นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการชิงเก็บ ลดเผา และเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าประจำปี พ.ศ. 2565 ณ อ่างเก็บน้ำวังเฮือ ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง โดยมีนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ทส. ตัวแทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ตลอดจนเครือข่ายความร่วมมือป้องกันไฟป่าเข้าร่วมงาน
ในการนี้ นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้กล่าวต้อนรับ และ นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงาน ภายหลังจากพิธีเปิด นายวราวุธ พร้อมด้วยผู้บริหาร ทส.ได้ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและควบคุมไฟป่า พร้อมเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าปล่อยกำลังพลเพื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่ และร่วมชิงเก็บใบไม้ในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีถ่ายทอดสดผ่านระบบ Video Conferences เพื่อรับมอบนโยบายของหน่วยงานในสังกัด ทส.ในท้องที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ
ทั้งนี้ นายวราวุธกล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้กำหนดให้ปี 2565 เป็นปีแห่งการฟื้นฟูและการปรับตัวทุกมิติ สร้างความมั่นใจให้แก่พี่น้องประชาชน เพิ่มสมรรถนะปรับแนวคิดและระบบในการทำงานแบบใหม่ สร้างการรับรู้ความเข้าใจและการทำงานแบบมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนทำงานแบบใหม่ ทส.ยกกำลัง X โดยให้ทุกหน่วยงานปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาไฟป่า ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกรมป่าไม้ได้เน้นดำเนินการด้วยการใช้มาตรการเชิงรุก ซึ่งโครงการชิงเก็บ ลดเผา และการเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าของกรมป่าไม้ในวันนี้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางการทำงานเชิงรุก ที่เน้นการประสานงานกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างยั่งยืน
“สำหรับสถานการณ์ไฟป่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ในส่วนการดำเนินงานของกรมป่าไม้นั้นถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ดั่งสถิติจุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียม Suomi NPP เซ็นเซอร์ VIIRS พบว่า ระหว่างวันที่ 1 มกราคมถึง 31 พฤษภาคม มีจุดความร้อนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 30,293 จุด เป็นปริมาณที่ลดลงถึง 26,036 จุด เมื่อเทียบกับปี 2563 และหากย้อนกลับไปเทียบกับปี 2562 พบว่ามีจุดความร้อนลดลงถึงร้อยละ 46.22”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวต่อไปว่า ในปี 2565 กรมป่าไม้ได้มีการ
เตรียมความพร้อมในการควบคุมไฟป่าในพื้นที่ความรับผิดชอบ 17 จังหวัดภาคเหนือ ซึ่งมีพื้นที่รวม 42.09 ล้านไร่ ตามมาตรการที่ 1 การเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและควบคุมไฟป่าเชิงพื้นที่ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและควบคุมไฟป่า ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย หนึ่ง การเตรียมการ ช่วงวันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค. เช่น จัดโครงสร้างหน่วยงาน, จัดทำแผนการปฏิบัติงาน/แผนเผชิญเหตุ, กำหนดพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า, จัดประชุมชี้แจงแนวทางปฏิบัติงาน, การประชาสัมพันธ์เชิงรุกทุกรูปแบบ เป็นต้น สอง รับมือ ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 พ.ค. โดยแบ่งเป็น ช่วงก่อวิกฤตในเดือนมกราคม ดำเนินการจัดตั้ง War room กรมป่าไม้/ส่วนหน้า/สำนักฯ, จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า, รายงานผลสถานการณ์ประจำทุกวัน, จัดชุดลาดตะเวนตรวจหาไฟ/จุดสกัด, แจ้งจุดความร้อน/จัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เข้าตรวจสอบ/ควบคุมไฟป่า และช่วงวิกฤต ในเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคม เน้นดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด, จัดกิจกรรมวันปลอดควันพิษจากไฟป่า, การประชาสัมพันธ์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง, การบริหารจัดการเชื้อเพลิงโดยการชิงเก็บอย่างต่อเนื่อง, การสนธิกำลังอุปกรณ์ ฯลฯ ในพื้นที่วิกฤต และแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันข้ามแดนผ่านกลไกอาเซียน และสาม ประเมินผลและสร้างความยั่งยืน ช่วงวันที่ 16 พ.ค.-30 ก.ย. เช่น วิเคราะห์พื้นที่ไฟไหม้ป่า, ออกประกาศกรมป่าไม้ เรื่อง ห้ามเข้าบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้, การตรวจสอบไม่ให้มีการบุกรุกพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้, การจัดทำแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้ และสรุปผลการดำเนินงานและถอดบทเรียน (AAR) เป็นต้น
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ในปี 2565 ได้มอบหมายให้กรมป่าไม้ได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ในการป้องกันและควบคุมไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจัดเตรียมกำลังพลประกอบด้วย นปพ. (พิทักษ์ป่า) 520 คน และเหยี่ยวไฟ 135 คน เพื่อประจำในจุดต่างๆ ตามแผนที่กำหนด สำหรับในส่วนโครงการชิงเก็บ ลดเผา ที่กรมป่าไม้ดำเนินการในปี 2565 นี้ มีเป้าหมายชิงเก็บ 1,500 ตัน และชิงเผา 155,000 ไร่ อีกทั้งยังมีการดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการตามโครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า กรมป่าไม้ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในพื้นที่รับผิดชอบของกรมป่าไม้ใน 10 จังหวัดภาคเหนือ รวมพื้นที่ 289,383 ไร่ เป้าหมายเพื่อป้องกันไฟป่าลุกลามเข้าโครงการฯ และเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบจิตอาสา “
ทั้งนี้ นายสุรชัย อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่าได้ให้การสนับสนุน “จิตอาสา” ภายใต้โครงการปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ป่าชายเลน และป้องกันไฟป่า ร่วมกันดำเนินกิจกรรมจิตอาสา“เราทำความดีด้วยหัวใจ ชิงเก็บ ลดเผา ป้องกันไฟป่า” โดยให้จิตอาสาที่ผ่านการฝึกอบรมฯ เป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้ และเป็นผู้นำในการทำกิจกรรม “เราทำความดีด้วยหัวใจชิงเก็บลดเผา ป้องกันไฟป่า” เพื่อทำกิจกรรมชิงเก็บร่วมกับประชาชนจิตอาสาที่เป็นสมาชิกเครือข่ายความร่วมมือในการควบคุมไฟป่า ปี พ.ศ. 2565 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกรมป่าไม้ให้การสนับสนุนในการจัดกิจกรรม” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวปิดท้าย