RATCH ทุ่ม 1.78 พันล้านบาทถือหุ้นในบริษัท FRD เพิ่มอีก 40% รวมเป็น 90% ส่งผลให้ถือหุ้นทางอ้อมในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 ในอินโดนีเซียเพิ่มเป็น 47% หนุนบริษัทรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นทันทีตามสัดส่วนการถือหุ้น
นางสาวชูศรี เกียรติขจรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH เปิดเผยว่า บริษัท อาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัด (RHIS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อมที่บริษัทถือหุ้นทั้งจำนวน ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญ Fareast Renewable Development Pte. Ltd. (FRD) เพิ่มอีก 40% โดยเป็นการเข้าซื้อหุ้นสามัญจำนวน 13,544,257 หุ้น คิดเป็นเงินประมาณ 54.31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่าประมาณ 1,789 ล้านบาท จาก Hydro Sumatra International Pte. Ltd. (HSI) ซึ่งเป็นบริษัทที่เข้ามาถือหุ้นแทน Fareast Green Energy Pte. Ltd. เนื่องจากการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มบริษัทของผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ร่วมดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Asahan-1 (อาซาฮาน 1) ในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย
ทั้งนี้ ภายหลังจากการโอนหุ้นดังกล่าวแล้วเสร็จ โครงสร้างผู้ถือหุ้น FRD จะประกอบด้วย RHIS สัดส่วน 90% จากเดิม 50% และ HSI สัดส่วน 10% ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นทางอ้อมของบริษัทในโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน 1 ผ่าน RHIS และ FRD เพิ่มขึ้นเป็น 47.89% จากเดิม 26.61% และคณะกรรมการของ FRD จะประกอบด้วยผู้แทนของ RHIS จำนวน 3 คน จากจำนวนกรรมการทั้งหมด 4 คน
นางสาวชูศรีกล่าวว่า การลงทุนใน FRD ครั้งนี้ไม่เพียงตอบสนองจุดมุ่งหมายของบริษัทฯ ด้านการพัฒนากำลังการผลิตพลังงานทดแทนของบริษัทฯ เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของ FRD สำเร็จด้วย ผลจากการลงทุนครั้งนี้บริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าอาซาฮาน 1 เพิ่มขึ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือนแรกปี 2564 บริษัทฯ รับรู้รายได้ส่วนแบ่งกำไรจาก FRD เป็นเงิน 185.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากงวดเดียวกันของปีที่แล้ว
“บริษัทฯ ได้จัดเตรียมเงินลงทุนสำหรับธุรกรรมนี้ จากสินเชื่อส่งเสริมความยั่งยืนที่ได้บรรลุข้อตกลงกับบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ (IFC) เมื่อต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ความสำเร็จครั้งนี้เป็นความพยายามของบริษัทฯ ที่จะพัฒนากำลังการผลิตด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นให้ถึง 2,500 เมกะวัตต์ในปี 2568 และ 4,000 เมกะวัตต์ในปี 2573 โดยโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นหนึ่งในเป้าหมายนอกเหนือจากพลังงานลม แสงอาทิตย์ และชีวมวล ซึ่งเป็นแนวทางที่บริษัทฯ มุ่งมั่นดำเนินการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรเทาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก นอกจากประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว โครงการอาซาฮาน 1 ยังช่วยเสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าในจังหวัดสุมาตราเหนือ ส่งผลให้อัตราการเข้าถึงไฟฟ้าของประชาชนในจังหวัดสุมาตราเหนือเพิ่มขึ้น เสริมส่งคุณภาพชีวิตของประชาชนและสังคมดีขึ้นด้วย”
โครงการอาซาฮาน 1 เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแบบน้ำไหลผ่านตลอดปี กำลังการผลิต 180 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่บนแม่น้ำอาซาฮาน ในจังหวัดสุมาตราเหนือ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์เมื่อเดือนมกราคม 2554 โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ประมาณปีละ 1,175 กิกะวัตต์ชั่วโมง จำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าอินโดนีเซีย ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (ปี 2554-2583) ภายหลังการลงทุน บริษัทฯ จะรับรู้กำลังการผลิตจากโรงไฟฟ้าแห่งนี้ 86.20 เมกะวัตต์ และกำลังการผลิตพลังงานทดแทนของบริษัทฯ รวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,345.51 เมกะวัตต์ คิดเป็นร้อยละ 16.3 ของกำลังการผลิตตามสัดส่วนการลงทุนรวม
เมื่อเร็วๆ นี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน 1 ได้รับรางวัล “Renewable Energy Deal of the Year” ประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำจาก The Asset Triple A Infrastructure Awards 2021 อันเป็นผลจากความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ที่มีบรรษัทการเงินระหว่างประเทศ หรือ IFC เป็นผู้จัดการเงินกู้และให้กู้ร่วม โรงไฟฟ้าแห่งนี้ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทดแทนที่ช่วยเสริมให้ระบบไฟฟ้าของจังหวัดสุมาตราเหนือมีความมั่นคงมากขึ้น และยังช่วยลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