“พาณิชย์” เปิดโพย 10 ธุรกิจดาวเด่นปี 65 เผยอีคอมเมิร์ซมาแรงตามการเติบโตของการค้าออนไลน์ ตามด้วยการขนส่ง โลจิสติกส์ เวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร ธุรกิจด้านเทคโนโลยี รีไซเคิล เครื่องสำอาง ขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ การดูแลผู้สูงอายุ บรรจุภัณฑ์กระดาษ และโฆษณาออนไลน์ ระบุทั้ง 10 ธุรกิจมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท แนะผู้ประกอบการที่สนใจทำธุรกิจต้องดูกระแส และต้องเน้นธุรกิจที่ตัวเองถนัด
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ทำการวิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ จากฐานข้อมูลทางธุรกิจที่มีอยู่ ตั้งแต่สถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ สถานที่ตั้ง งบการเงิน ผลการประกอบธุรกิจ และข้อมูลปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่นๆ ทั้งภายในและภายนอก ได้ข้อสรุปว่ามีธุรกิจน่าจับตามองและเป็นธุรกิจดาวเด่นในปี 2565 รวม 10 ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตได้ดี
โดยทั้ง 10 ธุรกิจ มีดังนี้ 1. ธุรกิจ e-Commerce ได้แก่ ธุรกิจการค้าปลีกออนไลน์และแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้บริโภคไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้าและสถานบริการได้ตามปกติ รวมทั้งการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มช่องทางการตลาดค้าผ่านทางออนไลน์มากขึ้น และการเพิ่มขึ้นของการใช้สื่อสังคมออนไลน์ (Social media) ทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการออนไลน์เพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกับปี 2564
2. ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ ได้แก่ ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ (Delivery) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ (Logistic) กลุ่มธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและได้รับประโยชน์จากการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce เนื่องจากผู้บริโภคปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาซื้อ-ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้มีความต้องการบริการด้านขนส่งโลจิสติกส์มากขึ้นตามไปด้วย
3. ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร กลุ่มธุรกิจนี้มีปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งในปี 2565 ทั่วโลกอาจต้องเผชิญกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่สามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นที่อาจต้องพึ่งพากลุ่มธุรกิจเวชภัณฑ์ และธุรกิจผลิต/แปรรูปพืชสมุนไพรเพื่อบรรเทาและป้องกันสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว
4. ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้หลายธุรกิจหันมาพึ่งพาเทคโนโลยี หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งการใช้ประโยชน์จากการบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาให้บริการลูกค้าอย่างรวดเร็วและตรงจุด เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ส่งเสริมให้ธุรกิจสามารถทำกำไรได้เพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง
5. ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับอิทธิพลมาจากรูปแบบการประกอบธุรกิจให้ยั่งยืนด้วย ESG (Environmental, Social, and Governance) และ BCG (Bio, Green, and Circular) model โดยประกอบธุรกิจผ่านการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล อีกทั้งยังเน้นเรื่องการใช้ทรัพยากรหมุนเวียนเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม และสร้างธุรกิจให้เกิดความยั่งยืน ซึ่งธุรกิจการนำวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ตอบโจทย์ความต้องการตามรูปแบบการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนนี้
6. ธุรกิจเครื่องสำอาง ได้แก่ ธุรกิจค้าส่งเครื่องสำอางและธุรกิจค้าปลีกเครื่องสำอาง มีปัจจัยมาจากกระแสการดูแลสุขภาพ การดูแลตนเอง เพื่อเสริมภาพลักษณ์และสร้างความมั่นใจให้กับตนเอง อีกทั้งมีปัจจัยเรื่องการขายสินค้าออนไลน์ การเป็นตัวแทนขาย มาช่วยสนับสนุนยอดขายทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาในธุรกิจมากขึ้น
7. ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของการแข่งขันด้านพัฒนาอาหารสัตว์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น และการทำการตลาดสินค้าราคาแพง (Premium) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญต่อคุณภาพสินค้า และเติมเต็มคุณค่าทางใจเมื่อเกิดการใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง
8. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ ธุรกิจนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ปี 2560 จากสัดส่วนจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยที่มากกว่าร้อยละ 60 ของจำนวนประชากรในประเทศ รวมทั้งสัดส่วนประชากรวัยแรงงานต่อผู้สูงอายุในปัจจุบันที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
9. ธุรกิจกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระดาษ ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคลดการเดินทางออกจากที่พักและตัดสินใจซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น ประกอบกับการปรับตัวของผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มช่องทางการค้าออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้มีความต้องการบรรจุภัณฑ์สำหรับการจัดส่งสินค้าให้แก่ผู้บริโภคจำนวนมาก สอดคล้องกับธุรกิจ e-Commerce ที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่น
10. ธุรกิจโฆษณา สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้การทำโฆษณาโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยจากสถิติของสมาคมโฆษณาดิจิทัล สื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก (Facebook) และยูทูบ (Youtube) ครองสัดส่วนการใช้จ่ายมากที่สุด 2 อันดับแรก รวมกันกว่าร้อยละ 50
นายสินิตย์กล่าวว่า ธุรกิจดาวเด่นทั้ง 10 ธุรกิจมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท (งบการเงินปี 2563) และมีธุรกิจคงอยู่ทั้งสิ้น ณ วันที่ 31 ธ.ค. 2564 จำนวน 49,117 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 482,576.70 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจ e-Commerce จำนวน 4,858 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 42,829.97 ล้านบาท ธุรกิจด้านขนส่ง โลจิสติกส์ จำนวน 2,551 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 25,817.90 ล้านบาท ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร จำนวน 12,247 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 90,096.31 ล้านบาท ธุรกิจด้านเทคโนโลยี จำนวน 7,173 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 137,792.53 ล้านบาท ธุรกิจรีไซเคิล (Recycling) จำนวน 726 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 7,079.00 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องสำอาง จำนวน 9,028 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 30,694.25 ล้านบาท ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง จำนวน 494 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,635.72 ล้านบาท ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 533 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 2,191.56 ล้านบาท ธุรกิจกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระดาษ จำนวน 1,225 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 35,625.45 ล้านบาท ธุรกิจโฆษณา จำนวน 10,282 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 53,814.01 ล้านบาท
สำหรับทิศทางการประกอบธุรกิจในปี 2565 คาดว่าจะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้น และเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น โดยต้องพิจารณาถึงปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และผลกระทบจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่จะเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งขอแนะนำว่าผู้ประกอบการที่กำลังจะลงทุนประกอบธุรกิจ และกำลังมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่ง 10 ธุรกิจดังกล่าวข้างต้นน่าสนใจเป็นอย่างมาก แต่นอกจากกระแสธุรกิจที่กำลังได้รับความนิยมแล้ว ความชื่นชอบและความถนัดเป็นอีกคุณสมบัติที่ต้องคำนึง เนื่องการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนทำธุรกิจต้องรอบคอบให้มากที่สุด