“มัลลิกา” ออกโรงกระทุ้ง “สำนักงบประมาณ-สภาพัฒน์” ร่วมมืออนุมัติงบประมาณแก้ไขปัญหา “ปุ๋ย” เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ใช่อ้างโน่นอ้างนี่ พอทำตามที่บอกก็ยังเงียบ แนะดูข้อเท็จจริงสถานการณ์โลกตอนนี้เกิดวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ไม่ใช่เหมือน 2 ปีที่ผ่านมา พร้อมวอนนายกฯ ช่วยติดตาม สั่งการ
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาปุ๋ยเคมี ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ติดตามสถานการณ์ราคาปุ๋ยอย่างใกล้ชิด และได้สั่งการให้ประเมินกรณีสมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตรไทย มีหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอปรับราคาขายปุ๋ยเคมี โดยระบุถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ต้นทุนนำเข้าปุ๋ยปรับสูงขึ้น เช่น ราคาน้ำมัน ค่าขนส่ง และสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ที่เป็นอุปสรรคต่อการนำเข้าปุ๋ยจากต่างประเทศ โดยขอให้ตรวจสอบต้นทุนและราคา และประสานกับทุกกระทรวงและฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหา
“การประเมินข้อมูลต้นทุนและราคาได้ทำมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะมีเหตุแห่งสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครนเท่านั้น เนื่องจากระยะ 2 ปีที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์มีโครงการปุ๋ยลดราคาเพื่อเกษตรกรและให้เป็นแนวความร่วมมือระหว่างทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ประกอบการและสมาคมฯ แต่ตอนนี้มีวิกฤตเกิดขึ้น กระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาด้วยความเหมาะสม และการอนุญาตให้ปรับราคาจำหน่ายปุ๋ยหรือไม่ จะต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไป โดยคำนึงถึงต้นทุนวัตถุดิบปุ๋ยในตลาดโลกที่สูงขึ้น ผลกระทบต่อพี่น้องเกษตร และแนวทางเยียวยาผลกระทบควบคู่กันไป” นางมัลลิกากล่าว
นางมัลลิกากล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเรื่องนี้จะทำเพียงลำพังกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ เพราะการช่วยเหลือเกษตรกรจะต้องใช้งบประมาณ โดยที่ผ่านมา 2 หน่วยงานที่ไม่ใช่สังกัดกระทรวงพาณิชย์ คือ สำนักงบประมาณ และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ มีความเห็นที่ติดขัดเรื่องนี้ โดยในส่วนของงบชดเชยนั้น ภาวะวิกฤตต้องขอใช้งบกลาง แต่สำนักงบฯ บอกว่า ไม่ใช่หน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ทั้งที่นายกรัฐมนตรีสั่งการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้บูรณาการประสานให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอตามข้อแนะนำของสำนักงบฯ และกระทรวงเกษตรฯ ก็เสนอแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการอำนวยการจากสำนักงบประมาณ ส่วนการพิจารณาใช้งบเงินกู้ ก็ติดขัดความเห็นของสภาพัฒน์ที่แย้งว่าการขอใช้เงินชดเชยให้เกษตรกรที่ซื้อปุ๋ย ไม่ตรงกับจุดประสงค์ของการใช้งบประมาณ เห็นว่าทั้ง 2 หน่วยงานคงต้องหาทางออกให้เกษตรกรและทุกฝ่าย และเรื่องนี้นายจุรินทร์จะได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีต่อไป
“รัฐบาลจะต้องช่วยแก้วิกฤตนี้ให้ตรงจุด และดูจากข้อเท็จจริง เพราะก่อนหน้านี้ คือตอนที่ไม่มีวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เราช่วยเกษตรกรมาโดยตลอด โดยการลดราคาปุ๋ย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการ สมาคมฯ และทุกฝ่ายมา 2 ปี โดยไม่ได้ใช้งบประมาณแผ่นดิน แต่พอเดินหน้าในปีที่ 3 มันมีวิกฤตรัสเซีย-ยูเครนเข้ามากระแทกซ้ำ แต่กระทรวงพาณิชย์อยู่ปลายน้ำ คือ สถานการณ์ราคา จึงอยากจะสะท้อนเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและบูรณาการในหน่วยงานซึ่งสังกัดกระทรวงการคลังและสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย” นางมัลลิกากล่าว
