“จุรินทร์” ถก นบขพ. ร่วม 4 ฝ่าย รัฐ เกษตรกร ผู้เลี้ยงสัตว์ และผู้ผลิตอาหารสัตว์ ยังไม่เคาะมาตรการลดต้นทุนอาหารสัตว์ มอบปลัดพาณิชย์ถกร่วม 3 ฝ่ายให้พร้อมหน้า หาข้อยุติ ก่อนเสนอพิจารณาอีกครั้ง ย้ำให้ยึดหลักวัตถุดิบอาหารสัตว์ไม่ขาดแคลน ราคาอาหารสัตว์ไม่สูงจนเป็นภาระผู้เลี้ยง ผู้ปลูกข้าวโพด มัน และพืชอื่นไม่กระทบ และผู้บริโภคต้องไม่บริโภคเนื้อสัตว์แพงเกินไป
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (นบขพ.) ครั้งที่ 1/2565 ว่า ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาประเด็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาลี และข้าวโพด โดยได้หารือกันใน 2 ประเด็น คือ ประเด็นที่ 1 ทำอย่างไรไม่ให้ปริมาณวัตถุดิบอาหารสัตว์ในประเทศขาดแคลน ประเด็นที่ 2 ทำอย่างไรไม่ให้ราคาพุ่งสูงขึ้นเกินไปจนเป็นภาระต้นทุนการผลิตสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ และไม่ให้เป็นภาระต่อผู้บริโภคจนเกินสมควร รวมทั้งทำอย่างไรไม่ให้เกษตรกรผู้ปลูกพืชไร่ ข้าวโพด มันสำปะหลังหรือพืชอื่นได้รับผลกระทบ จึงต้องสร้างจุดสมดุลให้กับทุกฝ่ายให้อยู่ร่วมกันได้ ไม่เป็นภาระของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจนเกินสมควร
ทั้งนี้ การพิจารณาจัดทำมาตรการถือว่าเป็นโจทย์ยาก เพราะแต่ละกลุ่มยังมีความเห็นที่ต่างกัน ผู้ปลูกพืชไร่อยากให้ข้าวโพดราคาสูงที่สุด ผู้เลี้ยงสัตว์อยากให้ต้นทุนอาหารสัตว์ที่มีข้าวโพดและข้าวสาลีเป็นส่วนผสมต่ำที่สุด ผู้ผลิตอาหารสัตว์ ถ้าต้นทุนสูง อยากขึ้นราคาอาหารสัตว์ ผู้บริโภคอยากให้คุมราคาไก่เนื้อ ไข่ และหมู ไม่ให้สูงจนเกินไป คือโจทย์ที่คณะกรรมการชุดนี้เป็นผู้ดำเนินการต่อไป โดยความเห็นเบื้องต้น ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเข้ามาดูแล ทั้งเรื่องราคาและปริมาณให้สมดุลกัน คือ ราคาอาหารสัตว์ไม่ให้สูงจนเป็นภาระของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ไก่ และไข่ และให้มีปริมาณพอใช้และไม่เป็นภาระต่อผู้บริโภค และกระทบต่อราคาข้าวโพดในประเทศและพืชไร่อื่น
“การประชุมในวันนี้จึงยังไม่ได้ข้อสรุปทั้งหมด ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ไปนัดหมายประชุมกับอีก 3 ฝ่าย ให้ครบถ้วนทุกสมาคมที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และหาข้อสรุปร่วมกันให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน หลังจากที่การประชุมครั้งนี้ สมาคมผู้ค้าพืชไร่ไม่ได้มาเข้าร่วมประชุม และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ก็ส่งผู้แทนเข้ามา จึงต้องการให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณาร่วมกันอีกครั้ง และเมื่อได้ข้อสรุปจะเสนอต่อที่ประชุม นบขพ. อีกครั้งหนึ่งโดยเร็วที่สุด” นายจุรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า ที่ประชุมได้รับรายงานสถานการณ์พืชสำคัญของโลก ทั้งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ข้าวสาลี และข้าวบาร์เลย์ โดยพบว่าปี 2564 ราคาปรับสูงขึ้น 41% โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่ม 64% ข้าวสาลีเพิ่ม 30% ข้าวบาร์เลย์ เพิ่ม 34% และปี 2565 ราคาปรับขึ้น 30% โดยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่ม 23% ข้าวสาลี เพิ่ม 37% ข้าวบาร์เลย์ เพิ่ม 30% เพราะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้าทางทะเลแถบยุโรปเพิ่มขึ้น