xs
xsm
sm
md
lg

ทอท.ฮุบสนามบิน "กระบี่, อุดรธานี" ผูกขาดธุรกิจ-คนไทยจ่ายค่าบริการเพิ่ม “คมนาคม” ขีดเส้น ม.ค. 65 เสนอ ครม.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อ 4 ส.ค. 2561 สมัยรัฐบาลคสช. ให้โอนสนามบินของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) 4 แห่ง ได้แก่ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร ไปให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กระทรวงคมนาคมในขณะนั้นรับโจทย์มาดำเนินการ โดยมีเงื่อนไขต้องถูกกฎหมาย ระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ...ผ่านมากว่า 3 ปี รัฐบาล คสช.เปลี่ยนเป็นรัฐบาลเลือกตั้ง มีนายกฯ คนเดิม  ภารกิจยังไม่ลุล่วง เพราะติดประเด็นข้อกฎหมายการโอนสนามบินของ ทย.ที่เป็นทรัพย์สินเป็นของรัฐ ให้ ทอท.ที่มีสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจที่จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ไม่สามารถทำได้ ล่าสุดพลิกตำรา เปลี่ยน...โอน เป็นให้สิทธิ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการ โดย "ศักดิ์สยาม ชิดชอบ" รมว.คมนาคม ขีดเส้น..ให้เสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในเดือน  ม.ค. 2565   

ส่วนสนามบินเดิม 4 แห่ง  คือ อุดรธานี สกลนคร ตาก และชุมพร ก่อนหน้านี้บอร์ด ทอท.มีมติปรับแผนขอรับโอนใหม่ โดยขอกระบี่ บุรีรัมย์ ตาก และอุดรธานี และสุดท้ายสนามบินตากก็ถูกตัดออกไปแบบเงียบๆ ขอรับเฉพาะสนามบินหัวกะทิ เกรดเอ 

@เปิดแผนเร่ง ทย.เคลียร์ข้อติดขัด ปูพรมแดงต้อนรับ ทอท.     

คมนาคม ทย. และ ทอท.มีการประชุมร่วมกันหลายครั้งจนได้ข้อสรุปและเหตุผลว่าสนามบินกระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์ มีความเหมาะสมที่จะให้ ทอท.เข้าบริหารจัดการ โดยอ้าง 3 ประเด็น  คือ  1. เรื่องการใช้ห้วงอากาศ (Air Space) และโครงข่ายสนามบินของประเทศในภาพรวมจะเกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะเห็นว่าเที่ยวบินระหว่างประเทศของ ทอท.จะส่งเสริมการใช้ประโยชน์ห้วงอากาศและทำให้สนามบินรับผู้โดยสารและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นในอนาคต 2. รัฐลดภาระในการจัดสรรงบประมาณให้ ทย.ในการลงทุนพัฒนาปรับปรุงสนามบิน 3. ทย.สามารถนำเงินบริจาคที่ได้จาก ทอท. เข้ากองทุนหมุนเวียน ทย.และนำไปใช้บริหารจัดการสนามบินที่เหลืออีก 25 แห่งได้  

ส่วนเรื่องทรัพย์สินของรัฐ ที่ดินราชพัสดุนั้น พบว่าสนามบินกระบี่มีพื้นที่ 2,620 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและที่ราชพัสดุ  สนามบินอุดรธานีมีพื้นที่ 2,000 ไร่ เป็นที่ราชพัสดุทั้งหมด สนามบินบุรีรัมย์ พื้นที่ประมาณ 3,750 ไร่ เป็นพื้นที่ป่าสงวน พื้นที่ ส.ป.ก. ที่ราชพัสดุ   

การให้ ทอท.เข้าบริหารสนามบินของ ทย. ในส่วนของที่ดินกรมป่าไม้ ให้ ทย.ขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนกับกรมป่าไม้ใหม่ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 จากเดิมมาตรา 13/1 เป็นมาตรา 16(1) เพื่อขยายวัตถุประสงค์การใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างและบริหารจัดการสนามบินและกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง  

ส่วนที่ราชพัสดุ ทั้งที่ดินและอาคาร ให้ ทย.ทำแผนการใช้ประโยชน์ ระยะ 30 ปี เสนอกรมธนารักษ์ เพื่อให้กรมธนารักษ์จัดผลประโยชน์ตรงกับ ทอท. ระยะ 30 ปี และเร่งรัดให้ทย.หารือกรมบัญชีกลางถึงความเป็นไปได้ในการนำเงินบริจาคเข้ากองทุนหมุนเวียนของ ทย. 

