xs
xsm
sm
md
lg

ตบเท้าเฮโล เปิดประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การตลาด – ค้าปลีก เอกชน วงการท่องเที่ยว เฮโล คึกคัก ตอบรับนโยบายเปิดประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาฟื้นตัวขึ้น เผยผลสำรวจคนค้าปลีกค้าส่งหนุนเต็มที่ ด้านวงการแอปท่องเที่ยวอัดแคมเปญ เปิดฟีเจอร์ใหม่ลุย

ด้วยนโยบายของการเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 นี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับจากเอกชนเกือบทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะวงการค้าปลีก และวงการท่องเที่ยว เนื่องเพราะว่าจะเป็นอีกความหวังหนึ่งที่จะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจพลิกฟื้นกลับมาเป็นบวกขึ้นบ้าง ด้วยกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ผลการสำรวจ TRA Poll ในหัวข้อ “ภาคการค้าปลีกและบริการพร้อมเปิดประเทศ ภายใต้เงื่อนไขมิติเศรษฐกิจและสาธารณสุข” จากการสำรวจผู้บริหารกลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง และบริการ จำนวน 283 ราย คลอบคลุมทุกภาคของประเทศ ในระหว่างวันที่ 8-12 ตุลาคม 2564 พบว่าผู้บริหาร 62.1% มองว่าด้วยมาตรการสาธารณสุขที่เข้มข้น และจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ค่อยๆ ลดลง เห็นควรสนับสนุนให้ภาครัฐ เปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้นับจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 เป็นต้นไป


*** ค้าปลีกเฮโล รับนโยบายเปิดประเทศ
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า “จากผลสำรวจของ TRA Poll ของผู้บริหารกลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง และบริการ จำนวน 283 ราย ชี้ให้เห็นว่านโยบายการเตรียมเปิดประเทศ ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ของภาครัฐ ถือเป็นสัญญาณที่ดี เป็นการเปิดรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติให้เข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว แต่ต้องขอเน้นย้ำรัฐบาลในเรื่องการเตรียมความพร้อมเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างจริงจังและเข้มข้น พร้อมทั้งเร่งการฉีดวัคซีนให้ครอบคลุม 70% ของประชากรทั้งประเทศภายในปี 2564 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ รวมทั้งต้องจัดหาวัคซีนที่มีคุณภาพ และมีจำนวนที่เพียงพอจนถึงปี 2565 และการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงชุดตรวจ ATK ที่สะดวกและราคารับได้”

ผลสรุปความคิดเห็นของผู้บริหารกลุ่มค้าปลีก ค้าส่ง และบริการ ในหัวข้อ “ภาคการค้าปลีกและบริการพร้อมเปิดประเทศ ภายใต้เงื่อนไขมิติเศรษฐกิจและสาธารณสุข” มีรายละเอียด ดังนี้

การเปิดประเทศรัฐบาลควรเตรียมพร้อมดังนี้ ส่วนของด้านสาธารณสุข กระจายวัคซีนให้ได้ตามเกณฑ์ 80.5%, มีการคัดกรองที่เข้มข้นและมีแผนฉีดวัคซีนถึงปี 2565 และการเข้าถึงชุดตรวจATK ในราคายอมรับได้ ส่วนทางด้านเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อแก่ผู้บริโภคอย่างตรงเป้า 68.6%, ส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อการกระจายรายได้ 65.7%, ลดค่าครองชีพ ลดค่าน้ำค่าไฟ และค่าอินเทอร์เน็ต 62.1% และการเสริมสภาพคล่องทางธุรกิจด้วยการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 52.1%


ขณะที่ความกังวลต่อความพร้อมในการเปิดประเทศ คือ ประชาชนยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนตามเกณฑ์ที่เพียงพอ 73.2%, อัตราการติดเชื้อของต่างจังหวัดประชาชาชนยังอยู่ในเกณฑ์สูง 60.9%, มาตรการการควบคุมการระบาดยังไม่เข้มข้น 56.8%

ส่วนทางด้าน ผู้บริหารกลุ่มค้าปลีก ค้าส่งและบงริการ มีความพร้อมในการเตรียมตัวเปิดประเทศในเรื่องใดบ้างคือ พนักงานได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ 77.3%, ธุรกิจพร้อมกลับมาเปิดปรกติ 57.6%, พร้อมปฎิบัติตนตามมาตรการ Covid Free Setting 47.1% และมีกระบวนการคัดกรองผู้ติดเชื้อที่เข้มข้น 39.2%

