กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) แนะผู้ส่งออกจับตาศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ The Gulu ที่กำลังเติบโต ชี้เป็นโอกาสในการทำตลาดในยูกันดา ซูดานใต้ และคองโก คาดหลังศูนย์ฯ เปิดดำเนินการ มูลค่าการค้าไทยกับซูดานใต้และคองโกขยายตัวเพิ่มขึ้นแน่
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้มอบหมายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจเส้นทางโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มโอกาสในการส่งออกให้สินค้าของไทย และกรมฯ ได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์ดำเนินการสำรวจ ล่าสุดได้รับรายงานจากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ถึงการพัฒนาศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ The Gulu ที่จะช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าระหว่างยูกันดา ซูดานใต้ และสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก และการเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดส่งออกของไทยเข้าสู่ยูกันดา ซูดานใต้ และคองโก
ทั้งนี้ ในปัจจุบันศูนย์กลางการขนส่งและโลจิสติกส์ The Gulu มีมูลค่า 29 ล้านเหรียญสหรัฐ ถูกสร้างขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อลดต้นทุนการขนส่งและอุปสรรคทางการค้าต่างๆ ที่ยูกันดาต้องเผชิญในการส่งสินค้าออกไปยังซูดานใต้ และคองโก โดยศูนย์ฯ แห่งนี้จะจัดหาตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าชนิดแยกหีบห่อ (Break-bulk) การจัดการสินค้า ตลอดจนการจัดเก็บ ซึ่งรวมไปถึงสินค้าทัณฑ์บนและสินค้าที่ต้องชำระภาษี อีกทั้งยังบริการจัดเตรียมพื้นที่สำหรับเจ้าหน้าที่ พนักงาน หรือตัวแทนบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้า
“การก่อสร้างและพัฒนาศูนย์กลางการขนส่ง The Gulu ดังกล่าว มีผลให้ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าไปยังประเทศคองโกและซูดานใต้ ก่อให้เกิดโอกาสทางการค้าใหม่ๆ ตามมาเป็นอันมาก เนื่องจากหากต้นทุนการขนส่งลดลง สินค้าที่จะส่งออกไปขายในประเทศข้างต้นก็จะมีโอกาสทางการตลาดที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการใหม่ๆ ได้เพิ่มขึ้นจากราคาปลายทางที่น่าจะลดลง ดังนั้น ผู้ส่งออกไทยที่สนใจจะทำตลาดในยูกันดา ซูดานใต้ และคองโก ควรทราบถึงการพัฒนาของเส้นทางดังกล่าว เพราะอาจจะมีความต้องการสินค้านำเข้าจากไทยใน 2 ประเทศนี้มากขึ้นตามไปด้วยในอนาคต” นายภูสิตกล่าว
นายณัฐพงศ์ เสนาณรงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงไนโรบี เคนยา กล่าวว่า ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างเคนยากับยูกันดาที่มีในปัจจุบันอาจส่งผลให้การพัฒนาเส้นทางดังกล่าวมีความล่าช้ากว่าที่ควร ซึ่งสำนักงานฯ จะได้ติดตามและรายงานให้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทราบเป็นระยะ แต่ถ้าการพัฒนาศูนย์ฯ มีความคืบหน้า ก็จะช่วยส่งเสริมให้การค้าไทยกับ 2 ประเทศนี้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันปี 2564 ที่มีการนำเข้าสินค้าไทยกว่า 1,800 ล้านบาท
โดยซูดานใต้มีสินค้าที่นำเข้าจากไทย เช่น อะไหล่รถยนต์ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศและชิ้นส่วน เคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์พลาสติก ขณะที่คองโกมีการนำเข้าสินค้าจากไทย เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์พลาสติก สิ่งทอ ผลิตภัณฑ์ยาง อะไหล่รถยนต์ เป็นต้น