นอกจากนี้ ให้ ทย.เร่งขอใบรับรองการดำเนินงานสนามบินสาธารณะสำหรับสนามบินกระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์ กับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้เรียบร้อยโดยเร็ว หลังจากนั้นก็ให้ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการแทนได้ทันที

“ผู้ขอใบรับรองสนามบิน แต่กลับไม่ได้บริหาร...ส่วนผู้ที่จะเข้ามาบริหารไม่ได้เหนื่อยขอใบรับรองเอง ...สะดวกสบายแบบนี้มีที่ไหน!!!”

@”ศักดิ์สยาม” เชื่อฝีมือ ทอท.ทำกำไรเพิ่ม - ลั่นสนามบินเป็นของประเทศและทุกคน  

ด้าน “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เรื่องให้ ทอท.บริหาร 3 สนามบินของ ทย. ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนประสานกรมธนารักษ์เรื่องค่าเช่าที่ราชพัสดุจบแล้ว เหลือหลักเกณฑ์ของกรมบัญชีกลาง เรื่องวิธีปฏิบัติ ซึ่งเดิมกรมธนารักษ์มอบให้ ทย.เป็นผู้ดำเนินการสนามบินในที่ดิน แต่เมื่อจะมอบให้ ทอท.บริหารสนามบินนั้นแทน ทย.จะต้องมอบพื้นที่คืนกรมธนารักษ์และ ทอท.ไปเช่าจากกรมธนารักษ์ ซึ่งคาดว่าจะสรุปเสนอ ครม.ได้ในเดือน ม.ค. 2565 เพื่อให้ทอท.เข้าบริหารโดยเร็ว   

“สำหรับข้อกังวลถึงสถานภาพของกองทุนหมุนเวียน ทย.ไม่มีปัญหา ทาง ทอท.มีวิธีการที่ไม่ทำให้มีผลกระทบ มีแต่จะทำให้กองทุนได้เงินมากขึ้น แข็งแรงขึ้น เชื่อมั่น ทอท.เพราะผลประกอบการของ ทอท.มีกำไร”

อีกทั้งเรื่องนี้เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ที่มองว่าอยากให้นักเดินทางต่างประเทศสามารถเข้าถึงสนามบินภูมิภาคได้และช่วยลดความคับคั่งของสนามบินหลัก 6 แห่ง โดยเห็นว่าขณะนี้ภาคอีสานยังไม่มีฮับ จึงมองสนามบินอุดรธานีว่าเหมาะสม ส่วนภาคใต้ ให้ ทอท.บริหารสนามบินกระบี่ เพราะสนามบินภูเก็ตมีปัญหาแออัด  

"เป็นการให้สิทธิ ทอท.ในการบริหารสนามบิน ทย. สำหรับผมอยากให้เป็นความร่วมมือกัน เพราะประโยชน์สูงสุดจะอยู่ที่ประเทศไทย ไม่อยากให้บอกว่าสนามบินเป็นของใคร เพราะสนามบินเป็นของคนทั้งประเทศ ใครมีความพร้อมก็บริหาร ไม่ใช่ ทย.ไม่เก่ง  แต่เนื่องจากเป็นราชการ ซึ่งจะมีเรื่องงบประมาณและวิธีการลงทุนแบบมีภารกิจในการบริหารการบริการสาธารณะ ส่วน ทอท.เป็นรัฐวิสาหกิจ ได้สิทธิ์ตามอำนาจกฎหมาย ทำได้อีกแบบ และการบริการต้องมีผลกำไรด้วย อยากให้มองว่าจะสามารถทำอะไรได้มากกว่า"    

