ผู้จัดการรายวัน 360 - “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ทุ่มงบ 350 ล้านบาทเปิดสาขาใหม่ที่ตำบลบางนาค อำเภอเมืองนราธิวาส รูปแบบไฮเปอร์มาร์เกต เป็นสาขาแรกของบิ๊กซีในจังหวัดนราธิวาส
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า “บริษัทเล็งเห็นถึงศักยภาพของเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะบริเวณพรมแดนเขตเศรษฐกิจภาคใต้ หนึ่งในนั้นคือ จ.นราธิวาส ขณะเดียวกัน การค้าชายแดนมีบทบาทสำคัญเช่นกัน โดยมีมูลค่าสินค้าส่งออกและนำเข้าปีละกว่า 2.4 แสนล้านบาท รวมถึงการลงทุน ความพร้อมของแหล่งวัตถุดิบและแรงงาน การเกษตร การท่องเที่ยว และความได้เปรียบของที่ตั้งที่อยู่แนวพื้นที่ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของสหพันธรัฐมาเลเซีย และคนมาเลเซียข้ามฝั่งมาซื้อสินค้าและท่องเที่ยว จ.นราธิวาสเป็นประจำ ทำให้เห็นศักยภาพที่บิ๊กซีจะลงสาขาทำตลาดได้”
บิ๊กซี สาขานราธิวาส ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด เป็นลำดับที่ 152 ของบิ๊กซี ในรูปแบบไฮเปอร์มาร์เกต โดยประมาณการยอดขายปีละกว่า 400 ล้านบาท และคาดว่าปี 2565 จะทำยอดขายได้เติบโต 5% ต่อเนื่อง เนื่องจากบิ๊กซี สาขานราธิวาส เป็นห้างค้าปลีกสาขาแรกและสาขาเดียวในจังหวัดนราธิวาส อย่างไรก็ดี การค้าชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ พื้นที่ระหว่างอำเภอเมืองนราธิวาส-ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นด่านชายแดนใต้ ถือเป็นอีกโอกาสสำคัญที่บิ๊กซีมองว่าจะมีการค้าขายลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นายพิริยะ กมลเดชเดชา รองประธานเจ้าหน้าที่สายธุรกิจ/สายงานปฏิบัติการค้าปลีกไฮเปอร์มาร์เกต และฟูดเพลซ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวว่า “กลุ่มเป้าหมายหลักคือประชากรในจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าโดยตรงของบิ๊กซี รวมถึงชาวมาเลเซีย ทั้งนี้ บิ๊กซี สาขานราธิวาส ใช้งบลงทุนราว 350 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 19 ไร่ โดยสาขานี้เป็นรูปแบบบิ๊กซี ไฮเปอร์มาร์เกตมาตรฐาน พื้นที่ขนาดอาคารรวม 10,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่ขาย 4,000 ตารางเมตร และอีก 6,000 ตารางเมตรจัดสรรเป็นพื้นที่ให้เช่า โดยปัจจุบันมีผู้เช่าเต็มพื้นที่ขายแล้วจากผู้ประกอบการชาวไทย มุสลิม และผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มาร่วมขับเคลื่อนธุรกิจสร้างความหลากหลายด้านสินค้าและบริการอย่างครบครัน”
ในขณะเดียวกัน บิ๊กซีให้ความสำคัญต่อวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น จึงได้ปฏิบัติตามหลักการของศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดในการจำหน่ายสินค้าและให้บริการ เช่น การจัดห้องละหมาด หรือศูนย์อาหารมุสลิมเพื่อลูกค้าชาวมุสลิม นอกจากนี้ยังมอบความมั่นใจให้แก่ลูกค้าทุกครั้งที่มาจับจ่ายซื้อของด้วยคณะเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและระบบรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ทั้งการเข้าตรวจพื้นที่ทั้งก่อน และหลังเปิดให้บริการด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีด้านการรักษาความปลอดภัยทั่วบริเวณพื้นที่ และมาตรการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึง บิ๊กซี สาขานราธิวาสร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วยการสร้างงานสร้าง รายได้ให้แก่คนในท้องถิ่น โดยมีพนักงานประจำที่มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนราธิวาสและใกล้เคียงคิดเป็น 100% ของพนักงานทั้งหมด
“สำหรับสาขาบิ๊กซี ณ เดือนตุลาคม 2564 แบ่งเป็น 152 สาขา (บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ และบิ๊กซีเอ็กซ์ตรา) บิ๊กซี มาร์เก็ต 60 สาขา (บิ๊กซีมาร์เก็ต บิ๊กซี ฟู้ดเพลส และบิ๊กซีดีโป้) มินิบิ๊กซี 1,300 สาขา (รวมสาขาแฟรนไชส์ 60 สาขา) และร้านขายยาเพรียว 145 สาขา ทั้งนี้ การขยายสาขาธุรกิจค้าปลีก หรือธุรกิจปลายน้ำอย่างต่อเนื่องนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยผลักดันธุรกิจต้นน้ำและธุรกิจกลางน้ำที่อยู่ภายใต้กลุ่มบีเจซีให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายอัศวินกล่าว