“สมอ.” กระโดดป้องอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศไทย พร้อมเจรจาอินโดนีเซียหลังออกระเบียบไม่เป็นธรรมขัดหลักการ “WTO” เตรียมนำประเด็นหารือในเวที Committee on TBT ครั้งที่ 85 ภายใต้ WTO วันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2564 ที่นครเจนีวา
นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า เมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้มอบหมายให้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เร่งติดตามและให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยจากกรณีที่ประเทศอินโดนีเซียได้กำหนดมาตรการลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เหลือเพียง 35% ภายในปี 2565 ซึ่งได้เริ่มนำมาตรการลดการนำเข้ามาใช้ โดยเพิ่มขั้นตอนและกำหนดโควตาการนำเข้าสินค้า รวมถึงให้หน่วยงานภายในประเทศที่ให้บริการออกใบรับรองสินค้าตามมาตรฐาน SNI (Indonesian National Standard) ระงับการตรวจประเมินโรงงานผลิตสินค้าในต่างประเทศ ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ของไทย โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ
“กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายส่งเสริมการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก โดยการอำนวยความสะดวกในด้านมาตรการทางกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ แต่ยังมีผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของไทยประสบปัญหาอย่างต่อเนื่อง จึงได้กำชับ สมอ.ให้ติดตามดูแลใกล้ชิดในประเด็นกติกาการค้าที่ต้องเป็นธรรมและไม่กระทบต่อการส่งออกของไทย” นายจุลพงษ์กล่าว
นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กล่าวว่า กรณีดังกล่าวถือว่าอินโดนีเซียมิได้ปฏิบัติตามกฎกติกาสากลที่องค์การการค้าโลก (WTO) กำหนดไว้ที่ต้องมุ่งเน้นในเรื่องความโปร่งใสและการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันของสมาชิก WTO ซึ่งมาตรการที่เกิดขึ้นนับเป็นการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers : NTBs) ทำให้ผู้ประกอบการไทยเสียโอกาสในการส่งออกสินค้า จึงขอให้อินโดนีเซียพิจารณามาตรการเพื่อลดอุปสรรคทางการค้าให้แก่ผู้ประกอบการของไทย ตามพันธกรณีความตกลงที่ประเทศสมาชิกต้องถือปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน และหากอินโดนีเซียยังไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าว สมอ.จะหยิบยกเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นหารือในเวทีการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า (Committee on TBT) ครั้งที่ 85 ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-12 พฤศจิกายน 2564 ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส
“สมอ.เป็นผู้แทนประเทศไทยด้านกฎระเบียบของสินค้าอุตสาหกรรมในเวทีการค้าโลก มีหน้าที่ปกป้องดูแลและสนับสนุนผู้ส่งออกให้ได้รับความสะดวกไม่ถูกกีดกันทางการค้าจากกฎระเบียบที่ไม่เป็นธรรม และยังต้องปฏิบัติตามกติกาที่ WTO กำหนดขึ้น เราจึงต้องนำประเด็นนี้ไปหารือในเวทีระดับสากล” เลขาฯ สมอ.กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากมาตรการของประเทศอินโดนีเซียแล้ว ยังมีมาตรการของประเทศฟิลิปปินส์และอินเดียที่ต้องจับตามองซึ่งกำลังจะออกมาส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกไทย เช่น ฟิลิปปินส์กำหนดให้ต้องปิดฉลากประหยัดพลังงานเพื่อแสดงประสิทธิภาพพลังงานที่ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ และหลอดไฟ ตามกฎระเบียบที่ฟิลิปปินส์กำหนด ซึ่งได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการศึกษารายละเอียดก่อนที่จะดำเนินการส่งออกสินค้า เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎระเบียบมาตรการของประเทศนั้นๆ ได้อย่างถูกต้อง สำหรับอินเดียได้ประกาศห้ามนำเข้าเครื่องปรับอากาศที่บรรจุสารทำความเย็นแล้ว ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ผลิตสินค้าเรียบร้อยแล้วไม่สามารถส่งออกได้ ทำให้มีปริมาณสินค้าตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งในเรื่องนี้ สมอ.และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จะได้หารือกับอินเดีย แล้วหาทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระยะยาวต่อไป