@ ทอท.ชี้น่านฟ้าอีสานโล่ง วางแผนจัด slot บินตรง

“นิตินัย ศิริสมรรถการ” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ทอท.ระบุว่า การที่ ทอท.จะเข้าบริหารสนามบิน ทย.นั้นมี 3  รูปแบบ คือ 1. โอน ทำไม่ได้ เพราะ ทอท.เป็นบริษัทมหาชน 2. มอบสิทธิ์ในการบริหารจัดการ จะมีรายละเอียดหัวข้อที่ ทอท.สามารถเข้าไปรับสิทธิ์บริหาร ภายใต้เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ เช่น ต้องลงทุนด้วยหรือไม่ และอะไรที่ให้สิทธิ์กับ ทอท.ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ อะไรที่ให้ไม่ได้ ในขณะเดียวกัน จะต้องมีเงื่อนไข กฎเกณฑ์ในการที่ ทอท.จะชำระค่าสิทธิ์กลับมาให้ ทย.หรือกองทุน กองทุนหมุนเวียนกรมท่าอากาศยาน 3. รับจ้างบริหาร ทอท.มีหน้าที่บริหารและรับค่าจ้าง ไม่ต้องลงทุนใดๆ  ทอท.จะทำแผนการบินเพื่อให้ผู้โดยสารจากต่างประเทศสามารถบินตรงไปที่สนามบินอุดรธานีหรือบุรีรัมย์โดยไม่ต้องแวะผ่านกรุงเทพฯ นอกจากลดความแออัดของน่านฟ้าแล้ว ยังรับรายได้ค่าธรรมเนียม PSC เป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ 700 บาท จากเดิมที่ต้องแวะกรุงเทพฯ ก่อนไปอุดรธานี และนับเป็นผู้โดยสารภายในประเทศค่า PSC 100 บาท  

กำไรที่เกิดขึ้นจะนำไปเจรจาเรื่องการจ่ายผลตอบแทนในการรับสิทธิ์บริหาร ซึ่งจะต้องหักในเรื่องค่าลงทุนและรูปแบบในการจ่ายข้ากองทุน   จะต้องสรุปเสนอ ครม.ขออนุมัติ คาดว่าจะเสนอได้ ม.ค. 2565 หลัง ครม.เห็นชอบจะเข้าสู่ขั้นตอนเริ่มนับหนึ่งการมอบสิทธิ์บริหาร เริ่มเข้าทำ Due Diligence คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในขณะที่ ทย.จะต้องมีเวลาในการจัดการทั้งด้านบุคลากร และเครื่องมือ จะมีการถ่ายโอน หรือเออร์รีอย่างไร มีเรื่องการออกใบรับรองสนามบิน ซึ่งหลังจากโดนธงแดง ICAO ให้ทุกสนามบินต้องมีใบรับรอง ซึ่งทาง กพท.อยู่ระหว่างดำเนินการ ทย.ก็ดำเนินการให้เรียบร้อยก่อน  
 
“เรื่องรายได้ที่จะเกิดขึ้น ทอท.จะต้องมีแผนเรื่อง SLOT เพื่อจัดเที่ยวบินมายังอุดรฯ บุรีรัมย์เพื่อสร้างรายได้ จากผู้โดยสารระหว่างประเทศ จากยุโรป ไปอุดรฯ ต้องสร้างดีมานด์ ส่วนการลงทุนอาจจะมีบางส่วน เช่น เครื่องเอกซเรย์แบบ CT scannerไม่ใช่ AT scanner โดยทอท.สามารถนำจากสนามบินอื่นไปใช้ได้”   

@ไม่การันตีรายได้กองทุนฯ ชี้โควิดกระทบ "กระบี่" จะไม่บูมเท่าเดิม   

ส่วนกรณีรายได้กองทุน ทย.หลังจากให้ ทอท.เข้าไปบริหารจัดการ 3 สนามบินแทนจะเป็นอย่างไร เพราะต้องไม่ลืมสนามบินกระบี่เป็นแหล่งรายได้ของ ทย.ที่มาหล่อเลี้ยงสนามบินภูมิภาคอื่นๆ ช่วยลดภาระงบประมาณ

