มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิด 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วงปี 65 เผยธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังคงครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 หลังคนให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ และการเติบโตของการค้าออนไลน์ รองลงมาเป็นธุรกิจแพลตฟอร์ม โลจิสติกส์ ดีลิเวอรี การชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ประกันภัย ส่วนธุรกิจผลิตเครื่องโทรศัพท์ โทรสาร ครองแชมป์ดาวร่วง
นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลการจัดอันดับ 10 ธุรกิจดาวรุ่ง-ดาวร่วง ปี 2565 ว่า ธุรกิจการแพทย์และความงาม และธุรกิจการซื้อขายผ่านอิเล็กทรอนิกส์ (อีคอมเมิร์ซ) เป็นธุรกิจที่มาแรงเป็นอันดับ 1 ร่วมกัน โดยทั้ง 2 ธุรกิจครองอันดับ 1 ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยธุรกิจการแพทย์และความงามมีปัจจัยสนับสนุนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีการวิจัยและพัฒนายา การรักษา และวัคซีน เพิ่มขึ้น คนให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขภาพ กินอาหารสุขภาพ การออกกำลังกาย การดูแลความงาม การเติบโตของสังคมผู้สูงอายุ และการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบของธุรกิจบริการสุขภาพ ส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เติบโตจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น ลดการใช้ชีวิตนอกบ้านจากสถานการณ์โควิด-19 มีผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซมากขึ้น ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีระบบการชำระเงินที่หลากหลาย สะดวกรวดเร็ว มาตรการของรัฐมีส่วนช่วยกระตุ้น การรีวิวสินค้าของบุคคลที่มีชื่อเสียง เทคโนโลยีมีราคาถูกลง
ส่วนธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 2 คือ ธุรกิจแพลตฟอร์ม (ธุรกิจตัวกลางหรือตลาดกลางด้านอิเล็กทรอนิกส์) ที่เติบโตตามการค้าออนไลน์ อันดับ 3 ธุรกิจโลจิสติกส์ ดีลิเวอรี และคลังสินค้า ที่โตตามการค้าออนไลน์ การขนส่งสินค้า ธุรกิจด้านฟินเทค และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ตามพฤติกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิต เพราะคนระวังเรื่องโควิด-19 ให้ความสำคัญต่อการออม และผลิตภัณฑ์มีหลากหลาย เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น
อันดับ 4 ธุรกิจเวชภัณฑ์ยา ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ และธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ ที่เติบโตจากความกังวลในการป้องกันโควิด-19 และการดึงดูดการลงทุนของรัฐ อันดับ 5 ธุรกิจอาหารเสริมและสุขภาพ และธุรกิจขายตรง เติบโตตามการให้ความสำคัญต่อสุขภาพของผู้บริโภค การบริโภคอาหารเสริม อาหารสุขภาพ อันดับ 6 ธุรกิจแปรรูปยาง เช่น ถุงมือยาง ถุงยาง เติบโตตามความต้องการใช้ป้องกันโควิด-19 และธุรกิจอาหารสำเร็จรูป เติบโตตามความต้องการบริโภคอาหารที่หลากหลาย และการลดออกไปบริโภคอาหารนอกบ้าน
อันดับ 7 ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ youtuber และการรีวิวสินค้า เติบโตสอดคล้องกับช่องทางการสื่อสารออนไลน์ที่มีมากขึ้น รับชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง และธุรกิจหันมาใช้ช่องทางนี้ขายสินค้ามากขึ้น ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ เช่น อาหารสัตว์สำเร็จรูป การดูแลสุขภาพสัตว์ เพราะคนเป็นโสดมากขึ้น จึงให้ความสำคัญต่อสัตว์เลี้ยง อันดับ 8 ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ ที่เติบโตตามการค้าออนไลน์ และผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อสุขอนามัย ธุรกิจ Modern Trade ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ที่จะยังคงเติบโต ทั้งการไปซื้อสินค้าในห้างของผู้บริโภค และการซื้อออนไลน์
