กรมการค้าภายในถกสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ตกลงตรึงราคาไข่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาทต่อฟองจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน ย้ำหากประชาชนพบเห็นขายแพง โก่งราคา แจ้ง 1569 โทษสูงสุดคุก 7 ปี ปรับ 1.4 แสน
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สมาคมผู้ผลิตผู้ค้าและส่งออกไข่ไก่ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่แปดริ้ว สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี สหกรณ์ผู้ลี้ยงไก่ไข่ลุ่มน้ำน้อย ผู้ผลิตรายใหญ่ กรมปศุสัตว์ และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โดยผู้เลี้ยงไก่ไข่จะให้ความร่วมมือตรึงราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มที่ 2.90 บาทไปจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเพื่อช่วยลดค่าครองชีพประชาชน
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นว่ามีการกักตุนหรือฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าในราคาที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ และหากตรวจสอบพบการกระทำผิดจะมีโทษตามมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ผู้เลี้ยงไก่ไข่ได้แจ้งปรับราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มเป็นฟองละ 3.00 บาท เพิ่มขึ้นจากฟองละ 2.80 บาท หรือราคาปรับเพิ่มขึ้นแผงละ 6 บาท ทำให้แผงขายไข่ไก่ ร้านค้าจำหน่ายไข่ไก่ ได้ปรับราคาขึ้นทันที แต่ต่อมาวันที่ 10 ม.ค. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการให้ตรึงราคาไปก่อน และขอให้กรมการค้าภายในไปหารือกับผู้เลี้ยง และกรมการค้าภายในได้หารือผู้เลี้ยงเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2565 ได้ข้อสรุปในเบื้องต้นให้ผู้เลี้ยงไปจัดทำข้อมูลรายละเอียดต้นทุน และนำมาหารือกันอีกครั้งวันที่ 13 ม.ค. 2565