ผู้จัดการรายวัน 360 - ‘เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์’ หรือ ‘ONEE’ พร้อมเปิดขายหุ้น IPO ที่ 7.50-8.50 บาทต่อหุ้น มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท เปิดจองซื้อวันที่ 20-21, 25-26 ต.ค.นี้ หวังระดมทุนเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตคอนเทนต์สู่ตลาดต่างประเทศ หลังพบตลาดออนไลน์มาแรง OTT แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ “เน็ตฟลิกซ์-ดิสนีย์พลัส” เล็งไทยบูมเซาท์อีสต์เอเชีย
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (ONEE) เปิดเผยว่า จุดแข็งของ ONEE คือมีช่องทีวีเป็นของตัวเอง และเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ พร้อมเก็บสถิติข้อมูลต่อยอดรายได้ มีอีเวนต์คอนเสิร์ต บริการสตูดิโอขนาดใหญ่ และมีโซเชียลมีเดียที่ขึ้นท็อปฮิต
ปัจจุบันคอนเทนต์มีความแตกต่างจาก 20 ปีก่อนอย่างมาก มีการเจาะกลุ่มเซกเมนต์มากขึ้น รู้จักกันในเฉพาะกลุ่ม ซึ่ง ONEE ได้รวมคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายกลุ่มมาอยู่ร่วมกันเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ได้หลากหลายมากขึ้น
ล่าสุดปีนี้จึงพร้อมเปิดขายหุ้น IPO เพื่อระดมทุนในการพัฒนาศักยภาพในการนำคอนเทนต์สู่ตลาดต่างประเทศ โดยก้าวสำคัญของ ONEE คือการประมูลช่องทีวีดิจิทัลเพื่อสร้างความแน่นอนในการออกอากาศ แต่มันกลับมาพร้อมกับดิจิทัลดิสรัปชัน เป็นเรื่องที่ทั้งกลัว ตกใจ และตื่นเต้น แต่ก็เป็นแรงผลักดันที่ต้องอยู่ให้รอด จึงกลับมามองตัวเองว่าเราเป็นใคร ในสถานะของการเป็นคอนเทนต์โพรวายเดอร์ที่มีช่องทีวีเป็นของตัวเอง ต้องมองหาคอนเทนต์ในการออกอากาศ เพราะในความเป็นจริงคนไม่ได้หยุดดูทีวีแต่ดูมากขึ้นจากหลายช่องทาง จึงมุ่งหาช่องทางการออกอากาศเพิ่มขึ้น
ดังนั้น หากมองย้อนกลับไปใน 7 ปีที่ผ่านมาถือเป็นการมาถูกทางมากๆ ถ้าไม่มีช่องทางเหล่านี้ ONEE ก็จะไม่ได้รับความนิยมขนาดนี้ และจากล่าสุดในปี 63 มีการปรับการบริหารคอนเทนต์กันใหม่ ทำให้มีคอนเทนต์มากขึ้น และรับทำการตลาดให้ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ปีนี้จึงมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ จึงพร้อมทำ IPO เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
“การระดมทุนครั้งนี้จะช่วยให้เราสามารถเพิ่มศักยภาพในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สามารถพัฒนานักแสดงหน้าใหม่มากฝีมือเข้าสู่วงการบันเทิง ยกระดับคุณภาพของคอนเทนต์ไทยสู่ระดับสากล และเพิ่มขีดความสามารถในการนำคอนเทนต์ไปสู่ผู้ชมในต่างประเทศ ซึ่งจะทำให้ ONEE สามารถขยายฐานผู้ชมได้ในทุกช่องทาง และส่งเสริมให้เราก้าวสู่ความเป็นผู้นำที่เชื่อมโลกการรับชมทุกแพลตฟอร์มเพื่อส่งมอบบันเทิงและความสุขให้คนไทยและผู้ชมทั่วโลกสู่การเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายถกลเกียรติกล่าว