อันดับ 9 ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และเทคโนโลยี 5G การพัฒนาเทคโนโลยี อันดับ 10 ธุรกิจบันเทิง ฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการ การเปิดประเทศ และผู้บริโภคมีทางเลือกในการดูหนัง ละคร ซีรีส์ ธุรกิจยานยนต์ เติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการรถยนต์ประหยัดพลังงาน ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ เติบโตตามการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ การสร้างที่อยู่อาศัย ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการต่อเนื่อง เติบโตตามการเปิดประเทศ และรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ
นายวชิรกล่าวว่า สำหรับธุรกิจดาวร่วง 10 อันดับ ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตโทรศัพท์พื้นฐานและเครื่องโทรสาร เพราะปัจจุบันไม่มีคนใช้แล้ว 2. ธุรกิจฟอกย้อม ธุรกิจหัตถกรรมที่ไม่มีการออกแบบและราคาถูก 3. ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์และวารสาร ธุรกิจรับส่งสื่อสิ่งพิมพ์ตามบ้านและสถานที่ทำงาน 4. ธุรกิจโรงพิมพ์ การพิมพ์ เช่น หนังสือ แผ่นพับ ธุรกิจคนกลาง 5. ธุรกิจผลิตและขายต้นไม้ ดอกไม้ประดิษฐ์ ธุรกิจผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปที่ไร้ฝีมือหรือเสื้อผ้าโหล 6. ธุรกิจเครื่องปั้นดินเผาและเซรามิก 7. ธุรกิจร้านถ่ายรูป 8. ธุรกิจนำเที่ยวในประเทศ 9. ธุรกิจของเล่นเด็ก และ 10. ธุรกิจ Call Center
ทั้งนี้ ธุรกิจที่เคยเป็นธุรกิจดาวเด่นในปี 2564 แต่ไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวเด่นปี 2565 ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีวิเคราะห์และจัดการข้อมูล (Big Data, Data Analysis) ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจ Street Food และ Food Truck ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจตู้หยอดเหรียญ เช่น ร้านสะดวกซัก เครื่องเติมเงิน เครื่องเติมน้ำ และธุรกิจที่ปรึกษาด้านกฎหมาย บัญชี ส่วนธุรกิจดาวรุ่งปี 2565 ที่ไม่ติด 1 ใน 10 ของธุรกิจดาวรุ่งปี 2564 ได้แก่ ธุรกิจขายตรง ธุรกิจแปรรูปยาง ธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์ ธุรกิจ Modern Trade ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน ธุรกิจบันเทิง ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ธุรกิจท่องเที่ยวและบริการต่อเนื่อง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ปีนี้ธุรกิจดาวเด่นซ้อนกันไปมาเกือบ 20 ธุรกิจ หลายธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2565 อย่างธุรกิจความงาม ที่ยังคงเป็นธุรกิจดาวรุ่งอันดับ 1 เพราะหลังพ้นโควิด-19 คนจะให้ความสำคัญต่อความงามมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความงามก็จะเติบโตตามไปด้วย อย่างยา อาหารเสริม ส่วนธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็ชัดเจน เพราะเป็นเทรนด์ คนหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อขายสินค้า ทำให้ธุรกิจแพลตฟอร์มเติบโตตาม รวมถึงธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ และการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนเศรษฐกิจไทยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตในกรอบบน 1.3-1.5% เพราะไตรมาสที่ 4 ของปีนี้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการ การเปิดประเทศ การคลายความกังวลจากโควิด-19 และมาตรการกระตุ้นของรัฐ ส่วนปีหน้าคาดว่าจะเติบโต 4.2% เพราะโควิด-19 คลี่คลาย แม้จะมีโอไมครอน แต่ผ่านมา 3 สัปดาห์ไม่มีผลต่อเศรษฐกิจโลกย่อตัวลง จึงไม่ได้ทำลายบรรยากาศการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