นิตินัยกล่าวว่า ส่วนตัวไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้ เพราะกว่าจะโอนเสร็จก็จะหมดวาระแล้ว แต่ทำโดยมองในภาพของประเทศโดยรวมที่จะเป็นฮับ โดยอุดรธานีเป็นฮับอีสานเหนือ ส่วนบุรีรัมย์เป็นฮับอีสานใต้ ที่มีพื้นที่ห้วงอากาศว่างอยู่ ดังนั้นการโอน 2 สนามบินอีสานดังกล่าวเพื่อทำฮับ 

ส่วนกระบี่ มีปัจจัยจากที่สนามบินภูเก็ตเต็ม ขณะที่สนามบินพังงา (ภูเก็ตแห่งที่ 2) ยังไม่เกิด และเมื่อเกิดโควิด-19 กรณีการลงทุนสนามบินพังงาจะต้องพิจารณาว่าจำนวนผู้โดยสารกลับเป็นอย่างที่คาดหมายไว้เดิมหรือไม่ คุ้มค่าที่จะลงทุนหรือไม่  

ทอท.จึงมอง กระบี่ คนละตรรกะกับอุดรธานี และบุรีรัมย์ และมองคนละมุมกับ ทย. เพราะหลังจากนี้นอกจากจะเป็น new normal แล้วสภาพการบินจะกลับไปเท่าเดิมก่อนเกิดโควิดอีกเมื่อใด และยังมีบริบทใหม่ คือมีรถไฟความเร็วสูงเกิดขึ้น การพัฒนาสนามบินเพื่อให้เป็นฮับจึงมีความสำคัญ และต้องเชื่อมกับระบบขนส่งอื่น   

สำหรับกระบี่ ทย.อาจจะยังมองว่ารายได้จะมีเหมือนก่อนเกิดโควิด ผู้โดยสารจะเดินทางกันมากด้วยเครื่องบิน และไม่มีรถไฟความเร็วสูง ส่วน ทอท.มองตรงข้ามเลย ดังนั้น เรื่องค่าตอบแทนต้องหันมาดูจุดที่ 2 หน่วยมองไม่เหมือนกันและให้นโยบายมาตัดสิน หรือรองรับ โดยมี สคร. กรมบัญชีกลาง กรมธนารักษ์ ที่จะพิจารณาว่าสามารถทำได้หรือไม่ หากต้องการให้สถานการณ์เงินของกองทุนเหมือนเดิมหรือไม่เหมือนเก่า แต่ต้องมีจุดที่ทั้สองฝ่ายยอมรับร่วมกันได้ และทุกเรื่องตนเห็นว่าต้องมีทางออก 

 @เมินเสียงค้านประชาชน ภาคเอกชนในพื้นที่  
 
ทั้งนี้ มีข้อท้วงติงอย่างกว้างขวาง ทั้งประชาชนและภาคเอกชนในจังหวัด ถึงความไม่เหมาะสมและไม่เป็นธรรมต่อประชาชนและ ทย.ในฐานะเป็นหน่วยงานรัฐที่ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานแก่ประชาชน เนื่องจากกระบี่ และอุดรธานีถือเป็นสนามบินอันดับ 1 และ 2 ของ ทย. ที่สร้างรายได้และมีกำไรให้ ทย.นำไปหล่อเลี้ยงดูแลสนามบินที่ขาดทุน ช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐได้ในช่วงที่ผ่านมา   
 
โดยก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ผลดำเนินงานปี 2562 พบว่าสนามบินของ ทย. 28 แห่ง มีกำไร 6 แห่ง 1.  กระบี่มีกำไร 374.66 ล้านบาท 2. อุดรธานี มีกำไร 47.64 ล้านบาท 3. ขอนแก่น กำไร 37.04 ล้านบาท 4. สุราษฎร์ธานี กำไร 29.14 ล้านบาท 5. อุบลราชธานี กำไร 28.51 ล้านบาท 6. นครศรีธรรมราช กำไร 23.57 ล้านบาท  

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานของ ทย.ปี 2562 มีรายได้รวม 5,476 ล้านบาท รายจ่าย 3,227 ล้านบาท มีกำไร 2,248 ล้านบาท ส่วนปี 2561 มีรายได้รวม 5,185 ล้านบาท รายจ่าย 2,962 ล้านบาท มีกำไร 2,223 ล้านบาท 