นายระฟ้า ดำรงชัยธรรม ประธานเจ้าหน้าที่การตลาดกลุ่ม ONEE กล่าวต่อว่า ONEE มีกลยุทธ์ในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจในพฤติกรรมของผู้ชมที่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เรายังได้มุ่งขยายฐานผู้ชมไปสู่ระดับสากลผ่านเครือข่ายพันธมิตร OTT Platforms ทั้งในและต่างประเทศ เช่น Netflix, LINE TV, Disney+ Hotstar, WeTV, Viu, TRUE ID, AIS Play, IQIYI เป็นต้น ผ่านรูปแบบการบริหารลิขสิทธิ์และการรับจ้างผลิตให้แก่แพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ
ปัจจุบัน ONEE มีฐานผู้ชมครอบคลุมทั้งในประเทศไทยและอีกกว่า 15 ประเทศทั่วโลก ซึ่งส่งผลให้เราเป็นผู้นำในธุรกิจการผลิตและสร้างสรรค์คอนเทนต์ของคนไทยอย่างแท้จริง โดยปีนี้ผลิตคอนเทนต์ได้ 7,000 ชั่วโมง แต่ละชั่วโมงทำกำไรมากขึ้นทุกปี จากปี 61 กำไรอยู่ที่ 40% ส่วนปีนี้ปัจจุบันกำไรเพิ่มเป็น 52% ซึ่งเกิดจากการบริหารคอนเทนต์จากต้นทุนเพียงครั้งเดียว ต่อยอดสร้างรายได้จากหลายช่องทาง โดยมองทีวี ออนไลน์ และต่างประเทศ เป็น 3 ตลาดที่สำคัญสุด
ในส่วนของ 1. ทีวี จากอันดับ 8 ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 ส่วนรายได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของตลาดทีวีรวม 2. ออนไลน์ โฟกัสทั้ง 3 จุด คือ โซเชียลเน็ตเวิร์ก, OTT แพลตฟอร์ม และ Own แพลตฟอร์ม และ 3. การสร้างการรับรู้ในระดับสากล จากข้อมูลที่พบว่าเน็ตฟลิกซ์พร้อมลงทุนในตลาดเอเชียเพิ่มเป็นเท่าตัว หรือใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึง ดิสนีย์พลัส กับแผนลงทุนในเอเชีย 5 ปีนับจากนี้ จะใช้งบลงทุนเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 6-9 เท่า เนื่องจากมองเห็นศักยภาพตลาด OTT โดยเฉพาะในเซาท์อีสต์เอเชียที่โตขึ้น 10% ทุกปี บวกกับจำนวนประชากรกว่า 600 ล้านคน เทียบเท่ากับฝั่งยุโรป ซึ่งไทยถือเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์รายที่ 3 ที่น่าจับตามอง รองจากเกาหลี และจีน ที่ทางเน็ตฟลิกซ์และดิสนีย์พลัสอยากจะเข้ามาลงทุนด้วย
“ONEE ต้องการสร้างอีโคซิสเต็มส์ที่สมบูรณ์เพื่อนำไปสู่การสร้างคอนเทนต์ที่สามารถออกสู่ตลาดต่างประเทศได้ โดยหลังเปิดขายหุ้น IPO ในแง่ของรายได้ ONEE จะโตดี” นายระฟ้ากล่าว
สำหรับการเปิดขายหุ้น IPO ช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้นที่ 7.50-8.50 บาทต่อหุ้น กำหนดจากผลตอบรับและความสนใจเบื้องต้นของนักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ หรือคิดเป็นมูลค่าเสนอขายไม่เกิน 3,722-4,218 ล้านบาท โดยเปิดจองซื้อวันที่ 20-21, 25-26 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานของ ONEE ในปี 2561-2563 มีอัตราเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีรายได้รวม 4,199 ล้านบาท, 4,818 ล้านบาท และ 4,875 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 7.7% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 73 ล้านบาท 228 ล้านบาท และ 658 ล้านบาท ตามลำดับ