การประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.วาระปี 2565-2567 วันที่ 22 เม.ย.นี้เตรียมโหวตเลือกประธานส.อ.ท.คนใหม่แทนนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ที่ครบเทอมหลังการเลือกตั้งกรรมการทั้งประเภทเลือกตั้งและแต่งตั้งครบถ้วน พร้อมยกมือหนุน "นายเกรียงไกร เธียรนุกุล" ขึ้นแท่นประธานคนใหม่แบบนอนมา ท่ามกลางภารกิจสุดท้าทายรับมือภูมิรัฐศาสตร์โลกเปลี่ยน หนุนอุตฯ ฝ่าวิกฤตสารพัด
แหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า วันที่ 22 เมษายน 2565 จะมีการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.วาระปี 2565-2567 เพื่อเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่แทน นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ที่ครบวาระการดำรงตำแหน่ง 2 ปี (วาระปี 2563-65) โดยเป็นที่แน่นอนแล้วว่านายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท.ปัจจุบันจะเข้ามารับไม้ต่อนั่งประธาน ส.อ.ท.คนใหม่แทน หลังจากที่การประชุมสามัญประจำปี 2565 เมื่อ 28 มี.ค.ได้ประกาศรายชื่อคณะกรรมการ ส.อ.ท.ประเภทเลือกตั้งวาระปี 2565-2567 ครบ 242 คนแล้ว และเมื่อรวมคณะกรรมการประเภทแต่งตั้งอีก 121 คนรวมเป็น 363 คนล้วนเป็นผู้ให้การสนับสนุนนายเกรียงไกร
“การประชุมวันที่ 22 เม.ย. ที่โรงแรมเซ็นทาราฯ เซ็นทรัลเวิลด์จะเป็นการรับรองคณะกรรมการที่มาจากการแต่งตั้ง ซึ่งได้มีการทยอยประชุมและประกาศรายชื่อจากกลุ่มอุตสาหกรรมและ ส.อ.ท.จังหวัดไปก่อนหน้านี้รวม 121 คน พร้อมกับโหวตเลือกประธานส.อ.ท.คนใหม่วาระปี 2565-2567 ซึ่งจะมีการเสนอชื่อนายเกรียงไกร เธียรนุกุล เพียงรายชื่อเดียว โดยไร้รายชื่ออื่นเข้ามาแข่งขัน ดังนั้นจึงคาดว่าการประชุมครั้งนี้นายเกรียงไกรจะเปิดตัวทีมงานและแสดงวิสัยทัศน์ถึงแนวทางการบริหารทันที” แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ นโยบายของนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ได้มุ่งเน้นให้การเลือกตั้งประธาน ส.อ.ท.เป็นไปแบบสันติ โดยให้มีการหารือกันภายในเพื่อวางตัวบุคคลที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดการเสนอรายชื่อการแข่งขันเพียงหนึ่งเดียว เนื่องจากหากมีการเสนอตัวชิงประธาน 2-3 รายชื่อเช่นอดีตได้ทำให้เวที ส.อ.ท.นำไปสู่การฟ้องร้องและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ ส.อ.ท.อย่างรุนแรง และที่สำคัญ เมื่อบุคคลที่เสนอชื่อและทีมเข้ามาบริหาร ส.อ.ท.เกิดการแข่งขันแล้วผู้ที่แพ้ส่วนใหญ่จะลาออกจาก ส.อ.ท.และหันไปอยู่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยและอื่นๆ แทนซึ่งทำให้เสียบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถไปทำให้การขับเคลื่อนองค์กรไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ส.อ.ท.กำหนดให้มีการเลือกตั้งทุก 2 ปี และประธาน ส.อ.ท.จะดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 2 สมัยติดต่อกัน ซึ่งนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ครบ 2 สมัย (วาระแรกปี 2561-63 และวาระ 2 ปี 2563-2565) จึงต้องเลือกตั้งประธานคนใหม่ตามระเบียบ
สำหรับนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ว่าที่ประธาน ส.อ.ท. คนใหม่เป็นผู้มีประสบการณ์ที่ทำงานกับ ส.อ.ท.มายาวนานผ่านงานหลายด้านทั้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ และระดับรองประธานหลายยุคสมัยติดต่อกัน เชี่ยวชาญงานภายในประเทศและต่างประเทศหลายด้าน จนล่าสุดดูแลสายงานงานส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ดูแลกลุ่มอุตสาหกรรมครอบคลุม 45 กลุ่ม และ 11 คลัสเตอร์ในยุคนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ซึ่งถือเป็นบทบาทที่สำคัญในการร่วมกันพัฒนาภาคอุตสาหกรรมของไทยและจะถูกสานต่อภารกิจการขับเคลื่อน ส.อ.ท.ที่มีความท้าทายในการพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่
"โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตโควิด-19 และมาซ้ำเติมจากการสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่กำลังจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์ครั้งใหญ่ที่ต้องจับตา ซึ่งทั้งหมดนี้ย่อมกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต้องปรับตัวอย่างมาก ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมมีบทบาทสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล จะได้รับเลือกเป็นประธาน ส.อ.ท.คนใหม่จึงนับว่าเหมาะสมจากประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาและทุกฝ่ายยอมรับ โดยเชื่อว่าท่านจะให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพของอุตสาหกรรมไทยที่เป็นกิจการของคนไทยเช่นเดียวกับนายสุพันธุ์ให้มากขึ้นโดยเฉพาะการต่อยอดจากภาคเกษตร" แหล่งข่าวกล่าว