ทีวี ไดเร็ค หรือ TVD เดินหน้ารุกตลาดโค้งสุดท้ายของปี คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 เป็นจุดต่ำสุดของปี และมั่นใจจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีนี้ เดินแผนสร้าง S-CURVE ใหม่ มุ่งสร้างประสบการณ์ชอปปิ้งไร้รอยต่อ เปิดตัว APP E-Commerce เสริมธุรกิจอีคอมเมิร์ซแข็งแกร่ง ยกสินค้าที่เลือกสรรแล้วมากกว่า 25,000 รายการ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “คัดแล้ว คุ้มชัวร์” ชูฟีเจอร์การใช้งานเพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับการชอปทุกที่ทุกเวลาได้ง่ายขึ้น พร้อมลงทุนสตาร์ทอัพ Fintech & Edtech ผ่านเอบีพีโอ ชูเทคโนโลยีต่อยอดโมเดลธุรกิจ B2B สร้างรายได้เพิ่ม มั่นใจเปิดประเทศดันเศรษฐกิจฟื้นตัว กำลังซื้อคึกคักรับเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลอง
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) หรือ TVD ผู้นำธุรกิจจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านช่องทางทีวีและออนไลน์ รายงานถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2564 มีรายได้รวมอยู่ที่ 667.32 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีผลขาดทุน 86.23 ล้านบาท เป็นไปตามคาดหมาย จากการที่ต้องลงทุนปรับระบบงาน E-Commerce ที่ได้ร่วมกับ MOMO ไต้หวัน และผลจากกำลังซื้อที่หดตัวลงอย่างรุนแรงในไตรมาส 3 ของปีนี้ ขณะที่แนวโน้มธุรกิจทีวีโฮมชอปปิ้งในไตรมาส 4 คาดการณ์ว่าตลาดจะเริ่มทรงตัว เพราะการที่ปริมาณผู้ชมที่ลดลงจากการเปลี่ยนสัญญาณการออกอากาศของ Platform และการเติบโตของ Shift TV (การชมรายการย้อนหลัง) และการเติบโตของ OTT (Over-the-top) APP ไม่ว่าจะเป็น APP หลักอย่าง NETFLIX, Disney, VIU, iQiyi หรือจะเป็น APP จากเกาหลี และจีน ที่ทำให้ผู้ชมมีทางเลือกที่มากขึ้นและใช้เวลากับ OTT และ Online เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
นายทรงพลกล่าวต่อว่า บริษัทกำลังเร่งมือในการสร้าง S-CURVE ใหม่ด้วย APP E-Commerce ที่จะพร้อมเปิดใช้บริการในเดือนธันวาคมนี้ ภายใต้การนำของ Mr. Roger Chueh จากบริษัท โมโม่ดอทคอม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ และเป็นผู้บริหารที่เคยร่วมงานกับบริษัทชั้นนำหลายแห่ง เข้ามารับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ร่วมสายงานธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด (มหาชน) เพื่อมาร่วมบริหารและจัดการระบบ E-Commerce ทั้งหมดของ TVD
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ขยายการลงทุนในธุรกิจ B2B หรือการทำธุรกิจการค้าระหว่างลูกค้าองค์กรผ่าน บริษัท เอบีพีโอ จำกัด ในเครือของ TVD โดยมุ่งลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อนำเทคโนโลยีมาต่อยอดสู่โมเดลธุรกิจรูปแบบใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้เข้าลงทุนใน บริษัท อี๊ตแล็บ จำกัด หรือ EATLAB ผู้พัฒนาระบบ SaaS (Software as a Service) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแก่ธุรกิจร้านอาหาร โดยนำเทคโนโลยี AI หรือ Artificial Intelligence ช่วยเพิ่มความถี่การใช้บริการและผลักดันยอดขายเพิ่มขึ้น ‘Blockfint’ ผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Fintech และนำเทคโนโลยี Blockchain มาพัฒนานวัตกรรมทางการเงินในตลาดทุนและการเงิน อีกทั้งยังเป็นผู้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล National Digital Identification หรือ NDID
รวมถึงเข้าลงทุนใน 2Read สตาร์ทอัพด้าน Edtech เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาทักษะทั้งด้าน Soft Skills และ Hard Skills จากการเรียนรู้ทั้งการฟัง การเข้าคลาสเรียนออนไลน์ โดยพร้อมนำเทคโนโลยีและไอเดียมาสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจและสร้างการเติบโตของกลุ่มธุรกิจให้มีความยั่งยืนและแข็งแกร่ง ตอบโจทย์โลกดิจิทัลที่ธุรกิจต้องขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี
ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมามีมติอนุมัติให้บริษัท เอบีพีโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ เข้าซื้อหุ้น 10.10% ในบริษัท ฟู้ด ออเดอรี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้พัฒนาและให้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน eatHUB เพื่อให้บริการจัดส่งอาหารจากบริษัท ต้นหอม จำกัด โดยใช้เงินลงทุน 15.15 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจด้านแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชันให้บริการรับส่งอาหารที่มีแนวโน้มเติบโตสูง รวมถึงต่อยอดเข้าสู่ธุรกิจด้านเทคโนโลยีและร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจที่เป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Development) และระบบ
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการพัฒนาซอฟต์แวร์และฟังก์ชันต่างๆ แก่ร้านค้าที่มาใช้บริการแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชัน eatHUB
สำหรับการเปิดตัว APP E-Commerce นับว่าเป็นก้าวสำคัญของการรุกธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่างเต็มรูปแบบที่มีช่องทางการชอปปิ้งแบบครบวงจร ทั้งทีวีโฮมชอปปิ้ง คอลเซ็นเตอร์ และออนไลน์ ซึ่งแอปฯ ดังกล่าวจะสร้างประสบการณ์ชอปปิ้งอย่างไร้รอยต่อเพื่อขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่และวัยทำงานได้กว้างขวาง โดยได้คัดสรรนำสินค้ามากกว่า 25,000 รายการ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์สุขภาพ, กลุ่มอุปกรณ์ออกกำลังกายและกิจกรรม, กลุ่มเครื่องครัว, กลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน, กลุ่มแฟชั่นและความงาม, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ มาให้เลือกสรร และมาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานเพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับการชอปได้ทุกที่ และทุกเวลา
ทั้งนี้ หลังจากการเปิดประเทศและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคและกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในช่วงบรรยากาศเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ให้มีความคึกคัก โดยบริษัทฯ ได้เตรียมจัดแคมเปญโปรโมชันอย่างยิ่งใหญ่ นำสินค้าที่มีคุณภาพหลากหลายรายการมาร่วมลดราคา เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่กำลังมองหาสินค้าเพื่อเป็นของขวัญในช่วงปีใหม่ จึงมั่นใจว่าด้วยแผนการดำเนินงานทั้งจากการปรับแผนธุรกิจ B2C และกลุ่มธุรกิจ B2B อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการทำตลาดในช่วงโค้งสุดท้ายของปี จะส่งผลให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ฟื้นตัว