xs
xsm
sm
md
lg

น้ำมันขึ้น-หมูแพงดันเงินเฟ้อพุ่ง ธ.ค.เพิ่ม 2.17% ทั้งปีตามเป้า 1.23%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” เผยเงินเฟ้อ ธ.ค. 64 เพิ่ม 2.17% เหตุน้ำมันแพง เนื้อหมูราคาขึ้น ผัก ไข่ นม อาหารบริโภคในบ้าน นอกบ้าน น้ำมันปาล์ม สูงด้วย ระบุทั้งปีเพิ่ม 1.23% ใกล้เคียงที่ประเมินไว้ ส่วนปี 2565 คงเป้าเดิม 0.8-2.4% ค่ากลาง 1.5% แม้โอมิครอนระบาด

นายรณรงค์ พูนพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ธ.ค. 2564 เท่ากับ 101.86 เทียบกับเดือน พ.ย. 2564 ลดลง 0.38% เทียบกับ ธ.ค. 2563 เพิ่มขึ้น 2.17% ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2564 (ม.ค.-ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 1.23% ใกล้เคียงกับที่ประมาณการไว้ที่ 0.8-1.2% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่าดัชนีอยู่ที่ 100.73 เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย. 2564 และเพิ่มขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเดือน ธ.ค. 2563 และเฉลี่ยทั้งปี 2564 เพิ่มขึ้น 0.23%

สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อในเดือน ธ.ค. 2564 เพิ่มขึ้น มาจากการเพิ่มขึ้นของน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น 26.26% แม้รัฐบาลจะช่วยตรึงราคาน้ำมันดีเซล แต่ราคาขายปลีกในประเทศยังสูงกว่าเดือนเดียวกันของปีที่แล้วที่มีราคาค่อนข้างต่ำ เนื้อสุกรเพิ่มขึ้นตามต้นทุนการเลี้ยง ทั้งค่าอาหารสัตว์ ค่าดูแลและการป้องกันโรคระบาด ผู้เลี้ยงรายย่อยลดการเลี้ยง ทำให้หมูเข้าสู่ตลาดลดลง ขณะที่ผักสด เช่น มะเขือ กะหล่ำปลี ผักกาดขาว ผักบุ้ง ถั่วฝักยาว เพิ่มสูงขึ้นตามความต้องการที่สูงขึ้น ไข่และผลิตภัณฑ์นม เพิ่มขึ้นตามต้นทุนการเลี้ยง อาหารบริโภคในบ้านและนอกบ้าน เพิ่มขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบ น้ำมันปาล์ม ราคาขึ้นตามวัตถุดิบ สบู่ แชมพู ครีมนวดผม สูงขึ้นหลังสิ้นสุดโปรโมชัน บุหรี่ สูงขึ้นจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต

ส่วนสินค้าที่ราคาลดลง เช่น ข้าวสารเจ้าและข้าวสารเหนียว จากผลผลิตที่มีมากขึ้น ผลไม้ เช่น เงาะ ส้มเขียวหวาน น้ำดื่ม กาแฟผงสำเร็จรูป ที่ลดลงจากการกระตุ้นการขาย เสื้อผ้า ค่ากระแสไฟฟ้า จากมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ ค่าเช่าบ้าน และค่าลงทะเบียน ค่าธรรมเนียมการศึกษา ขณะที่สินค้าอื่นๆ เช่น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สิ่งที่เกี่ยวกับทำความสะอาด และของใช้ส่วนบุคคล ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติ สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจและปริมาณผลผลิต

สำหรับเงินเฟ้อปี 2565 เดิมคาดไว้ว่าจะอยู่ในช่วง 0.7-2.4% ค่ากลาง 1.5% แต่ผ่านมาแล้ว 1 เดือน และมีการระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น จึงยังยืนยันเงินเฟ้อทั้งปี 2565 ไว้ตาม โดยมีปัจจัยที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ มาจากแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยว การส่งออก การผลิต และความต้องการด้านพลังงาน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในรูปแบบต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน ส่วนปัจจัยที่จะมีผลกระทบ มาจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิต การขนส่ง เงินบาท และการขาดแคลนแรงงาน และยังต้องจับตาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน


กำลังโหลดความคิดเห็น