สำหรับประเด็นรัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจด้านใดบ้าง เพื่อที่จะทำให้ประเทศฟื้นตลนตัวได้เร็ว เข้มแข็ง และยั่งยืนคือ การท่องเที่ยว 70.7%, การลงทุน 60.7%, โครงสร้างการรองรับเศรษฐกิจใหม่ 56.8%, การศึกษาและการพัฒนาศักยภาพประชากร 44.6% และ การลดความเหลื่อมล้ำอย่างเป็นรูปธรรม 44.3%

“อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของการเปิดประเทศครั้งนี้ นอกเหนือจากการผ่อนคลายมาตรการทางสาธารณสุขแล้ว สมาคมผู้ค้าปลีกไทยยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ ในกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงโดยการนำโครงการ “ช้อปดีมีคืน” กลับมาอีกครั้งหนึ่ง และเพิ่มวงเงินเป็น 200,000 บาท เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นให้กลับมาโดยเร็ว สำหรับผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่ม SME ให้จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และเป็นแต้มต่อให้ SME ไทยสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อไป คนไทยควรปรับแนวคิดว่าจะต้องใช้ชีวิตร่วมกับโควิดให้ได้ และต่อจากนี้ไปเราต้องร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยเข้าสู่การฟื้นฟูอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อการเติบโตของประเทศอย่างยั่งยืน” นายญนน์ กล่าว


*** ทราเวลโลก้า เพิ่มฟีเจอร์ใหม่รับ
นางสาวปณิชา ธนณาเคนทร์ ผู้จัดการฝ่ายขาย ทราเวลโลก้า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “Traveloka มุ่งมั่นในการสนับสนุนความปลอดภัยในทุกการเดินทางเสมอมาเพื่อยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย จากแผนการเร่งฉีดวัคซีนอย่างจริงจัง ทำให้เล็งเห็นแนวโน้มที่จะส่งผลเชิงบวกต่อการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงภาคการท่องเที่ยว
โดยปัจจุบัน มีประชากรกว่าร้อยละ 34.7 ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว (ข้อมูล ณ วันที่ 15 ตุลาคม 2564) บริษัทจึงขอร่วมเป็นอีกภาคส่วนในการนำนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาท่องเที่ยวชมความงดงามของประเทศไทยอย่างปลอดภัยผ่านแคมเปญนี้ และเชื่อว่าจะได้รับผลตอบรับอย่างล้นหลาม และจะช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง”

ในสถานการณ์เช่นนี้ Traveloka คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และมุ่งเน้นปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด “บริษัทตระหนักดีว่า ยังคงต้องตื่นตัวอยู่เสมอในการรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงดำเนินอยู่ จึงได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ Safe Travel Page ในแอป เพื่อให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ในส่วนที่เกี่ยวกับกฎระเบียบด้านการเดินทาง เอกสารที่จำเป็น และข้อควรรู้ต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย นอกจากนั้นแล้ว ยังสนับสนุนให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขผ่านช่องทางการสื่อสารของบริษัท ทั้งในส่วนแอปและเว็บไซต์ของทราเวลโลก้า รวมถึงช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ” นางสาวปณิชากล่าว

เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเดินทางท่องเที่ยวและไลฟ์สไตล์ Traveloka ได้เตรียมคอนเทนต์เกี่ยวกับกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ที่จะช่วยให้ทุกคนรู้สึกอยากสัมผัสกับสถานที่หรือกิจกรรมนั้น ๆ มากขึ้น โดย Traveloka พร้อมช่วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศทุกคน ในการจัดการการจองทุกอย่างได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว ทั้งข้อมูลสายการบิน ที่พัก ประสบการณ์หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ไปจนถึงบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในราคาพิเศษและคูปองต่าง ๆ อีกมากมาย อาทิ

1.ส่วนลดสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางเข้าประเทศไทย 10% หรือสูงสุด 50 ยูโร
2. ส่วนลดสำหรับเที่ยวบินภายในประเทศไทยสูงสุด 200 บาท
3. คูปองส่วนลดที่พักสูงสุด 250 บาท
4. คูปองส่วนลด Xperience สูงสุด 200 บาท
ส่วนลดที่แคมเปญ Welcome to Thailand Again มอบให้นี้ ครอบคลุมพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยส่งเสริม เช่น ภูเก็ต กระบี่ สมุย กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศที่คิดถึงการมาเที่ยว ‘Amazing Thailand’ สามารถรับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ ไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 ผ่านทางแอปพลิเคชัน Traveloka


