โกลบอลกรีนเคมิคอลคาดปี 65 รายได้ปรับลดลง เป็นผลจากราคาเมทิลเอสเทอร์และแฟตตี้แอลกอฮอล์ตกลง เร่งเจาะตลาดหาลูกค้าเพิ่ม ส่วนโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 1 เปิดเชิงพาณิชย์กลางธันวาคมนี้ จ่อเซ็นสัญญา NatureWorks ลุยโครงการ Utility Provider และ Infrastructure ในเฟส 2
นายไพโรจน์ สมุทรธนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ปี 2565 จะปรับลดลงจากปีนี้ที่มีรายได้เติบโตตามเป้าเป็นผลจากราคาเมทิลเอสเทอร์หรือไบโอดีเซล (บี 100) แฟตตี้แอลกอฮอล์และกลีเซอรีนบริสุทธิ์ที่ปรับตัวขึ้นสูง โดยปีหน้าบริษัทจะทำตลาดเข้าหาลูกค้าเพิ่มเพื่อผลักดันยอดขายให้สูงขึ้น ขณะเดียวกันก็จะมีแผนรับมือหากราคาเมทิลเอสเทอร์และแฟตตี้แอลกอฮอล์ปรับราคาตกลง
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 บริษัทมั่นใจว่าจะมีผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นผลมาจากการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง (Inventory Stock) ทำให้บริษัทมีกำไรจากสต๊อกสินค้า (Stock Gain) ส่งผลให้ทั้งปี 2564 บริษัทมีผลประกอบการดีขึ้นทั้งรายได้และกำไรสุทธิเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
นายไพโรจน์กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีมติให้ปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลทั่วประเทศเหลือเกรดเดียวคือ ดีเซล บี 7 ตั้งแต่ 1 ธ.ค. 64-31 มี.ค. 65 ว่าจะทำให้ดีมานด์การใช้บี 100 ที่ใช้ผสมน้ำมันดีเซลบี 10 และบี 20 หายไป แต่บริษัทคาดว่านโยบายการเปิดประเทศและช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยวจะผลักดันให้ยอดการใช้น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นช่วยชดเชยได้ ซึ่งเห็นผลจากเดือนพฤศจิกายนที่รัฐเปิดประเทศพบว่ายอดการใช้บี 100 เพิ่มสูงขึ้น
ส่วนความคืบหน้าโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ (NBC) เฟส 1 มูลค่าการลงทุน 7,500 ล้านบาทคาดว่าจะเปิดเชิงพาณิชย์ได้กลางเดือนธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มฤดูเปิดหีบอ้อยด้วย
ส่วนโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ เฟส 2 นั้น บริษัทคาดว่าจะลงนามสัญญากับทางบริษัท NatureWorks Asia Pacific จำกัด (“NatureWorks”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NatureWorks LLC ราว 7-8 สัญญาในเดือนธันวาคมนี้เพื่อลงทุนโครงการ Utility Provider และ Infrastructure สำหรับโครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ระยะที่ 2 (“NBC Phase 2”) ผ่านบริษัท จีจีซี ไบโอเคมิคอล จำกัด (GGC Bio) มูลค่าโครงการ 1,430 ล้านบาท
โดยเป็นการลงทุนระบบสาธารณูปโภค ทั้งไฟฟ้าและไอน้ำที่ใช้ในโรงงานและระบบบำบัดน้ำเสีย เพื่อใช้ในโรงงานผลิตพลาสติกชีวภาพชนิด Polylactic Acid (PLA) ของบริษัท NatureWorks Asia Pacific จำกัด คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2567
สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2564 บริษัทมีกำไร 244.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 146% จากงวดเดียวกันปี 63 ที่มีกำไร 99.77 ล้านบาท โดยไตรมาสนี้บริษัทมีรายได้จากการขายรวมทั้งหมด 4,986 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/2563 ราว 30% และมี Adjusted EBITDA จำนวน 327 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5% ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลกระทบจาก Stock Gain จำนวน 132 ล้านบาท
โดยไตรมาส 3/2564 มีรายได้จากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์เพิ่มขึ้น 16% โดยมีปัจจัยบวกจากราคาขายเมทิลเอสเทอร์ที่ปรับตัวสูงขึ้น 56% ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนรายได้จากการขายกลุ่มผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น 71% เนื่องจากปริมาณขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้น 8%
งวด 9 เดือนบริษัทมีกำไร 417.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,769% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่ขาดทุน 5.31 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีรายได้จากการขายจำนวน 14,762 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 13% มี EBITDA จำนวน 928 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 98% และมี Adjusted EBITDA จำนวน 753 ล้านบาท ลดลง 8%
