"เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย" ปิดแผนปั้นอาณาจักร JKN สู่ Content Comerce Company นำประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ ต่อยอดสร้างฐานความเข้มแข็งให้แก่ช่อง JKN18 ตั้งเป้าดันเรตติ้งติด 1 ใน 10 เพื่อหนุนกลุ่มธุรกิจ Commerce ให้แข็งแกร่ง ย้ำเป้าหมาย 3 ปีทำรายได้รวม 5,000 ล้านบาท
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ JKN เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายผลักดันองค์กรไปสู่การเป็น Content Commerce Company ภายใน 3 ปี ข้างหน้า โดยจะนำจุดแข็งของธุรกิจคอนเทนต์ในฐานะที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของภูมิภาคนี้ จากการถือครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์จากแบรนด์ดังระดับโลกและจำหน่ายให้แก่คู่ค้าเพื่อซื้อลิขสิทธิ์นำไปออกอากาศผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียมและช่องทางออนไลน์ รวมถึงเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์รายการข่าวภายใต้ลิขสิทธิ์ CNBC ที่ให้ความไว้วางใจ JKN ในการผลิตรายการข่าวภายใต้แบรนด์ JKN-CNBC สำนักข่าวเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลกสู่ไทย ที่สร้างมาตรฐานการผลิตรายการข่าวในระดับสากลมาสู่วงการข่าวในประเทศไทย เพื่อนำมาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลช่อง JKN18
ทั้งนี้ ช่อง JKN18 ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ในเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ นับตั้งแต่ได้เข้าเป็นสมาชิกในตลาดทุนตั้งแต่ ปี 2017 และเป็นจิ๊กซอว์ที่เข้ามาช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้แก่ JKN ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคอนเทนต์มามากกว่า 20 ปี และเป็นผู้ถือครองลิขสิทธิ์คอนเทนต์ที่หลากหลายทั้ง 8 กลุ่ม รวมถึงการผลิต รายการข่าวภายใต้ JKN-CNBC สร้างความได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่จะทำให้ช่อง JKN18 มีการนำเสนอคอนเทนต์ที่ครอบคลุมทั้งสาระและความบันเทิง สร้างการยอมรับให้แก่วงการทีวีดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งมีฐานผู้ชมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยจะเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้ JKN สามารถใช้ช่อง JKN18 ต่อยอดเข้าสนับสนุนการดำเนินงานของธุรกิจคอมเมิร์ซ ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เจเคเอ็น เบสท์ ไลฟ์ (JKN Best Life) เพื่อสื่อสารให้เห็นถึงคุณภาพผลิตภัณฑ์ แบรนด์ต่างๆ และจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มผู้ชมโดยตรง หรือ D2C ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ควบคู่กับการขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทีวีดาวเทียม JKN Hi Shopping สนุกทุกการชอป ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับกลุ่มฮุนได โฮมช้อปปิ้ง ประเทศเกาหลี ที่จะสร้างประสบการณ์การเลือกซื้อสินค้าที่มากกว่าการชอปปิ้งในรูปแบบเดิมได้ตลอด 24 ชั่วโมง สอดรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าในยุค New Normal
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการใช้กลยุทธ์การตลาด ‘ซูเปอร์สตาร์มาร์เกตติ้ง’ เพื่อสร้างแบรนด์สินค้าในทุกผลิตภัณฑ์ของกลุ่มคอมเมิร์ซ ซึ่งประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อสุขภาพและความงามทั้งแบรนด์ Olig Fiber (โอลิก ไฟเบอร์), V-Allin (วี ออลิน), Hair now (แฮร์นาว), Instinct (อินสติงท์) และ C-TRIA by Anne JKN (ซีเทรีย) เครื่องดื่มสมุนไพรสกัดผสมวิตามิน ได้แก่ Dragon X (ดราก้อน เอ็กซ์) และ Tiger X (ไทเกอร์ เอ็กซ์) นอกจากนี้ ยังสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ด้วยการเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเพื่อรองกับเทรนด์ของผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ โดยมีแผนนำสารสกัดจากกัญชงมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากสารสกัดกัญชงมากกว่า 50 รายการ ภายในปี 2022
“เรามีเป้าหมายในอีก 3 ปีข้างหน้าที่จะผลักดันช่อง JKN18 ให้ได้รับความนิยมสูงสุดติด 1 ใน 10 ของประเทศ และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่ช่วยสนับสนุนกลุ่มธุรกิจคอมเมิร์ซของ JKN ให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง และยั่งยืนในระยะยาว ด้วยเป้าหมายรายได้ที่จะเพิ่มเป็น 5,000 ล้านบาท และขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การเป็น Content Commerce Company อย่างเต็มตัวได้ตามแผนงานที่วางไว้” นายจักรพงษ์ กล่าว