*** “มาคาเลียส” อัดโปรรับเปิดประเทศ

นางสาวณีรนุช ไตรจักร์วนิช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มาคาเลียส ประเทศไทย จำกัด (Makalius) กล่าวว่า "ภาพรวมของธุรกิจท่องเที่ยวตั้งแต่เดือน กันยายน 2564 ที่ผ่าน ภายหลังจากรัฐบาลประกาศคลายล็อกดาวน์ อนุญาติให้ประชาชนสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้

ประกอบกับล่าสุดนายกรัฐมนตรีประกาศถึงแผนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน ส่งผลให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวในประเทศไทยเริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยพิจารณาจากยอดจำหน่ายวอร์เชอร์ที่พักของมาคาเลียสที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2,000-3,000 วอร์เชอร์ต่อเดือน

อีกทั้งยังพบว่า ไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยวไทยได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยสูงขึ้น เน้นความเป็นส่วนตัว เช่น การสอบถามถึงปริมาณความแออัดในโรงแรมที่จะเข้าพัก การมองหาตราสัญญลักษณ์ SHA มาตรฐานความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยว รวมถึงการเลือกใช้ชีวิตอยู่ภายในที่พักตลอดทริป ทั้ง การรับประทานอาหาร การทำกิจกรรม เป็นต้น เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ส่วนรูปแบบการเลือกสถานที่ท่องเที่ยวจะเลือกไม่ไกลมาก อาทิ เขาใหญ่ หัวหิน พัทยา กาญจนบุรี เป็นต้น และเน้นการท่องเที่ยวระยะสั้นเพียง 2-3 วันต่อครั้ง

ดังนั้น มาคาเลียส ได้เห็นอินไซต์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป จึงได้เตรียมปรับแผนการตลาด ชูกลยุทธ์ “Exclusivity Marketing” นำจุดเด่นเรื่องความเชี่ยวชาญด้านการท่องเที่ยวมาให้บริการลูกค้าแบบเอ็กซ์คลูซีพ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ Exclusive Package การดึงโรงแรมที่พักชื่อดังทั่วประเทศไทย มาจัดเป็นวอเชอร์แพคเกจสุดเอ็กซ์คลูซีพ โดยรวมอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ บุฟเฟ่ต์มื้อกลางวัน ดินเนอร์ ชุดชา มอคเทล เป็นต้น และเพิ่มความพิเศษด้วยกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ของแต่ละพื้นที่ เช่น การพายเรือแคนู SUP BOARD บัตรสวนน้ำ กิจกรรมแอดเวนเจอร์ เป็นต้น เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับลูกค้าในการจัดสรรทริปท่องเที่ยว ประหยัดเวลา และสามารถคุมงบประมาณได้

ต่อมาคือ Exclusive Service การให้คำปรึกษาด้านการท่องเที่ยวเฉพาะลูกค้าคนพิเศษของมาคาเลียสในรูปแบบเลขาส่วนตัว ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าพร้อมทั้งช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการได้รับบริการจากสถานที่พัก และอื่นๆ สุดท้ายคือ Exclusive Promotion การมอบโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทั้งในเรื่องของส่วนลด การให้บริการ รวมถึงของขวัญสุดประทับ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการผ่านมาคาเลียส

นางสาวณีรนุช กล่าวต่อว่า “มาคาเลียสคาดว่า ถ้าเป็นไปตามแผนการตลาดที่ตั้งไว้ ภายในสิ้นปี 2564 มาคาเลียสจะมีรายได้รวม กว่า 100 ล้านบาท เพราะช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2564 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ประกอบกับถ้าภาครัฐบาลสามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีภายหลังจากการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ภาพรวมของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวไทยก็จะเกิดความน่าเชื่อถือในสายตาของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ”


*** ซีพีเอ็น จัดอีเวนต์ท่องเที่ยว

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 6 จังหวัด ขานรับนโยบายภาครัฐ กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวทั่วประเทศ ดึงผู้ประกอบการกว่า 1,000 ราย มอบดีลแพ็คเกจส่วนลดสูงสุด 70% เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ดร. ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เซ็นทรัลพัฒนา รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดงานส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้ เราได้ผนึกกำลังภาคอุตสาหกรรมธุรกิจท่องเที่ยวทุกแขนง เพื่อรวบรวมบริการการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งโรงแรม รีสอร์ตหรูชั้นนำ สายการบิน รวมทั้งแพ็คเกจท่องเที่ยวครบรูปแบบ อาทิ รถเช่า บัตรรับประทานอาหาร และสปาสุดหรู มาไว้ในที่เดียวให้ประชาชนได้เลือกสรรเพื่อพักผ่อนช่วงวันหยุดยาวปลายปีที่จะถึงนี้
ประกอบกับนโยบายของภาครัฐที่เตรียมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปลุกกำลังซื้อประชาชนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ไม่ว่าจะเป็นโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 และช้อปดีมีคืน รวมไปถึงการเตรียมเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติในวันที่ 1 พ.ย. นี้

