเข้มข้นสู่เศรษฐกิจฝืดเคือง และเพิ่มความสุขให้คนไทยในไตรมาสต่อไปได้” นางสาวพรนภัส สุลัยมณี กล่าว