แนวโน้มในการดำเนินงานอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น พลิกโฉมจากเดิมที่ขาดทุน สนามบินหลายแห่งร้าง ไม่มีเที่ยวพาณิชย์ แต่หาก ทย.ไม่มีกระบี่และอุดรธานี สนามบินที่มีศักยภาพสูง ก็คงกลับไปสู่ภาวะผลดำเนินงานขาดทุนเหมือนเดิม  
   
@คุ้ม/ไม่คุ้ม คนไทยจ่าย PSC เพิ่มเป็น 100 บาท ส่วน ทอท.บริจาคคืนกองทุน ทย.หัวละ 4 บาท     

เมื่อเปลี่ยนเป็นมอบความรับผิดชอบในการบริหาร และ ทอท.จะใช้วิธีบริจาคเงินเข้ากองทุนหมุนเวียน ทย. โดยคำนวณจากค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (PSC)  ที่เรียกเก็บจากผู้โดยสาร อัตรา 4 บาทต่อหัว ซึ่งหากรายได้กองทุนฯ ทย.ลดลงจนไม่พอกับรายได้ เกิดการขาดทุน คำถามคือ ทย.ต้องกลับไปของบประมาณมาอุดหนุน เป็นภาระงบประมาณประเทศมากกว่าเดิม...ใช่หรือไม่  

ปัจจุบัน ทย.เป็นหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่ให้บริการ อำนวยความสะดวกโครงสร้างพื้นฐานแก่ประชาชน จึงเก็บค่า PSC ผู้โดยสารภายในประเทศ 50 บาท หากให้ ทอท.เข้ามาบริหารจะเก็บเพิ่มเป็น 100 บาท เส้นทางระหว่างประเทศ ทย.เก็บ 400 บาท ทอท.เก็บ 700 บาท ยังไม่นับค่าบริการต่างๆ ที่สายการบินจะต้องจ่ายเพิ่มตามอัตราที่ ทอท.จัดเก็บ ทั้งค่าธรรมเนียมขึ้น-ลงอากาศยาน / จัดเก็บอากาศยาน (Landing/ Parking Fee) ซึ่ง ทอท.เก็บอัตราที่สูงกว่าสนามบินราชการประมาณ 2 เท่า 

ทอท.เป็นบริษัทมหาชน ดังนั้นจึงต้องแสวงหากำไรเพื่อผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นต่างชาติกว่า 25% รายได้ส่วนหนึ่ง จะเป็นของผู้ถือหุ้นต่างชาติ ต่างกับ ทย. ที่รายได้จะตกอยู่ในประเทศ ที่สำคัญประชาชนคนไทยได้ใช้บริการที่ไม่แพง  
 
@รัฐเทงบไม่ต่ำกว่า  6,800 ล้านบาท พัฒนา 3 สนามบิน

ทย.มีแผนลงทุนพัฒนาสนามบินเพื่อส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางด้านการคมนาคมของภูมิภาคอาเซียน ระยะ 5 ปี (ปี2561-ปี 2565) วงเงินถึง 27,248 ล้านบาท เป็นการปรับปรุงทั่วประเทศ 17 สนามบิน  ซึ่งมีกระบี่ อุดรธานี และบุรีรัมย์รวมอยู่ด้วย   

โดยสนามบินกระบี่มีแผนก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 3 ปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร หลังที่ 1, 2  รับผู้โดยสาร จาก 4 ล้านคน/ปี เป็น 8 ล้านคน/ปี วงเงินลงทุน 2,923 ล้านบาท ก่อสร้างลานจอดเครื่องบินพร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน 863 ล้านบาท ก่อสร้างทางขับขนาน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน 941.90 ล้านบาท 

สนามบินบุรีรัมย์ มีโครงการต่อเติมความยาวรันเวย์ เป็น 2,900 เมตร วงเงิน 950 ล้านบาท, ก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ รับ 2.6 ล้านคน/ปี วงเงิน 775 ล้านบาท และปี 65 จะขยายลานจอดอากาศยานกว่า 3.8 ล้านบาท มีค่าเวนคืนอีก 110 ล้านบาท 