ดร. ณัฐกิตติ์ กล่าวต่อ “เรามั่นใจอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ หนุนภาคท่องเที่ยวทั้งระบบทั่วประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบข้ามภูมิภาค (Cross-region) เพื่อกระจายรายได้ทั่วประเทศ ซึ่งงานล่าสุดที่เพิ่งจบไปที่เซ็นทรัล ภูเก็ต ได้รับกระแสตอบรับอย่างดีเยี่ยม จากการจัดงานเพียง 3 วัน เท่านั้น และด้วยจุดแข็งของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีศูนย์การค้าทั่วประเทศนี้ เราเชื่อมั่นว่า เราเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อน Tourism Ecosystem ที่สำคัญของประเทศ และสอดรับกับมาตรการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาครัฐ”

ไฮไลต์ห้ามพลาดภายในงาน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแต่ละสาขา ดังนี้
• เซ็นทรัลเวิลด์ จัด 2 งาน ได้แก่
• วันที่19-25 ต.ค. 64 งาน centralwOrld Hotel Rendez-vous ชั้น 1 โซน บีคอน
งานที่รวบรวมแพ็กเกจห้องพักราคาพิเศษจากโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ทั่วกรุงเทพ รวมทั้งโรงแรมและ รีสอร์ตชื่อดังในพัทยา หัวหิน กว่า 100 โรงแรม อาทิ Hyatt ,IHG , Anantara , SALA, Centara, Marriott, Hilton พร้อมตั๋วเครื่องบิน และแพ็กเกจอาหาร สปา ในราคาที่สุดพิเศษ
• วันที่ 11-15 พ.ย. 64 งาน Dream Vacation ครั้งที่ 2 ชั้น 1 ลานโปรโมชั่น
กลับมาอีกครั้ง งานท่องเที่ยวที่ดีที่สุดใจกลางเมือง รวมโรงแรม รีสอร์ตหรูในฝันที่คนอยากไปมากที่สุดจากทั่วประเทศ และแพ็คเกจท่องเที่ยวที่ครบทุกรูปแบบมาไว้ในงานเดียว

• เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคเหนือ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ชมรมไทยบริการท่องเที่ยวภาคเหนือ TTAA ชมรมมัคคุเทศก์รักษ์ล้านนา สมาคมไทยล้านนาสปา ส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามภูมิภาค สนับสนุนพื้นที่ฟรีในการจัดกิจกรรม จับมือภาคการท่องเที่ยวสุดแข็งแกร่ง จัดงานรวมโปรโมชั่นลดราคา โรงแรม แหล่งท่องเที่ยว สายการบิน และบริษัททัวร์ ลดสูงสุดกว่า 70% โดยมีรายละเอียดดังนี้
• งาน Best Chiangmai Ep.2 ระหว่างวันที่ 21-25 ต.ค. 64 ณ ลานกิจกรรมชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต
• งาน ไทยเที่ยวเหนือ ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28-31 ต.ค. 64 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่

• เซ็นทรัล สมุย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จัดงาน Samui Travel Fair โปรโมทการท่องเที่ยวของเกาะสมุยและเกาะใกล้เคียง มอบส่วนลดพิเศษทั้งห้องพัก สปา ร้านอาหาร แพคเกจทัวร์ One day trip และอื่น ๆ อีกมากมาย สูงสุดกว่า 70% โดยจะRoadshow ไปยังศูนย์การค้าเซ็นทรัลอีก 3 สาขาในภาคใต้ ได้แก่ เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี, เซ็นทรัล นครศรีธรรมราช และ เซ็นทรัล หาดใหญ่ ในช่วงเดือน พฤศจิกายน 2564 นี้ ติดตามข้อมูลการจัดงานเพิ่มเติมได้ที่ Facebook pages: CentralFestival Hatyai, CentralPlaza Nakhon Si Thammarat และ CentralPlaza Suratthani


กำลังโหลดความคิดเห็น