รฟท.เร่งแก้รอยต่อ "สายสีแดง" จัดรถดีเซลวิ่งฟีดเดอร์ 2 เส้นทาง "ตลิ่งชัน-นครปฐม" และ "รังสิต-อยุธยา" พร้อมลุยทดสอบหัวจักรไฟฟ้ารุ่นใหม่ 20 คัน เดินแผนปรับรถไฟทางไกลเข้า "สถานีกลางบางซื่อ"
นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า จากที่คณะอนุกรรมการด้านประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อและรูปแบบการเดินรถไฟเข้าสู่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ที่มีนายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง เป็นประธานฯ ได้ลงสำรวจพื้นที่ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประเมินคุณภาพสถานีรถไฟชานเมืองสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อ พร้อมทำเช็กลิสต์ (Checklist) เพื่อแก้ปัญหาการให้บริการในด้านต่างๆ เช่น ดำเนินการการปรับปรุงป้ายบอกทางภายในสถานีกลางบางซื่อให้สอดคล้องกับผังการสัญจรภายในสถานีฯ และเป็นสากลที่เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งขณะนี้ปรับปรุงภาพรวมเสร็จแล้ว
ส่วนการเชื่อมต่อเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อ ปัจจุบันได้มีบริการทั้งรถ ขสมก. รถแท็กซี่ รถไฟฟ้า MRT รองรับผู้ใช้บริการได้เพียงพอ อย่างไรก็ตาม รฟท.ได้มอบหมายให้บริษัท รถไฟฟ้า รฟฟท.จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดง หารือกับผู้ประกอบการโดยรอบพื้นที่สถานีกลางบางซื่อในการจัดทำฟีดเดอร์เพิ่มเติม ให้ผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าสู่สถานีกลางบางซื่อได้รับความสะดวกมากที่สุด
@จัดรถดีเซลวิ่งฟีดเดอร์สายสีแดง 2 เส้นทาง "ตลิ่งชัน-นครปฐม" และ "รังสิต-อยุธยา"
นอกจากนี้ รฟท.จะทำฟีดเดอร์ที่เป็นระบบรางเชื่อมเข้าสู่ระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง โดยสายเหนือจะใช้สถานีรังสิต ส่วนสายใต้ คือสถานีตลิ่งชัน เป็นสถานีเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสาร โดยจัดเดินขบวนรถไฟดีเซลวิ่ง Loop เป็นฟีดเดอร์ ช่วงอยุธยา-รังสิต ระยะทางประมาณ 40 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที และสายใต้ช่วงนครปฐม-ตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
ปัจจุบันทั้ง 2 เส้นทางมีการเดินรถให้บริการอยู่แล้ว การทำเป็นฟีดเดอร์จะต้องมีความถี่ ซึ่งจะต้องจัดสรรรถไฟดีเซลมาเพิ่มให้เหมาะสม โดยช่วงแรกจะมีความถี่ประมาณชั่วโมงละ 1 ขบวน ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มความสะดวกให้ประชาชนที่อยู่ในโซนนครปฐม และอยุธยา สามารถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ได้สะดวก รวดเร็วมากขึ้น
รวมถึงอาจมีการจัดทำระบบตั๋วโดยสารร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีแดงด้วย เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการเดินทาง และสนับสนุนให้ประชาชนใช้ระบบรางมากขึ้น และได้หารือกับมหาวิทยาลัยมหิดลศาลายา และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ร่วมสนับสนุนการใช้ระบบรางในการเดินทาง
@เร่งทดสอบหัวจักรไฟฟ้ารุ่นใหม่ 20 คัน ปรับแผนรถไฟทางไกล "สถานีกลางบางซื่อ"
สำหรับแผนการย้ายรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อนั้น จะมีการหารือรายละเอียดในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาและดำเนินการในหลายส่วนคู่ขนานเพื่อให้เกิดความพร้อมมากที่สุด โดย รฟท.จะเร่งการทดสอบหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ได้รับมอบชุดแรกจำนวน 20 คันจากทั้งหมด 50 คัน ซึ่งอยู่ระหว่างติดตั้งระบบห้ามล้ออัตโนมัติ (ATP) รองรับกับมาตรฐาน ETCS level 1 ที่เพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถ อีกทั้งมีผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมน้อย เพื่อรองรับการย้ายรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ
โดยจะนำหัวรถจักรดีเซลไฟฟ้ารุ่นใหม่มาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อประมาณ 16 คัน ขณะที่แผนการย้ายรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อ จะใช้แผนเดิมที่เคยนำเสนอ คือ สายเหนือ 12 ขบวน สายตะวันออกเฉียงเหนือ 16 ขบวน ส่วนสายใต้ หากสามารถติดตั้ง ATP ได้ครบถ้วนอาจจะปรับรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อได้ด้วย โดยยังคงมีรถไฟเชิงสังคม 22
ขบวนเข้าสถานีหัวลำโพง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะปรับย้ายขบวนรถไฟทางไกลมาให้บริการที่สถานีกลางบางซื่อนั้น รฟท.จะทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชน
รวมไปถึงหารือกับคณะกรรมการผู้บริโภค ภาคประชาชน นักวิชาการองค์กรต่างๆ ให้ได้ข้อยุติ เพื่อประมวลข้อมูลให้รอบด้านอย่างครบถ้วนก่อนที่จะนำเสนอคณะอนุกรรมการฯ กระทรวงคมนาคม
พิจารณาต่อไป