xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นตลาดแอร์ฟื้นตัว 10% แอลจีอัด 250 ล.ลุย ขอขึ้นท็อป3

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360- โควิดทำตลาดแอร์ทรุดมาตลอด2ปี ส่งผลปี64 เหลือ 20,563 ล้านบาท ลุ้นปี65 กลับมาโตได้ 10% เหตุอากาศร้อนมาแน่ ดีมานด์กลับคืน แอลจีอัด 250 ล้านบาทลุย ควง”เวียร์ -ศุกลวัฒน์” นั่งแท่นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ทำตลาดทั้งแอร์บ้านและแอร์พาณิชย์ มั่นใจขึ้นท็อป3 จากปีก่อนรั้งอันดับ4

นายซองฮัน จาง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แอลจีมุ่งพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยคำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภคเป็นอันดับแรก โดยในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศ จะนำเสนอทุกคำตอบ ซึ่งปีนี้พร้อมส่งนวัตกรรมปรับอากาศครอบคลุมทุกตลาด ทั้งภายในบ้านและเชิงพาณิชย์ ยกระดับประสบการณ์ความเย็นและอากาศสะอาดแก่ชาวไทย

“เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำเสนอทุกคำตอบของระบบปรับอากาศ หรือ LG Total Air Solution แห่งปี 2022 ครอบคลุมนวัตกรรมทั้งสำหรับเครื่องปรับอากาศภายในบ้านและเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เพื่อมอบอากาศสะอาดบริสุทธิ์ในทุกอาคารสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด คาเฟ่ โรงแรม หรือร้านค้าปลีก นอกจากนี้พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัยและขยายความสามารถในการเชื่อมต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแอลจีกับแอป LG ThinQ บนสมาร์ทโฟน เพื่อความสะดวกสบายและประสิทธิภาพขั้นสูงสุดในการสั่งงานและตรวจสอบการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทุกที่ทุกเวลา”


ล่าสุดในปีนี้พร้อมนำเสนอเครื่องปรับอากาศไลน์อัพใหม่ล่าสุด ประกอบด้วย 1. LG DUALCOOL Smart (รุ่น IK) มาพร้อมกับ Plasmaster Ionizer++ ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค รวมถึงสารก่อภูมิแพ้ที่อาจปะปนอยู่ในอากาศ 2. LG ART COOL (รุ่น IW) ผสมผสานการออกแบบด้วยดีไซน์ล้ำสมัย 2 ทางเลือก ได้แก่ ดีไซน์กระจกเงาและตัวเครื่องสีดำ และดีไซน์สีเขียวแมทท์แบบมินิมอล พร้อม Plasmaster Ionizer++ ที่ช่วยกำจัดเชื้อโรค 3.LG DUALCOOL Flow (รุ่น IFR2) โดดเด่นด้วยการกระจายลมอัตโนมัติ 4 ทิศทาง มอบอากาศเย็นอย่างทั่วถึงทุกมุมห้อง พร้อม Fine Dust Filter กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กเพื่ออากาศที่สะอาดยิ่งขึ้น และ Auto Cleaning ระบบไล่ความชื้นอัตโนมัติ

ในส่วนของเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ ประกอบด้วย 1.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบฝังฝ้าพร้อมกระจายลมรอบทิศทาง (LG Round Cassette) โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรูทำความเย็นได้เร็วขึ้นกว่าเดิม เหมาะสำหรับการใช้งานในร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านค้า และสถานประกอบการต่างๆ 2.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบ Multi Split (LG Multi Split) สามารถติดตั้งคอยล์เย็นภายในบ้านได้สูงสุดถึง 3 ตัว ในพื้นที่ 3 ห้อง โดยเชื่อมต่อกับคอยล์ร้อนเพียงตัวเดียว เหมาะสำหรับบ้านหรือคอนโดที่อาจมีพื้นที่ระเบียงหรือพื้นที่ในการวางคอยล์ร้อนจำกัด 3.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบฝังฝ้า 4 ทิศทาง (LG 4-Way Cassette) โดดเด่นด้วยดีไซน์สวย เรียบ ทันสมัย ปรับทิศทางลมอิสระได้ 4 ทิศทางและส่งแรงลมได้ในระยะสูงสุด 4.2 เมตร


4.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบฝังฝ้า 1 ทิศทาง (LG 1-Way Cassette) ดีไซน์สวยทันสมัย พร้อมโหมดปรับทิศทางลมให้โดนตัวโดยตรงหรือไม่โดนตัว เหมาะกับความต้องการในการใช้งานที่หลากหลาย 5.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบตู้ตั้งพื้น (LG Floor Standing) ดีไซน์สวยหรูแบบโมเดิร์น สามารถกระจายความเย็นได้ไกลสูงสุด 20 เมตร ควบคุมทิศทางลมให้สวิงอัตโนมัติได้ถึง 4 ทิศทาง และ6.เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์แอลจีแบบแขวนใต้ฝ้า (LG Convertible) ทำความเย็นเร็วขึ้น และส่งแรงลมได้ไกลสูงสุด 15 เมตร และถอดฟิลเตอร์ออกมาล้างทำความสะอาดด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย

ด้านนายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แอลจียังได้เปิดตัว “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มการตระหนักรู้ให้กับ
แบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องปรับอากาศแอลจี

โดยในปีนี้บริษัทวางแผนที่จะดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดผ่านช่องทางต่างๆ ด้วยงบการตลาดกว่า 250 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้แอลจีมีอัตราการเติบโตในตลาดกลุ่มเครื่องปรับอากาศภายในบ้านที่ 35 % หรือมียอดขายเครื่องปรับอากาศภายในบ้าน 3,200 ล้านบาท จากปีก่อนทำได้ 2,370 ล้านบาท และจากที่อยู่ในอันดับ4 ในตลาดแอร์บ้านในปีก่อน ปีนี้มั่นใจว่าจะขึ้นเป็นท็อป3 ได้


อย่างไรก็ตามในส่วนของแอร์เชิงพาณิชย์ แอลจีทำตลาดมาหลายปีแล้ว แต่ปีนี้จะจริงจังมากขึ้น และจากเดิมเน้นทำตลาดแต่แบบ B2B ปีนี้จะรุกตลาด B2C ด้วย หรือมีรายได้จากหน้าร้าน จากที่เริ่มเจาะตลาดลูกค้าทั่วไปมากขึ้น ตั้งเป้าปีนี้แอร์พาณิชย์จะมียอดขายมากกว่า 1,000 ล้านบาทอจากที่ทำได้ในปีก่อน

นายอำนาจ กล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดรวมแอร์บ้าน ก่อนมีโควิด-19 หรือในปี2562 มีมูลค่ากว่า 23,240 ล้านบาท แต่หลังเจอโควิด-19 มาตลอด2ปี กลับมีมูลค่าลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี2563 มีมูลค่าลดลงเหลือ 20,929 ล้านบาท ติดลบ 9.9% และในปี2564 ที่ผ่านมา เหลือ 20,563 ล้านบาท ติดลบ 1.7% ส่วนในปี2565 นี้ เชื่อว่าอากาศจะกลับมาร้อนมากอีกครั้ง รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว กำลังซื้อกลับมา และความต้องการแอร์บ้านจะมีมากขึ้น จึฃเชื่อว่าตลาดแอร์บ้านปีนี้จะกลับมาเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หรือน่าจะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 22,000 ล้านบาท.


กำลังโหลดความคิดเห็น