กรมเจ้าท่าระดมกำลังกู้เรือจมที่อยุธยา ล่าสุดลากออกจากจุดเกิดเหตุได้แล้ว เร่งค้นหาผู้สูญหาย “อธิรัฐ” สั่งหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ ประกาศลดเรือพ่วงให้ลากได้ไม่เกิน 3 ลำเพื่อความปลอดภัย
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุเรือล่มที่แม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2564 บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งคาดการณ์ว่าเป็นเพราะกระแสน้ำจากแม่น้ำป่าสักและน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลมาบรรจบกันทำให้น้ำเชี่ยวเกิดเป็นน้ำวนอยู่ใต้น้ำ ซึ่งทำให้ผู้ควบคุมเรือไม่สามารถควบคุมทิศทางของเรือได้และเป็นเหตุให้เรือจมลง ตนได้สั่งการด่วนที่สุดไปยังอธิบดีกรมเจ้าท่าให้เร่งระดมความช่วยเหลือในการกู้เรือที่จมอยู่ การเร่งค้นหาผู้ที่สูญหาย และมาตรการป้องกัน ดังนี้
1. ระดมสรรพกำลังในการวางแผนและเครื่องจักรเพื่อเร่งกู้เรือให้พ้นจากเส้นทางเดินเรือเพื่อเปิดการเดินเรือในบริเวณดังกล่าว รวมทั้งการเร่งค้นหาผู้สูญหาย ทั้งนี้ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
2. ให้เข้มงวดและกวดขันเรือทุกลำต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด
3. ให้ประกาศแจ้งเตือนผู้ใช้เส้นทางสัญจรทางน้ำเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ โดยเฉพาะในช่วงฤดูน้ำหลากหรือเมื่อต้องผ่านพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง
4. เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบที่เกิดจากเหตุการณ์ดังกล่าว
5. รายงานความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง
6. ให้กรมเจ้าท่ากำหนดมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียเช่นนี้อีก โดยกรมเจ้าท่าได้ออกประกาศลดจำนวนเรือพ่วงลงจากปกติลากไม่เกิน 4 ลำ เป็นไม่เกิน 3 ลำ เพื่อความปลอดภัย
สำหรับความคืบหน้าการกู้เรือล่าสุดวันที่ 1 ต.ค. 2564 ได้ประสานชุดนักประดาน้ำจากกองทัพเรือและศูนย์กู้ภัยอยุธยา รวม 8 นาย เพื่อนำเชือกลงไปผูกกับตัวเรือที่ความลึก 20 เมตร ให้ได้จำนวน 4-5 เส้น
โดยกรมเจ้าท่าแจ้งว่า นักประดาฯ ได้นำเชือกเส้นที่ 5 ดำลงผูกกับตัวเรือ และสลับชุดพักระหว่างดำเนินการเป็นระยะเพื่อปลอดภัย โดยเมื่อครบทั้ง 5 เส้นจะทำการลากเรือทวนน้ำมาทางด้านแม่น้ำป่าสัก พร้อมลากขึ้นฝั่งบริเวณหน้าวัดพนัญเชิง และใช้เรือเครน (ขณะนี้เดินทาง จอดอยู่ ใต้สะพานพระราม 9 เพื่อเติมน้ำรอดสะพานกรุงเทพ และสะพานพุทธ) ลากออกไปไว้ ณ จุดปลอดภัยและไม่กีดขาวงทางเดินเรือต่อไป ทั้งนี้ การดำเนินการกู้เรือฯ ได้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นเมื่อคืนนี้
