xs
xsm
sm
md
lg

“ท็อปส์” ผุดใหม่ปีนี้อีก 44 สาขา เปิดตัวหุ่นยนต์บริการรับนิวนอร์มัล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ผู้จัดการรายวัน 360 - ท็อปส์เดินหน้านำนวัตกรรมบริการ เปิดตัวหุ่นยนต์อัจฉริยะ “น้องเต็มใจ” รองรับนิวนอร์มัล ประเดิม 21 สาขา พร้อมขยายสาขาปีนี้ต่อเนื่อง รวมกว่า 44 สาขา

นางสาวสุจิตา เพ็งอุ่น ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ โมเดลขนาดใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยให้ความสำคัญต่อสุขภาพอนามัยมากขึ้น การมาเดินศูนย์การค้าหรือซูเปอร์มาร์เกตจะใช้เวลาน้อยลง และรีบซื้อสินค้าที่ต้องการ และลดการสัมผัสสินค้าน้อยลง ซึ่งทำให้บริษัทฯ ต้องยกระดับการบริการต่อเนื่องเพื่อตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามแบบฉบับนิวนอร์มัล


ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวหุ่นยนต์บริการอัจฉริยะ “น้องเต็มใจ” จากแนวคิดนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (Artificial Intelligence /AI) เพื่อเป็นผู้ช่วยพนักงาน และยกระดับการบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยงบลงทุน 7 ล้านบาท

สำหรับปี 2564 นี้ยังคงมีการขยายสาขาใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยท็อปส์มาร์เก็ตปีนี้เป้าหมายเปิดใหม่ 8 สาขา เปิดไปแล้ว 6 สาขา จะเปิดสิ้นปีนี้อีก 2 สาขา ส่วนโมเดล ท็อปส์เดลี่ เป้าหมายเปิดใหม่ปีนี้ 36 สาขา เปิดไปแล้ว 33 สาขา และคาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะมีทุกโมเดล ทั้งเซ็นทรัลฟู้ดฮอลล์ ท็อปส์มาร์เก็ต ท็อปส์เดลี่ ท็อปส์ซูเปอร์สโตร์ ประมาณ 276 สาขา

ส่วนปีหน้าก็จะยังคงมีแผนการเปิดสาขาใหม่ต่อเนื่อง เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่จะเริ่มกระเตื้องขึ้นจากสถานการณ์ที่เริ่มดีขึ้น


นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดเผยว่า “จากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมลูกค้าในช่วงเกือบ 2 ปีที่มีการแพร่ระบาดพบว่า สถานการณ์โควิดทำให้นักชอปมีการปรับเปลี่ยนชุดพฤติกรรม รูปแบบวิถีชีวิตประจำวันจนกลายเป็นการใช้ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) โดยลูกค้าของเราวางแผนการซื้อสินค้าล่วงหน้าเพื่อใช้เวลาในร้านให้น้อยลง ให้ความสำคัญการเว้นระยะห่าง ลดการสัมผัสและการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลในร้านมากขึ้น โดยมุ่งหวังว่าหุ่นยนต์ผู้ช่วยจะเติมเต็มประสบการณ์แปลกใหม่ เพิ่มโอกาสในการนำเสนอสินค้าช่วยส่งเสริมการขายให้กับแบรนด์ต่างๆ ในทุกช่วงสถานการณ์ และเราเป็นซูเปอร์มาร์เกตรายแรกที่มีหุ่นยนต์บริการ”

โดยวางแผนให้บริการหุ่นยนต์น้องเต็มใจที่ท็อปส์ มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 21 สาขา ทั้งในกรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครปฐม ชลบุรี อยุธยา เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต ขอนแก่น และนครรราชสีมา ซึ่งในบางสาขาที่ได้เริ่มให้บริการไปแล้วได้รับความสนใจและลูกค้าให้การตอบรับที่ดี เนื่องจาก AI Service Robot หรือ “น้องเต็มใจ” หุ่นยนต์ผู้ช่วยบริการอัจฉริยะเป็นเทคโนโลยีฟังก์ชันใหม่ที่ยังไม่มีในซูเปอร์มาร์เกตที่อื่น อีกทั้งการนำนวัตกรรมหุ่นยนต์ AI มาให้บริการเป็นหนึ่งในนโยบาย Digital Transformation ของบริษัทฯ ในการก้าวสู่ Innovated Supermarket ที่ในอนาคตบริษัทฯ มีแผนนำนวัตกรรมที่น่าสนใจมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างประสบการณ์การชอปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless Shopping Experience) ให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้นในทุกมิติ รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีมาสร้าง Circular Economy ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเรื่องความยั่งยืน เป็นการเตรียมความพร้อมขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของซูเปอร์มาร์เกต” นายสเตฟานกล่าว


ด้านคุณสมบัติหลักของหุ่นยนต์ผู้ช่วยบริการอัจฉริยะจะแบ่งเป็น 2 โหมดหลัก ได้แก่

1. Cruising Mode ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยพนักงานแนะนำสินค้าต่างๆ เช่น สินค้าโปรโมชัน สินค้าใหม่ ซึ่งแต่ละสาขาสามารถคัดเลือกสินค้ามานำเสนอให้เหมาะกับแต่ละช่วงเวลา เพิ่มโอกาสทางการขายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันลูกค้าก็จะไม่พลาดกับสินค้าราคาพิเศษ, การแจก Product Sampling ทำให้ลูกค้าได้ทดลองชิม-ใช้สินค้าที่ต้องการโปรโมต โดยน้องเต็มใจจะเคลื่อนที่ไปรอบๆ ร้านและนำเสนอสินค้าให้กแก่ลูกค้าที่มาชอปปิ้งโดยตรง ซึ่งโหมดดังกล่าวใช้เทคโนโลยี Facial Detection - AI based technology ในการตรวจจับใบหน้าของลูกค้าที่อยู่ข้างหน้า โดยหุ่นยนต์จะลดความเร็วลงและหยุดเพื่อให้ลูกค้าสามารถหยิบซื้อ ทดลองสินค้าได้

2. Navigation Mode โหมดผู้ช่วยนำทางซึ่งลูกค้าสามารถกดเลือกโซนสินค้าเพื่อให้หุ่นยนต์ผู้ช่วยบริการอัจฉริยะนำทางไปยังแผนกที่ต้องการทำให้ลูกค้าสามารถหาสินค้าได้ง่าย รวดเร็วประหยัดเวลามากขึ้น โดยใช้ Lidar sensor + Vision Positioning เป็นเทคโนโลยีเดียวกับรถยนต์อัจริยะไร้คนขับ เพื่อตรวจจับวัตถุและใช้ในการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ ซึ่งระบบนี้จะช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อยู่ด้านหน้าและคำนวนเส้นทางเพื่อหลบหลีกลูกค้า สิ่งกีดขวาง ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นภายในร้าน ซึ่งเทคโนโลยีนี้ยังทำให้หุ่นยนต์สามารถสร้างแผนที่เสมือนจริง (Virtual Mapping) ในการนำทางภายในร้านโดยไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น การทำสัญลักษณ์ (Marker) บนพื้นเพื่อใช้นำทางการเดินของหุ่นยนต์














กำลังโหลดความคิดเห็น