ส่วนสนามบินอุดรธานี มีการปรับปรุงอาคารที่พักผู้โดยสาร วงเงิน 65 ล้านบาท ปรับปรุงรันเวย์และแท็กซี่เวย์ วงเงิน 170 ล้านบาท 

โอนสนามบินไม่ง่ายเหมือนครั้งโอน ดอนเมือง, ภูเก็ต, เชียงใหม่, หาดใหญ่,  เชียงราย ให้ทอท.แล้ว เพราะวันนี้สถานะของ ทอท.ไม่ได้เป็นหน่วยงานรัฐ แต่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ  ขายหุ้น 30% ซึ่งมีต่างชาติอยู่ด้วย จึงเกิดทฤษฎี "ให้ทอท.เข้าบริหาร"

"ถาวร เสนเนียม" อดีต รมช.คมนาคม ซึ่งเคยกำกับดูแล ทย.เคยระบุว่า “บริหารสนามบินต้องใช้มืออาชีพ ถามว่า ทย.ไม่เป็นมืออาชีพหรือ? ส่วน ทอท.หากอยากเข้ามาบริหารสนามบินของรัฐ ต้องดูว่ากฎหมายเปิดให้โอนได้หรือไม่  ซึ่งหากต้องการมืออาชีพ เหตุใดไม่เปิดประมูล เพราะจะได้ทั้งมืออาชีพ และรัฐได้ประโยชน์มากขึ้น และต้องฟังเสียงประชาชนภาคเอกชนในพื้นที่ด้วย

@แนะ ทอท.ประมูลบริหารสนามบินต่างประเทศโชว์ฝีมือ

รายงานข่าวจากผู้ประกอบการเผยว่า ข้ออ้างเรื่องห้วงอากาศอีสานว่างแล้ว ทอท.จัด Slot ดึงสายการบินต่างชาติบินตรงไม่แวะสุวรรณภูมิ ฟังดูดี แต่หากผู้โดยสารไม่มากพอ สายการบินที่ไหนจะบิน

ส่วนค่า PSC  ที่เก็บกับผู้โดยสารขาออก ปัจจุบันหากจะออกจากอุดรธานีไปต่างประเทศต้องเดินทางภายในประเทศ จากสนามบินอุดรธานี-สุรรณภูมิ ทย.เก็บ 50 บาท นำเข้ากองทุนหมุนเวียนทั้งหมด เงินนี้อยู่ในประเทศทั้งหมด ส่วนขาออกจากสุวรรณภูมิ ทอท.
เก็บ 700 บาท ซึ่งรายได้กำไร ทอท.ต้องแบ่งผู้ถือหุ้นต่างชาติด้วย 

กรณี ทอท.บริหารสนามบินอุดรธานี บินตรงไปต่างประเทศ ค่า PSC ในประเทศหายไปทันที เหลือแค่ 700 บาท ทอท.ได้ ผู้ถือหุ้น ทอท.ได้ แต่รายได้ที่ประเทศที่เคยได้จะหายไป เงินที่สามารถนำมาสร้างงาน สร้างรายได้แก่คนในประเทศหายไปในพริบตา

ทุกวันนี้ ทอท.บริหารสนามบินโดยผูกขาด ไม่มีการแข่งขัน หากมองว่า ทอท.เป็นมืออาชีพสิ่งที่ทอท.ควรทำคือออกไปบริหารสนามบินประเทศอื่นเพื่อหารายได้เข้าประเทศ เช่นเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา หรือพม่า ตอนนี้ให้ฝรั่งเศส สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่อยู่ไกลกว่าไทยเข้าบริหารสนามบิน ... ทอท.ควรโชว์ฝีมือในเวทีนานาชาติไม่ใช่ผูกขาดเป็นเสือนอนกิน

หลายประเด็นข้อสงสัยที่ยังไม่มีการชี้แจงหรืออธิบายอย่างชัดเจน แต่มีความพยายามรวบหัวรวบหาง ทย.ถูกมัดมือ ปิดปาก ...ส่วนเสียงของประชาชน ภาคเอกชนธุรกิจในจังหวัด ถูกเมิน!!!










กำลังโหลดความคิดเห็น