แกร็บ ประเทศไทย สานต่อพันธกิจ GrabForGood หรือ “แกร็บเพื่อชีวิตที่ดีกว่า” เดินหน้าโครงการ GrabAcademy ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “ต่อยอด เสริมทัพ พร้อมรับ New Normal” เพื่อมุ่งส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพให้แก่พาร์ตเนอร์คนขับ-ร้านอาหาร รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยให้สามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจในยุคนิวนอร์มัลได้ พร้อมเปิดตัว 2 โปรเจกต์ใหม่กับ “เรียลิตีโชว์แข่งขันธุรกิจ” โดยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์คว้าเหล่ากูรูคนดังจากหลากหลายวงการมาร่วมถ่ายทอดความรู้และแชร์ประสบการณ์ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด พร้อมชิงเงินรางวัลกว่า 100,000 บาท และ “มินิคอร์ส 5 นาที” ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมของพาร์ตเนอร์คนขับซึ่งมีเวลาจำกัด ด้วยการปรับรูปแบบคอร์สอบรมให้สั้น กระชับและเรียนจบได้ภายใน 5 นาที เพื่อให้คนขับสามารถเปลี่ยนเวลารอเป็นเวลาเรียน อัปสกิลและความรู้ใหม่ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการบริหาร แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บได้ริเริ่มและเปิดตัวโครงการ ‘GrabAcademy สร้างอาชีพกับมือโปร’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนับตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา โดยเราได้ผนึกความร่วมมือกับดีป้า พัฒนาแหล่งเรียนรู้ออนไลน์สำหรับพาร์ตเนอร์คนขับ-ร้านอาหาร ซึ่งรวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย เพื่อมุ่งส่งเสริมความรู้ พร้อมพัฒนาทักษะและศักยภาพให้กับคนในอีโคซิสเต็มของแกร็บ ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา โครงการของเราได้รับความสนใจและเสียงตอบรับที่ดีจากผู้เข้าอบรมที่มีจำนวนกว่า 30,000 คน ซึ่งเรียนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าคนละ 8 คอร์ส”
“สำหรับในปีนี้เรายังคงเดินหน้าสานต่อโครงการ GrabAcademy อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่สอง ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ต่อยอด เสริมทัพ พร้อมรับ New Normal’ โดยมุ่งเน้นการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ใหม่ๆ และปรับปรุงเนื้อหาของคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการและพฤติกรรมของทั้งพาร์ตเนอร์คนขับและร้านอาหาร รวมถึงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้พวกเขาสามารถเตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและต่อยอดธุรกิจได้ในยุคนิวนอร์มัล”
ไฮไลต์สำคัญของโครงการ GrabAcademy ในปีที่ 2 ประกอบด้วย
• “GrabAcademy เรียลิตีโชว์” ให้ความรู้ คู่ความบันเทิง: นอกเหนือจากหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่แกร็บได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพในการทำธุรกิจให้กับพาร์ตเนอร์ร้านอาหารแล้ว ในปีนี้แกร็บยังได้ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดรายการแข่งขันทางธุรกิจในรูปแบบเรียลิตีโชว์ในชื่อ “GrabAcademy สร้างอาชีพกับมือโปร” ยกขบวนเหล่ากูรูคนดังจากหลากหลายวงการ เช่น เปิ้ล นาคร นักแสดงสายฮา เจ้าของร้าน “Sail To The Moon By Nakorn”, ป๋อมแป๋ม นิติ พิธีกรชื่อดัง เจ้าของร้าน “อรรถรส”, กันสมาย - ชนกันต์ ดาราดาวรุ่ง เจ้าของร้าน “3 มีนา”, กอล์ฟ กันตพัฒน์ ครีเอเตอร์สุดฮิปจากเพจ “กอล์ฟมาเยือน” และอินฟลูเอนเซอร์ตัวแม่อย่าง หยาดพิรุณ ที่จะมาร่วมแชร์ประสบการณ์และถ่ายทอดทักษะความรู้ให้แก่ 6 ผู้เข้าแข่งขันเจ้าของร้านอาหารที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด ซึ่งจะมาประชันความสามารถเพื่อชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 100,000 บาท โดยรายการจะออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 17.00 น. เริ่มวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ เป็นตอนแรก ผ่านสื่อโซเชียลของ Grab ทั้ง YouTube และ Facebook
• “มินิคอร์ส 5 นาที” เรียนได้ทุกที่ ตอบโจทย์พี่ๆ คนขับ: จากการสำรวจพฤติกรรมของพาร์ตเนอร์คนขับแกร็บ พบว่าคนขับส่วนใหญ่ให้ความสนใจที่จะเสริมทักษะและความรู้ใหม่ๆ แต่ไม่มีเวลาที่จะเข้าอบรมในหลักสูตรยาวๆ ผ่านทางเว็บไซต์ เวลาที่ว่างจะมีแค่ช่วงเวลารอรับออเดอร์อาหาร ในปีนี้ GrabAcademy จึงได้ร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือดีป้า พัฒนารูปแบบการเรียนรู้ให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนขับมากขึ้น โดยยกคอร์สอบรมออนไลน์ต่างๆ เข้าไปอยู่ในแอปพลิเคชันของคนขับ (Grab Driver app) พร้อมจัดทำ “มินิคอร์ส 5 นาที” โดยปรับเนื้อหาของคอร์สต่างๆ ให้สั้น กระชับ ดูเพลิน เรียนรู้ง่ายภายในเวลา 5 นาที เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ช่วงเวลาว่างระหว่างรอให้บริการหรือรอรับออเดอร์อาหาร เสริมความรู้และทักษะใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ โดยปัจจุบันแอปพลิเคชันคนขับมีการบรรจุคอร์สอบรมต่างๆ แล้วกว่า 55 คอร์ส ครอบคลุมทั้งเรื่องทักษะการให้บริการ หลักสูตรภาษาเพื่อการบริการ อาทิ ภาษาอังกฤษและภาษาจีนเบื้องต้น รวมทั้งหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับการเงิน เช่น การวางแผนการเงิน ภาษีเบื้องต้น และการบริหารจัดการหนี้ เป็นต้น
“ด้วยรูปแบบการนำเสนอที่แปลกใหม่และแตกต่าง ที่ให้ทั้งสาระความรู้ควบคู่ไปกับความบันเทิง รวมไปถึงการปรับหลักสูตรคอร์สอบรมให้สอดคล้องกับพฤติกรรมและความสนใจของผู้เข้าอบรมนั้น เราเชื่อมั่นว่าโครงการ GrabAcademy ในปีที่สองนี้จะได้รับความสนใจจากพาร์ตเนอร์คนขับและพาร์ตเนอร์ร้านอาหารมากขึ้น ทำให้การเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพไม่ใช่เรื่องไกลตัวพวกเขาอีกต่อไป ที่สำคัญคือเราหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นว่าพาร์ตเนอร์ของเราสามารถนำความรู้และทักษะต่างๆ ไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาต่อยอดในการสร้างรายได้และพัฒนาธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นไปตามเจตนารมณ์ของแกร็บที่มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคมภายใต้พันธกิจ GrabForGood” นายวรฉัตร กล่าวเสริม
ติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ GrabAcademy ได้ที่ www.grab.com/th/en/blog/grabacademy