xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มนิคมฯ ได้อานิสงส์ไทยเปิดประเทศ 1 พ.ย. WHA มั่นใจสิ้นปี 64 ขายที่ดินเกินเป้า 750 ไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



WHA มั่นใจยอดขายที่ดินในนิคมฯ ในไทยสิ้นปีนี้เกินเป้า 750 ไร่ หลังรัฐมีนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย. 64 ชี้ปีหน้ายอดขายที่ดินฯ โตเพิ่มขึ้นอีก เหตุจีนมีปัญหาขาดแคลนพลังงาน ทำให้นักลงทุนต่างชาติหนีมาลงทุนในไทยและเวียดนามแทน

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (WHA) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 จะส่งผลดีต่อธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม รวมทั้งมีทุนต่างชาติสนใจลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นช่วงนี้ เนื่องจากจีนประสบปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ทำให้มีการจำกัดการใช้พลังงานขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติทั้งจากจีน ไต้หวัน ฯลฯ จะย้ายฐานการผลิตมายังไทย ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นในปีหน้า

ดังนั้น บริษัทมั่นใจว่าเป้าหมายยอดขายที่ดินนิคมฯ ในไทยในสิ้นปี 2564 จะทำได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ 750 ไร่และอาจมียอดขายที่ดินสูงกว่าเป้าที่วางไว้ถือเป็นโบนัส ส่งผลให้ปีนี้บริษัทมั่นใจว่ามีรายได้สูงสุดอีกครั้ง

ส่วนปี 2565 บริษัทมั่นใจว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในไทยและการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่คลี่คลายลงหลังมีการเร่งฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงในไทย และการเปิดประเทศช่วยกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติ ทำให้ยอดขายที่ดินของ WHA จะเพิ่มสูงขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำประมาณการอยู่

ก่อนหน้านี้ WHA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมรวมทั้งสิ้น 1,030 ไร่ แบ่งเป็นการขายที่นิคมฯ ในไทย 725 ไร่ และนิคมฯ ในเวียดนาม 300 ไร่ แต่เนื่องจากประเทศเวียดนามมีการล็อกดาวน์ประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมทั้งปัญหาการส่งมอบพื้นที่เพื่อพัฒนานิคมฯ ทำให้ WHA ปรับเป้าหมายการขายที่ดินในนิคมฯ ใหม่ โดยลดเป้าหมายการขายที่ดินในนิคมฯที่เวียดนามลงเหลือ 70 ไร่และปรับเพิ่มการขายที่ดินในไทยเพิ่มเป็น 750 ไร่ รวมทั้งสิ้นเป็นเป้าหมายการขายที่ดินในนิคมฯ ทั้งไทยและเวียดนามรวม 820 ไร่

นางสาวจรีพรกล่าวว่า ในปี 2564 บริษัทคาดว่ามีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรปกติจะสูงเป็นประวัติการณ์ ด้วยอัตราการเติบโตกว่า 30% จากปีก่อน โดยที่ยังคงระดับความสามารถในการทำกำไรสูงด้วยกำไรจากการดำเนินการก่อนหักค่าใช้จ่าย (EBITDA) มากกว่า 40% เป็นผลจากไตรมาส 4 นี้บริษัทจะรับรูรายได้จากการโอนที่ดินที่มากขึ้น และกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART)

กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ (WHAID) มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 12 แห่ง โดยตั้งอยู่ในประเทศไทย 11 แห่ง และเวียดนามอีก 1 แห่ง นอกจากนี้ ยังกำลังพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแห่งใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการในประเทศไทย และอีก 2 โครงการในเวียดนาม คิดเป็นพื้นที่รวม 68,000 ไร่ ซึ่งรวมพื้นที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่จำนวน 49,900 ไร่ ในประเทศไทย คาดว่านิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) และนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ ระยอง 36 (WHA RY36) จะดำเนินการสร้างเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปี 2564 และภายหลังจากผ่านการอนุมัติการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว การก่อสร้างส่วนต่อขยายของนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 (WHA ESIE 4) ก็จะเริ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 ส่วนนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท ระยอง (WHA IER) ซึ่งได้รับการอนุมัติให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษจากอีอีซี จะเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ทำให้ WHAID มีที่ดินอุตสาหกรรมพร้อมซื้อขายที่ใหญ่ที่สุดในไทย บนทำเลยุทธศาสตร์เพื่อรับการลงทุนในอนาคต

ส่วนในประเทศเวียดนาม เขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 - เหงะอาน ได้เสร็จสิ้นการก่อสร้างเฟส 1 ขนาดพื้นที่ 1,000 ไร่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผู้เช่าเกิน 50% ของพื้นที่ ประกอบด้วยลูกค้าจากจีน ญี่ปุ่น และไทย ขณะนี้กำลังดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 ขนาด 2,100 ไร่ คาดว่าการก่อสร้างจะเริ่มในไตรมาส 1 ปี 2565 รวมทั้งกำลังพัฒนาเขตอุตสาหกรรมเพิ่มอีกสองแห่ง ได้แก่ WHA Smart Technology Industrial Zone - Thanh Hoa และโครงการ WHA Northern Industrial Zone ในจังหวัดถั่งหัว ครอบคลุมพื้นที่กว่า 7,500 ไร่ โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566 และปี 2567 ตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น