ผู้จัดการรายวัน360 – “ซิซซ์เล่อร์” สตาร์ทแรงปีหน้ารุกหนัก วางงบลงทุนรวม 600 ล้านบาท ช่วง 3 ปีจากนี้ ขยายเพิ่มเฉลี่ย 3 – 5 สาขาต่อปี ปรับกลยุทธ์ผุดไซส์เล็กลงไม่ใหญ่ เน้นเปิดชั้นล่าง ลดสต็อกวัตถุดิบ คาดปีหน้ากลับมาโตเท่าก่อนโควิด
นายกรีฑากร ศิริอัฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด ผู้บริหารร้านซิซซ์เล่อร์ ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้า(พ.ศ.2565) บริษัทฯจะเดินหน้าขยายธุรกิจซิซซ์เล่อร์เชิงรุกอีกครั้ง ตามแผนธุรกิจเดิม 5 ปี (พ.ศ. 2563-2567) หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในช่วง 2 ปีนี้เช่นเดียวกับธุรกิจอื่นทั่วไปในภาพรวมทำให้ไม่สามารถดำเนินการตามแผนเดิมได้
นางสาวนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด กล่าวว่า ซิซซ์เล่อร์วางแผนช่วง 3 ปีจากนี้จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 500 – 600 ล้านบาท ขยายเฉลี่ย 3 – 5 สาขาต่อปี ซึ่งถือเป็นจำนวนที่มากกว่าช่วงปรกติที่ขยายเฉลี่ย 2-3 สาขาต่อปี รวมทั้งรีโนเวทสาขาเดิม และงบการตลาดอีกปีละเฉลี่ย 100 ล้านบาทในช่วง 3 ปีนี้
“แนวทางการขยายสาขาของเรามีการปรับกลยุทธ์ด้วย จะไม่เน้นสโตร์ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เหมือนในอดีตแล้วที่เคยมากถึง 500 – 600 ตารางเมตรต่อสาขา แต่เรามีการรีดีไซน์และปรับฟังค์ชั่นการตกแต่งและใช้งานในร้านให้มีขนาดพื้นที่ที่เล็กลงแต่ยังตอบโจทย์การใช้งานด้วยพื้นที่เฉลี่ย 300 ตารางเมตร แต่ยังคงสามารถสร้างประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกับเดิม เพราะรูปปแบบเก้าอี้ โซฟา ขนาดครัว ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ใหญ่เท่าเดิม” นายกรีฑากร กล่าว
รวมทั้งการปรับตำแหน่งที่ตั้งในร้านใหม่ ที่ผ่านมาจะเปิดซิซซ์เล่อร์ชั้นบนของศูนย์การค้าเป็นหลัก แต่สถานการณ์โควิดทำให้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจึงต้องปรับตัวใหม่ จะมาเน้นการเปิดพื้นที่ชั้นล่างมากขึ้นเพื่อสะดวกเปิดบริการ หากมีการปิดศูนย์การค้าหรือล็อกดาวน์อีกครั้ง เพราะชั้นล่างจะสะดวกต่อการดีลิเวอรี่และเปิดบริการดึงคนง่ายกว่าและหากมีประตูแยกต่างหากที่หน้าศูนย์ด้วยก็ยิ่งดี เหมือนสแตนด์อโลน
ขณะที่วัตถุดิบนั้นซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าบริหารจัดการยากมาก เพราะเวลาในการเปิดปิดร้านน้อยลงและยังมีการล็อกดาวน์ด้วย ยิ่งจัดการลำบาก แม้ว่าจะมีการคลายล็อกดาวน์ลูกค้าก็ยังไม่ได้กลับมาเท่าเดิม 100% ทำให้ต้องจัดการวัตถุดิบให้ดี โดยไม่มีการเก็บสต็อกไว้มากเหมือนอดีต
ปัจุบันซิซซ์เล่อร์มี 53 สาขา ( ที่ยังไม่เปิดคือ สาขาเอ็มบีเคเซ็นเตอร์) และภายในสิ้นปีนี้จะมีรวม 57 สาขา โดยอีก 4 สาขาคือ เดอะมอลล์ท่าพระ รีโนเวตใหม่จากเดิมประมาณ 400 กว่าตารางเมตร ลดเหลือ 300 ตารางเมตร และโรบินสันอีก 3 สาขาคือ สระบุรี ฉะเชิงเทรา และศรีสมาน ขณะที่ปีนี้ไม่ได้เปิดสาขาใหม่มีแต่รีโนเวต เช่น เซ็นทรัลเวสต์เกต ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เดอะมอลล์ท่าพระ โรบินสันศรีสมาน เป็นต้น ส่วนปีหน้าจะรีโนเวตอีก 2 สาขาเป็นอย่างต่ำ
นายกรีฑากร กล่าวว่า ปี 2565ยังคงดำเนินงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง กลยุทธ์หลักคือการคิดค้นและพัฒนาเมนูใหม่เฉลี่ยทุก ๆ 1 – 2 เดือนทั้งปี พร้อมสร้างบรรยากาศของการนั่งรับประทานในร้านและให้ความสำคัญกับดีลิเวอรี่ ที่ช่วยสร้างรายได้ให้ซิซซ์เล่อร์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ตลอดจนการพัฒนาและขยายโมเดลสั่งกลับบ้าน อย่างซิซซ์เล่อร์ทูโก ทั้งการขยายพื้นที่บริการให้มากขึ้นครอบคลุมทั้งสถานีรถไฟฟ้า โรงพยาบาล ฯลฯ ตลอดจนบริการที่ต่อยอดเพิ่มเติมอย่างบริการจัดอาหารว่าง ที่นำอาหารและเครื่องดื่มมีอยู่ในซิซซ์เล่อร์ทูโกมาทำเป็นรูปแบบชุดของว่าง คาดว่าปีหน้า(2565) จะกลับไปเติบโตเทียบเท่าก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มีสัดส่วนรายได้จากการนั่งรับประทานในร้าน คิดเป็น 80%, ดีลิเวอรี่และสั่งกลับบ้าน คิดเป็น 20% ส่วนปีนี้คาดว่ารายได้รวมจะต่ำกว่าช่วงก่อนเกิดโควิดประมาณ 30%
นางนงชนก กล่าวว่า ล่าสุดเปิดตัว 2 เมนูขนมหวานใหม่ครั้งแรก ได้แก่ ไอศกรีมช็อคโกแลตมูส และ ไอศกรีมชีส ราคาถ้วยละ 49 บาท จากราคาปกติ 69 บาท รวมถึง ทาร์ตไข่สไตล์มาเก๊า จำนวน 2 ชิ้นราคา 39 บาท จากราคาปกติ 60 บาท
อีกทั้งเปิดตัวเมนูเทศกาลวันพ่อ “Happy Father’s Day” คือ ล็อบสเตอร์ซอสไข่เค็ม พร้อมสปาเก็ตตีโอริโอ้ ราคา 799 บาท, สเต๊กปลาเทราต์ ราคา 555 บาท และเปิดตัวอีก 3 เมนูเทศกาลเฉลิมฉลอง “Festive Season” ประกอบด้วยเมนู สเต๊กเนื้อพันเบคอน ราคา 699 บาท, สเต๊กปลาเทราต์ ลุยสวน ราคา 499 บาท และ สเต๊กไก่ซูวี พร้อมเบรดพุดดิ้ง และซอสไวน์แดง ราคา 399 บาท
